เพราะเรื่องความตาย เป็นเรื่องที่รอไม่ได้ โครงการบ้านหลังสุดท้าย โดยวัดราษฎร์ประคองธรรม บริการทำศพฟรี..ให้คนยากไร้
"คำว่าไม่มีมันเป็นทุกข์ เราไปเห็นคนไม่มี แล้วถ้าเราไม่ช่วยเขา เขาก็ต้องเป็นหนี้เป็นสินอีก เราต้องทำด้วยใจ เมื่อเราตั้งใจจะทำฟรีแล้ว ต้องให้ฟรีทุกอย่าง รถรับส่งก็ต้องฟรี เพราะฉะนั้นพวกเราอย่าไปรับปัจจัยโยมนะ ถ้ารับแปลว่าพวกเราไม่ใช่โครงการบ้านหลังสุดท้ายและเพื่อช่วยเหลือโยม" พระครูกิตติวิริยาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ประคองธรรม และเจ้าคณะอำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรี พูดถึงโครงการบ้านหลังสุดท้าย ช่วยเหลือทำศพคนยากไร้
ความตั้งใจ ช่วยทำศพ ครอบครัวคนยากไร้ โดยไม่คิดเงิน
พี่แป๊ะ อาสาสมัครโครงการบ้านหลังสุดท้าย เล่าว่า มาอยู่ที่วัดตั้งแต่เด็กแล้วเติบโตมาจากที่นี่มาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ ทำงานรับใช้หลวงพ่อเจ้าอาวาสมาหลายรุ่นแล้ว พอมารุ่นผมพอไปเห็นคนยากคนจนตอนปี 2554 ที่น้ำท่วม บางครั้งก็ต้องเอาศพลอยน้ำเอาโลงลอยน้ำมาเพื่อมาเผาที่นี่มันก็มีความทุลักทุเลแล้วบางคนเขาก็ไม่ได้มีเงินด้วย ตอนนั้นหลวงพ่อก็มีแนวคิดว่า เราจะทำอย่างไร ถ้าคนที่เขาไม่มีเงินแล้วเขาต้องการจะมาทำศพที่วัดของเรา ก็เลยทำให้เกิดโครงการบ้านหลังสุดท้าย วัดราษฎร์ประคองธรรม ขึ้นมา
ใครที่ไม่มีเงินทำศพเขาก็จะติดต่อมาที่เรา ซึ่งเมื่อก่อนจะเป็นที่รู้จักแค่วงแคบๆ ไม่ได้กว้างขวางขนาดนี้ เดือนนึงก็มีสักศพสองศพที่เขาจะติดต่อมาให้เราช่วย แต่หลังจากช่วงสถานการณ์โควิดที่มันหนักๆ วัดราษฎร์ประคองธรรมเป็นวัดอันดับหนึ่งที่เผาผู้เสียชีวิตจากโควิดมากที่สุด และที่สำคัญฟรีทุกขั้นตอน เพราะเราไม่รู้ว่าคนที่เสียจากโควิด ใครรวยใครจน ทุกคนอยู่ในถุงใส่ศพหมด จนกลายเป็นว่าทุกวันนี้เป็นที่ทราบเป็นวงกว้างว่าวัดราษฎร์ประคองธรรมเป็นปลายทางของผู้เสียชีวิตที่เขาไม่มีเงินทำศพ เขาก็จะติดต่อมา
ไม่ว่าใกล้หรือไกล ดึกดื่นแค่ไหนก็ต้องไปช่วย
มันจะมีหลายเคส อย่างเคยไปจังหวัดปราจีนบุรี ไปรับศพกลับมา สวดอภิธรรม เผาเสร็จต้องไปส่งญาติกลับที่ปราจีนเพราะว่าไม่มีเงินค่ารถกลับ หลวงพ่อยังเมตตาเอาข้าวสารอาหารแห้ง ของกินของใช้ใส่รถไปฝากกัน เป็นแบบนี้มาแล้วหลายเคส ล่าสุดที่เป็นข่าวก็คือ จ.อุทัยธานี เคสนั้นรับสายในช่วงบ่ายของวันหนึ่ง ที่มีผู้หญิงโทรมาด้วยเสียงที่เศร้ามาก เขาดูสิ้นหวังทุกอย่างเพราะไม่รู้จะพึ่งใคร เขากลัวว่าเราจะไม่ไป แต่เราก็บอกเขาไปว่าสบายใจเถอะครับ ถ้าผมรับสายแล้ว ไม่ว่าใกล้แค่ไหน ผมก็ไป
เพราะเรื่องความตาย เป็นเรื่องที่รอไม่ได้
