นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุในงานสัมมนาพรรคเพื่อไทยว่า ไม่ชอบอีแอบ จากกรณีที่มีรัฐมนตรีบางคน ไม่ร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี ในการพิจารณากฎหมายสำคัญ ว่า เป็นการพูดถึงคนที่ไม่เข้าร่วมประชุม ซึ่งตนก็บอกแล้วว่า ได้เข้าประชุม และมีการติดต่อประสานงานอยู่ตลอดเวลา ขออย่าไปใส่ใจเรื่องพวกนี้ เพราะวันนี้นายกรัฐมนตรีก็จะเดินทางไปเยือนประเทศมาเลเซีย และตนก็จะไปด้วย พรรคกล้าธรรม ก็ไป
ส่วนฝ่ายค้าน ออกมาวิจารณ์ ถึงเสถียรภาพของรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่มี ไม่มีหรอก”
ส่วนมีความจำเป็นต้องเคลียร์ใจกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ต้อง เมื่อเช้าก็ยังได้โทรรายงานนายกรัฐมนตรี เพื่อขอแนวทาง หลังจากที่จับกุมพวกลักลอบเข้าเมืองจากประเทศเมียนมา จำนวน 68 คน ว่าจะดำเนินการอย่างไร เมื่อกระทรวงมหาดไทยจับ ก็มีประเด็น ที่ไปเกี่ยวกับกรณีที่เมียนมา จับ 4 ลูกเรือไทย จึงต้องโทรรายงานนายกรัฐมนตรี แสดงให้เห็นว่า เป็นการทำงานที่ให้เกียรติกัน และแสวงหาความร่วมมือ เพื่อให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ทั้งนี้การส่งสัญญาณของนายทักษิณนั้น หมายถึงใคร นายอนุทิน สายหน้าพร้อมกล่าวว่า “ไม่ใช่หมายถึงผมแน่ๆ ก็แล้วกัน แต่หมายถึงใคร ก็ต้องไปถามท่านดู เพราะท่านเป็นผู้พูด และท่านไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่เราก็รู้ว่าไม่ใช่เรา เพราะท่านหมายถึงคนที่ไม่ได้ไปร่วมประชุมครม. แต่ผมไปมันก็จบ ผู้สื่อข่าวก็เห็น คนที่ยืนถัดจากนายกก็คือผม ในการแถลงข่าวหลังการประชุมครม. ขอย้ำว่าอย่าไปใส่ใจ เรื่องเล็กๆน้อยๆ หยุมหยิม “
ส่วนการออกมาพูดเช่นนี้ ของนายทักษิณ นั้นเป็นการแทรกแซงการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ตนไม่ทราบว่านายทักษิณพูดในฐานะอะไร แต่เรื่องนี้ผ่านไปแล้ว และไม่มีอะไรต่อเนื่องออกมา และไม่มีใครออกมายอมรับว่าเป็นตัวเอง ซึ่งในวันอังคารที่ 17 ธ.ค. ก็จะประชุมครม. นัดต่อไป ทุกอย่างก็จบ โดยที่ผ่านมาต้องดูว่า มีอะไรที่เกิดความติดขัด เพราะพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ก็ไม่มี และโดยหลักการ ก็ถูกต้องแล้วที่ต้องสนับสนุนซึ่งกันและกัน พรรคไหนเสนออะไร พรรคร่วมรัฐบาลก็สนับสนุน เช่นเดียวกัน พรรคร่วมรัฐบาลเสนออะไร พรรคแกนนำก็สนับสนุน ทุกอย่างคือความต้องการทั้ง 2 ฝั่ง
ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลได้สนับสนุนนโยบาย ของพรรคแกนนำอยู่แล้วใช่หรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนทำอยู่แล้ว ตราบใดที่อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญและไม่ผิดกฎหมาย เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และประเทศชาติจะไม่ทำได้อย่างไร เราพูดชัดเจน อะไรที่อยู่ในนโยบาย เรารับทราบ และก็ต้องสนับสนุน ตอนนายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อสภา เรารับฟังหมดแล้วและก็สนับสนุน
ส่วนอะไรที่ไม่ได้อยู่ในนโยบาย ถ้าจะทำต้องมาพูดคุยกัน เพราะมีหลายเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในนโยบาย ก็มาพูดคุยและสนับสนุนกัน โดยอยู่ในกรอบที่ไม่ผิดกฎหมาย อย่าทำร้ายและเป็นผลร้ายกับประเทศ และประชาชน ถ้าเป็นตามกรอบนี้ เราก็ตกลงถ้าไม่เป็นอย่างนั้นเราก็ไม่ ย้ำว่าเราสนับสนุนซึ่งกันและกัน พรรคเพื่อไทยเสนออะไร พรรคร่วม ทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคกล้าธรรม พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคชาติไทยพัฒนา ก็สนับสนุน หากพรรคร่วมเสนออะไรและพรรคแกนนำสนับสนุน เท่านี้ก็ไปได้ตลอดอยู่แล้ว
Advertisement