จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซ้อนแผนจับกุมตัว นายซู ซิง เลย (Mr.Su Xing Rui) อายุ 33 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.5716/2567 ลงวันที่ 26 พ.ย. 67 ในข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย” ได้ที่ โรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่งย่าน ถ.เพชรบุรี กทม.
ภายหลังใช้แผน “ล่อเสือออกจากถ้ำ” โดยใช้นกต่อสาวสวยล่อให้คนร้ายมาติดกับดัก แต่ความวิปริตก็เกิดขึ้น เมื่อคนร้ายดันร้องขอกับนางนกต่อให้หาผู้ชายอีก 1 คน สวมชุดแฟนตาซี มาร่วมหลับนอนด้วยแบบสวิงกิ้ง โดย ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น ปลอมตัวสวมชุดคอสเพลย์เป็นนักมวยปล้ำ จนโลกออนไลน์แห่ให้ความสนใจ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 4 ธ.ค. 67 ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา หรือ ผู้กองพารา รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ปลอมตัวสวมชุดนักมวยปล้ำคอสเพลย์ เปิดเผยกับ “ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี”ว่า
หลังได้รับข้อมูลจาก สน.พญาไท ที่ผู้เสียหายไปแจ้งความแล้ว เราจึงทำการสืบข้อมูลจนพบว่าผู้ต้องหาชอบเล่นแอปพลิเคชันหาคู่ เราจึงใช้นกต่อในการเล่นแอปฯ และพูดคุยกับผู้ต้องหา ทำให้รู้ว่าตัวผู้ต้องหามีความวิกลจริต ด้วยคำพูดของผู้ต้องหาที่มีการชวนมีเพศสัมพันธ์ลักษณะแปลกๆ แต่ตอนนั้นทางเรารู้ทันทีว่าผู้ต้องหาติดกับดัก จึงทำการนัดเจอ
แต่ทั้งตัวผู้ต้องหาได้แสดงความต้องการให้มีผู้ชายเพิ่มมาอีกหนึ่งคน โดยสวมใส่ชุดมวยปล้ำคอสเพลย์ ซึ่งในตอนนั้นในทีมก็หารือกันว่าจะเอาใครสวมชุดมวยปล้ำ หวยก็มาตกที่ตน เนื่องจากรูปร่างของตนมีความใกล้เคียงนักมวยปล้ำมากที่สุด และตนก็ดูโรคจิตมากที่สุด ใกล้เคียงกับความต้องการของตัวผู้ต้องหา
โดยระหว่างนั้นก็มีการส่งรูปของตนให้กับผู้ต้องหาดู ซึ่งวินาทีนั้น ตนคิดเป็นอย่างเดียวว่าต้องช่วยผู้เสียหายให้ได้โดยเร็วที่สุด และป้องกันไม่ให้มีเหยื่อเกิดเพิ่มขึ้นอีก
จนกระทั่งถึงวันนัดเจอ เราก็ได้ทำการเตรียมสถานที่ย่านถนนเพชรบุรี ซึ่งก่อนที่ตัวผู้ต้องหาจะมา เจ้าตัวได้มีการขอให้ตนถ่ายรูปคู่กับนกต่อ เพื่อส่งไปให้กับเจ้าตัวได้ดู เพื่อยืนยันว่าพร้อมแล้ว ตนก็ใส่ชุดมวยปล้ำ และถ่ายส่งไป ผู้ต้องหามาถึงก็แสดงอาการชอบตกใจ ตนก็บอกให้ผู้ต้องหานั่ง จากนั้นตนก็เช็กว่าใช่ผู้ต้องหาคนนี้หรือไม่ หลังจากพอแน่ใจแล้ว ก็ส่งเสียง ’ฮี่ ๆ ๆ ๆ’ เป็นสัญญาณให้เจ้าหน้าที่อีกหกคนเข้ามาทำการจับกุม
สำหรับกระแสในโซเชียลที่ชื่นชมชุดทีมสืบนครบาลตอนนี้ ตนต้องบอกว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ไม่ใช่แค่ตนคนเดียว เป็นแค่องค์ประกอบหนึ่ง ทุกคนคิดเพียงสิ่งเดียวคือต้องการปกป้องผู้เสียหาย และปกป้องป้องกันเหตุที่จะเกิดเกิดขึ้นในอนาคต นี่คือสิ่งที่ตนภูมิใจ อย่างไรก็ตามหลังปฏิบัติการครั้งนี้สำเร็จครอบครัวและเพื่อนๆ ก็แซวหนักมาก
Advertisement