วันที่ 14 ธ.ค. 67 ที่ตลาดพ่อพรหม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(สอท.) ร่วมกับมูลนิธิพระราหูนำทีมตำรวจไซเบอร์ ตำรวจภูธร จ.สงขลาตำรวจ สภ.หาดใหญ่ ลงพื้นที่แจกถุงยังชีพให้กับชาวบ้าน และครอบครัวตำรวจที่เดือดร้อนจากเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตามโครงการใจถึงใจ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน
พร้อมกับให้ความรู้ชาวบ้าน และการป้องกันในเรื่องของการหลอกลวงทางออนไลน์ทุกรูปแบบ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์และการซื้อขายทางออนไลน์ เพื่อให้ชาวบ้านได้รู้เท่าทันเลห์กลไม่ตกเป็นเหยื่อของโจรออนไลน์
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่า อาชกรรมทางออนไลน์เป็นภัยอันดับหนึ่งที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในปัจจุบัน และได้รับแจ้งเรื่องวันละกว่า 1,000 เคส หากสงสัยว่าถูกมิจฉาชีพโทรมาหลอกให้โอนเงินอ้างว่าเป็นตำรวจ ดีเอสไอ เจ้าหน้าที่รับหน่วยงานต่างๆ เช่น สรรพากร การไฟฟ้า ดารประปา หรือห้างร้าน แอปพลิเคชันเชิญชวนให้เข้าร่วมกิจกรรม ไม่ว่าจะรูปแบบใดๆ ก็ตามให้ตัดสายทิ้งทันทีแล้วโทรไปที่หมายเลข 1441 ซึ่งเป็นสายด่วนตำรวจไซเบอร์ ที่จะรับปรึกษาข้อสงสัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แจ้งเบาะแสและขอความช่วยเหลือ
และระหว่างที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพให้กับชาวบ้านทั้งที่ตลาดพ่อพรหม รวมทั้งลงพื้นที่ไปมอบถุงยังชีพให้กับผู้ป่วยติดเตียงถึงบ้านในย่านตลาดพ่อพรหมก็ได้รับข้อมูล และการร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่เคยตกเป็นเหยื่อถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินไปเกือบเกลี้ยงบัญชี
รายแรกเป็นคุณป้าข้าราชการเกษียณ ซึ่งถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอกเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมาว่า มีพัสดุส่งมา แต่พัสดุชำรุดจะรับผิดชอบให้ แต่ว่าขอให้เข้าไลน์เพื่อที่จะส่งรูปพัสดุมาให้ดู ปรากฏว่าถูกดูดเงินที่ก็บสะสมมา 49,999 บาท เหลือติดบัญชีอยู่แค่ 27 สตางค์
คุณป้า บอกว่า ตอนนั้นเกือบที่จะกระโดดน้ำสะพานข้ามคลองอู่ตะเภาฆ่าตัวตาย แต่มาคิดอีกที ถ้าตายไปพวกนี้ก็จะไปหลอกคนอื่นอีก ก็เลยนำเรื่องนี้มาเตือนเพื่อนๆ ให้ระวังเพื่อไม่ให้ใครถูกหลอกอีก
อีกรายรายเป็นหญิงสาวที่สามีถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้โอนเงินไป 4 แสนบาท เหลือติดบัญชีอยู่แค่ 195 บาททุกวันนี้ก็ยังแบกภาระผ่อนดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่รูดไปให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
หญิงสาวรายนี้ เล่าว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ก.ย. 65 มีผู้หญิงอ้างชื่อ ชนิตา โทรมาหาสามีบอกประมาณว่าค้างชำระภาษีอากร หากไม่ชำระจะถูกดำเนินคดี และยังมีชื่อเป็นหุ้นส่วนบริษัทอยู่ที่ จ.ขอนแก่น และบริษัทนี้ค้างชำระภาษี และยังเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน และยังส่งเอกสารว่าถูกธนาคารฟ้องร้องมาด้วย หากไม่เกี่ยวข้องก็ต้องโอนเงินมาให้ตรวจสอบ และให้โอนเงินทุกบัญชีมาไว้ในบัญชีเดียวกันรวมถึงวงเงินในบัตรเครดิต สามีหลงเชื่อจึงโอนเงินในบัญชี และรูดบัตรเครดิตโอนไปให้ 4 แสนบาท ในชื่อ นายปการ
หญิงสาวรายนี้ บอกว่า หลังจากที่สามีโอนเงินไปแล้ว และรู้ว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก ทีแรกตนก็โทรกลับไปก็ยังเบอร์ติดต่อมา ซึ่งอ้างชื่อว่า ชนิตา และยังแนะนำขั้นตอนการเข้าแจ้งความให้ด้วย แต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็จบ
โดยเหตุการณ์ทั้งสองเคสนี้ ทาง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ได้รับเรื่องไว้และพยายามช่วยเหลือทั้งสองรายอย่างเต็มที่ และนำรูปแบบวิธีการเบอร์โทรที่นำมาใช้ไปเป็นข้อมูล เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลไม่ให้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ
Advertisement