สแตนด์บาย 24 ชั่วโมง ขอให้เอกสารพร้อม อย่างเสียในบ้านบางเคสมีความจำเป็นว่าเจ้าของบ้านไม่อนุญาตให้เอาศพอยู่ในบ้านได้ค้างคืน เขาให้เอาศพออกตอนนั้นจะเอาไปไว้ที่ไหนก็เอาไป เพราะเขาไม่อยากให้มีคนตายอยู่ในบ้านเช่าของเขา มีหลายเคสครับที่จะต้องเอาศพออกตอนกลางคืน การทำงานของเราบางทีก็จะตีสี่ตีห้า บางเคสเอาศพออกจากโรงพยาบาลตอน 6 โมงเช้า ต้องเอาศพออกภายใน 1 ชั่วโมง เป้ฯเรื่องที่เราต้องรีบเข้าดำเนินการ เพราะไม่เช่นนั้นเขาจะเอาศพไปไว้อีกที่หนึ่ง แล้วมันจะมีเรื่องค่ารถค่าฝากศพค่าอะไรสารพัด ญาติไม่มีเงินเลย พอเขาโทรมา 6 โมงเช้า ตะวันยังไม่ขึ้น พวกผมก็ทำงานไปรับศพกันแล้ว นี่คือมันเป็นความทุกข์ของคนซึ่งเรารอไม่ได้ เราต้องรีบไปช่วยเขา
ทุกคนญาติเสียมีความเศร้า คนรวยเสีย ญาติเขาก็เศร้า พ่อเสีย แม่เสีย เขาก็ทำอะไรไม่ถูก แต่เขาไม่ได้สนหรอกว่าจะใช้จ่ายงานศพของเขา แต่คนที่เขาญาติเขาเสีย เขาเสียใจเท่ากันนะคนจนคนรวย แต่สิ่งที่มันช้ำใจก็คือ ไม่มีเงินไปทำศพ พ่อเขาแม่เขาลูกเมียเขา ไม่มีเงินเลย บางเคสออกไปหาเงิน 3 วันแล้วเอาศพไว้ในบ้าน ไม่ได้บอกใครเพราะกลัวเจ้าของบ้านเขาจะมาไล่ เอาศพไว้ในบ้าน 3 วัน วิ่งไปหาวัดต่างๆ วิ่งไปขอกู้เงิน ไปหาที่ทำศพ ก็ไม่มี จนมาถึงผม เข้าไปทำถามว่าทำไมเป็นแบบนี้ เขาบอกเขาหาเงินไม่ได้เลย 3 วัน ศพนี่ขึ้นอืดอยู่บ้าน เราก็ไปรับไปทำมาไม่ได้รังเกียจ
มันมีหลายเรื่องราว แต่เราก็ไม่เคยดีใจกับการเสียชีวิตของใคร คิดอย่างเดียวคือเราทำเราได้ช่วยเขาอย่างดีที่สุดไหม ไม่ได้ช่วยทางกายอย่างเดียว ช่วยจิตใจด้วย
เพราะเข้าใจเลยอยากช่วย
เขามีความลำบาก เขาโทรหาผม ผมมีความอยากจะไปช่วยเขาเอง เราเป็นอาสา อยากไปช่วยเขาเพราะเรารู้ทุกขั้นตอน มันเสียค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่มีขั้นตอนไหนที่จะไม่เสียเลย แล้วถ้าเราไม่เข้าไปยุ่งกับเรื่องนี้ เชื่อไหมครับญาติผู้เสียชีวิตจะต้องเป็นหนี้เป็นสิน ต้องไปกู้ไปยืมเงิน ผมคิดว่าบางดวงวิญญาณที่เขาไปเกิดแล้ว แต่ญาติยังใช้หนี้ไม่หมดเลย
เริ่มต้นตั้งแต่รับสายโทรศัพท์ รู้พิกัดว่าศพนี้อยู่บ้านอยู่โรงพยาบาล ชื่อ-นามสกุล น้ำหนัก ส่วนสูง ตายด้วยสาเหตุอะไร เราต้องถามให้หมด เพราะว่าเราจะได้เตรียมไป อย่างบางคนตายในบ้านสามสี่วัน เราก็ต้องใส่ถุงซิป มาถึงก็ต้องเอามาสวดแล้วก็เผา แต่อย่างบางคนเขามีญาติ แต่ญาติอยู่ไกลต้องรอ เราก็เอามาสวดอภิธรรม 1 คืน ตามโครงการบ้านหลังสุดท้าย สวดหนึ่งคืนรุ่งขึ้นเลี้ยงเพลพระ ซื้ออาหารใส่ถุงใส่กล่องใหญ่ญาติเอาไปถวายพระคุณเจ้า เพื่อให้เกิดอานิสงค์แก่เขา อันนี้วัดเลี้ยงเพลให้ด้วย หลังจากนั้นก็มาฌาปนกิจ ทำพิธีทอดผ้า เหมือนที่เราไปงานศพ เหมือนกันทุกประการ แต่ต่างกันว่าเจ้าภาพเขาไม่ต้องเสียเงินเท่านั้นเองครับ
เชื่อไหมครับ บุญมันอิ่มที่สุดเลย ถ้าทำอะไรแล้วไม่ได้หวังว่าจะได้ก่อนให้ ขณะให้ และหลังจากให้ คุณทำได้ 3 อย่างนี้ คุณจะมีความสุขที่สุด
Advertisement