เปิดปฏิบัติการ ทลายรัง นักเลงปราจีนบุรี Ep.1
ตำรวจภูธรภาค 2 เปิดปฏิบัติการ ค้น 5 จุดทลายรัง นักเลงปราจีนบุรี ลูกน้องโกทร Ep.1
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจหลายหน่วยงานประกอบด้วย กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 2 กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี หน่วยปฏิบัติการพิเศษปราจีนบุรี และตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกันเปิดภารกิจทลายรังนักเลง EP.1 สืบเนื่องจากเหตุสังหารนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง คาบ้านนายสุนทรวิลาวัลย์ หรือโกทร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี โดยวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา จนนำมาสู่การดำเนินคดีนายสุนทรพร้อมพวกรวม 7 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดย เจตนาและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คอนเทนต์แนะนำ
เช้าวันนี้ 15 ธ.ค.67 ตำรวจ ได้นำหมายศาลจังหวัดปราจีนบุรีเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งเป็นบ้านพักจำนวน 5 จุดของคนใกล้ชิดโกทร 4 ราย ที่มีความเกี่ยวข้องเป็นหัวคะแนนคนสำคัญของโกทรมานานหลายปี ในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ 3 จุด จำนวน 2 คน อ.ประจันตคาม 1 จุด 1 คน และ อ.บ้านสร้าง 1 จุด 1 คน
จุดแรกในพื้นที่หมู่ 3 ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ทำการของนายแอ้ด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลัก ที่ทางตำรวจต้องการตัวมากที่สุดคนหนึ่ง เนื่องจากมีรายงานว่า ในวันเกิดเหตุยิง สจ.โต้ง นายแอ๊ดได้เข้าไปพบโกทรที่บ้านหลังเกิดเหตุ จากการตรวจในจุดนี้ พบมีบ้านอยู่ 2 หลัง หลังหนึ่งเป็นที่ทำการของผู้ใหญ่แอ๊ด อีกหลังเป็นที่พักของผู้ดูแลบ้าน บริเวณด้านหลังเป็นโรงงานรีไซเคิลขยะ มีเนื้อที่ขนาดประมาณ 3 ไร่เศษ ซึ่งมีคนงาน 2 รายอยู่ภายในโรงงานส่วนภายในบ้านพบพ่อบ้านอีก 1 คน พักอาศัยอยู่ในบ้านผู้ดูแล ตำรวจแสดงหมายค้น พ่อบ้าน ยินยอมพาเข้าตรวจค้นแต่ในระหว่างการตรวจค้น แต่ขอทำบันทึกภาพในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจค้นไว้เป็นหลักฐานด้วยเช่นกัน
การตรวจค้น 30 นาที พบอาวุธปืน 2 กระบอกในบ้านผู้ดูแล เป็นปืนลูกโม่ขนาด .38 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 22 นัด และปืนแม็กกาซีน ขนาด .38 อีก 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวน 13 นัด ซึ่งทั้ง 2 กระบอก ทะเบียนผู้ครอบครองถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งทั้ง 2 กระบอกเป็นปืนของพ่อบ้าน
พ่อบ้าน ให้การกับตำรวจว่า ตนเป็นพี่เขยของผู้ใหญ่แอ๊ด เข้ามาดูแล พื้นที่นี้มานานกว่า 2 ปีแล้ว ที่ผ่านมา ผู้ใหญ่แอ๊ดจะเข้ามาที่นี่ก็จะเมื่อมีลูกบ้านเข้ามาขอคำปรึกษา หรือลูกบ้านเข้ามาร้องเรียนเรื่องราวต่างๆ แต่ผู้ใหญ่แอ๊ดไม่ได้เข้ามาที่นี่นาน 3 วันแล้วเนื่องจากมีธุระที่กรุงเทพฯ ส่วนโกทรส่วนตัวไม่รู้จัก แต่ได้ยินชื่อเพราะถือเป็นผู้บุคคลกว้างขวางในพื้นที่ปราจีนบุรีอยู่แล้ว นอกจากนี้ตำรวจยังเข้าตรวจค้นร้านทอง ของผู้ใหญ่แอ๊ดอีก 1 จุด
จุด 3 ในอำเภอศรีมหาโพธิ เป็นโรงงานขยะรีไซเคิลของนายโจ้ๆ ถือเป็นคนที่ตำรวจต้องการตัวมากที่สุดในปฎิบัติการทลายรังนักเลงในวันนี้ เนื่องจากพบพฤติการณ์ เช่นเดียวกับผู้ใหญ่แอ๊ด ในวันเกิดเหตุ มีการเข้าออกบ้านของโกทร ก่อนที่ สจ.โต้ง ถูกยิงเสียชีวิตไม่นาน แต่การตรวจค้นไม่พบตัวนายโจ้เช่นเดียวกัน
จุดที่ 4 เป็นบ้านพักของนายพงศกร เลขาส่วนตัวโกทร ในอำเภอบ้านสร้าง ในการตรวจค้นพบปืนลูกโม ขนาด 22. กระสุน 6 นัด พร้อมกับ ลูกกระสุนปืนลูกซอก 5 นัด ( ไม่มีใบอนุญาตแสดงตอนตรวจค้น ) และใบอนุญาตครอบครองปืนซึ่งไม่ตรงกับปืน และเครื่องกระสุนปืนที่ตรวจยึดได้ ตำรวจตรวจยึดไว้ตรวจสอบ และแจ้งความดำเนินคดีในข้อหามีปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมควบคุมตัวนายพงศกร กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี
จุดสุดท้าย จุดที่ 5 เป็นบ้านพัก ในอำเภอประจันตคาม ซึ่งในจุดนี้ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายและตัว บุคคลเป้าหมาย เช่นเดียวกัน
นายพงศกร เลขาส่วนตัวของนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทร เปิดเผยในระหว่างเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามพรบ.อาวุธปืน และให้ปากคำ ที่กองบังคับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี หลังจากตกเป็นหนึ่งใน 5 เป้าหมายที่ทางตำรวจระดมกำลังเข้าตรวจค้นที่บ้านเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาและพบอาวุธปืนของกลางดังกว่าวว่า ปืนกระบอกดังกล่าวเป็นของพ่อ ส่วนเครื่องกระสุนนั้นมีมานานกว่า 10 ปีแล้ว ตนก็จำไม่ได้ว่ามีที่มาอย่างไร ซึ่งเครื่องกระสุนดังกล่าวนั้นพบเจอในตู้เซฟและไม่เคยนำมาใช้งานแต่อย่างใด ไม่กังวลในเรื่องนี้ กรณีที่ตำรวจเดินหน้าปราบปรามผู้มีอิทธิพลในพื้นที่และเจ้าตัวยังตกเป็น 1 ในกลุ่มเป้าหมายว่ารู้สึกอย่างไร นายกรยืนยันว่า ไม่เคยมีอิทธิพลใด ๆ เพราะไม่เคยทำผิดกฎหมาย ไม่รู้สึกอะไรเพราะผมไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล และไม่กังวลอะไร
ส่วนผู้ใหญ่แอ๊ดนั้น ก็รู้จักเป็นปกติเพราะเป็นนักการเมืองท้องถิ่น แต่ไม่เคยทำธุรกิจด้วยกัน เช่นเดียวกับนายโจ้ ตนรู้จักในฐานะเพื่อนจังหวัดเดียวกัน เพียงแต่ไม่มีความสนิทกันแต่อย่างใด ส่วนเต็งหนึ่ง ไม่รู้จักเลย
Advertisement
