คลิปวงจรปิดภายในสำนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานีขณะที่คนร้ายหนึ่งรายเข้ามาก่อเหตุฉุ ดตัวผู้หญิงออกไปจากออฟฟิศก่อนนำขึ้นรถเก๋ง ซีวิคสีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ทางเจ้าหน้าที่ตจำรวจทางหลวงที่ประจำการลาดตระเวนในพื้นที่ทราบเรื่อง จึงดำเนินการตรวจสอบจนพบรถเก๋งเป้าหมาย จึงไล่ล่ารถเก๋ง ที่ก่อเหตุที่พยายามหลบหนีด้วยการขับรถย้อนศรสวนเลนรถคันอื่นที่ใช้ถนนอยู่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามได้ลำบาก ก่อนจะมายอมจอดและลงจากรถที่บริเวณแยกท่าทองใหม่ ฝั่งมุ่งหน้าเข้าตัวเมือง พื้นที่ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือเหยื่อและผู้ก่อเหตุได้สำเร็จ
โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.20 น.วันที่ 13 ธ.ค.67 เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุภ.จว.สุราษฎร์ธานี(ศูนย์191) รับแจ้งว่าน.ส.สุธีมาสน์ อายุ 25 ปี หลานสาวได้ถูกนายภาสกร อายุ 27 ปี สามีที่แยกกันอยู่ เข้ามาฉุดลักพาตัวขึ้นรถเก๋ง ก่อนพาหลบหนีไปทางนอกเมือง จึงได้ประสานและเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงและสภ.ใกล้เคียงตั้งจุดสกัดตามแผน
จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น.ร.ต.ต.ธวัชชัย ใจห้าว รองสารวัตรส.ทล.5กก.2บก.ทล.(สุราษฎร์ธานี)ที่กำลังรถวิทยุตรวจการ2506 และ2516 ออกตรวจตรวจพบกับรถต้องสงสัยคันดังกล่าว ที่บริเวณแยกซอย10 จึงได้ขับไล่ตามรถต้องสงสัยคันดังกล่าวไปตามเส้นทางสายสุราษฎร์-นาสาร
โดยผู้ก่อเหตุก็เร่งหนีการจับกุมอย่างสุดชีวิต เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานทางสภ.ให้เข้าช่วยสกัดจับ บางช่วงผู้ก่อเหตุได้ขับขี่รถย้อนศรเพื่อหลบหนี และได้ขับรถชนด้านหน้ารถเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงที่ไล่ล่าได้รับความเสียหาย โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณแยกท่าทอง พื้นที่ของสภ.กาญจนดิษฐ์
โดยที่น.ส.สุธีมาสน์ปลอดภัยดี แต่ต้องนำตัวส่งตรวจร่างกายที่รพ.สุราษฎร์ธานี เพราะยังมีอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนนำตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนต่อที่สภ.เมืองพื้นที่ก่อเหตุ โดยมีพ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ รองผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.นิพลชาตรี ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.ยศ ชาวเรา รองผกก.สส.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานีร่วมสอบสวนคดี
จากการสอบสวนนายภาสกร บอกว่า ตนเองเคยเป็นอดีตตำรวจยศส.ต.ต.ที่สน.หนึ่งในกทม.และถูกให้ออกจากราชการเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากขาดราชการเกินกำหนดเวลา และได้กลับมาอยู่ที่บ้านที่ อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช และได้เจอกับภรรยาและลูกประมาณ 6 เดือน ก่อนภรรยาได้ขอหย่ าพร้อมจะเปลี่ยนชื่อและนามสกุลของลูก 2 คนที่เกิดกับตน เนื่องจากครอบครัวของภรรยาไม่ให้เจอและกีดกันมาตลอดตั้งแต่เริ่มต้น
นายภาสกร ผู้ก่อเหตุยอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้ามา และที่ได้ลงมือก่อเหตุเพราะจะมาหาภรรยา แต่ฝ่ายภรรยาไม่ยอมเจอกับตนเอง จึงได้บุกไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่ภรรยาทำงานอยู่ ก่อนที่จะใช้มือล็อกคอขึ้นรถแล้วพาหลบหนีไปดังกล่าว
ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัตินายภาสกร พบว่าเคยก่อเหตุคดีทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวตกใจในพื้นที่สน.วังทองหลาง ก่อเหตุชิงทรัพย์ในพื้นที่สภ.ฉวาง และวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่สภ.ไม้เรียง จ.นครศรีธรรมราชในวันเดียวกัน และวิ่งราวทรัพย์ในพื้นที่สภ.ฉวา งจ.นครศรีธรรมราช อีกหนึ่งคดีโดยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวตรวจปัสสาวะพบว่าเป็นสีม่วงก่ อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมือง ดำเนินคดีในข้อหา "ขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย,ทำให้เสีทรัพย์,เสพยาเสพติดขณะขับขี่และถ้าผู้เสียหายมาแจ้งความก็จะเพิ่มขอหากับผู้ก่อเหตุตามกฎหมายต่อไป
Advertisement