เปิดใจ แม่ "แนว"หนึ่งในลูกน้องโกทร แจงดรามาลูกฉันเป็นคนดี

เปิดใจ แม่ "แนว" แจงทุกข้อสงสัย ชี้ลูกไปทำงานกับโกทร แค่ 1 เดือน เพื่อเลี้ยงครอบครัว คนเป็นแม่ก็ต้องบอกว่า "ลูกชั้นเป็นคนดี"

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ แม่ "แนว"หนึ่งในลูกน้องโกทร แจงดรามาลูกฉันเป็นคนดี

ปปง. ส่งอัยการ ยื่นคำร้องยึดทรัพย์ บอสดิไอคอน รวม 286 ล้านบาท

พรรคร่วมรัฐบาลแน่นปึก ยิ้มแย้มตอกย้ำสัมพันธ์อันดี

วันที่ 16 ธ.ค.67 จากกรณีที่เพจ บิ๊กเกียน โพสต์ถึงนายธนภัทร หรือ แนว อายุ 18 ปี หนึ่งในผู้ต้องหาคดียิง สจ.โต้งเสียชีวิต ทำนองว่า สายลับ บิ๊กเกรียน รายงานว่า ตำรวจเข้าสอบ น้องแนว-ธนภัทร 1 ใน 6 ลูกสมุนโกทร พบร่วมดวลปืนกับลูกน้อง สจ.โต้ง

ตำรวจชุดคลี่คลายคดีสังหาร สจ.โต้งในบ้าน โกทร พบหลักฐานปรากฎว่า ธนภัทร หรือแนวอยู่ในที่เกิดเหตุ และมีการใช้อาวุธ

น้องแนว เป็นเด็กโกทร และยายให้สัมภาษณ์ บอกว่า #หลานยายเป็นคนดี #ไม่เคยพกปืน

แต่ความจริง เมื่อน้องแนวหลานรักของยาย เข้าไปรับใช้เป็นเด็กบ้านโกทร จะพกปืน กร่างอวดโชว์ ข่มขู่ ชาวบ้านตลอด

ต่อมาทีมข่าวเดินทางไปพูดคุยกับนางแมว ( นามสมมุติ ) แม่ของน้องแนว หรือ ธนภัทร 1 ใน 6 ลูกสมุนโกทร เธอเปิดใจกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ถึงโพสต์ดังกล่าวว่าความจำเป็นที่ต้องเข้าไปทำงานดูแล “ โกทร” ของลูกชายเกิดจากทางบ้านมีปัญหาเรื่องครอบครัว และการเงินขาด ไม่สามารถนำมาต่อทำทุนขายอาหารได้

น้องแนว ลูกชายก็อยากจะช่วยเหลือจุดนี้ ประกอบกับเพิ่งปลดจากการสมัครใจเป็นทหารมา ก็เลยยังไม่มีงานทำแปลว่าค่าใช้จ่ายจึงตกมาอยู่ที่เธอทั้งหมด เธอหาคนเดียวไม่ทัน คิดว่าถ้ามีเงินซักก้อนคงจะดี เอามาจุนเจือครอบครัว

พอดีมีคนมาถามต้องหาคนไปช่วยดูแล โกทร ขับรถ พยุงตัว ไปซื้อข้าว ซื้อน้ำ เธอก็ถามลูกชาย ลูกชายตกลงก็เลยตัดสินใจให้เข้าไปทำ ซึ่งลูกชายก็พูดกับเธอตลอดและตรงกับความคิดเธอคือ “ อย่างน้อยมีงานก็จะช่วยเหลือพยุงครอบครัวไปได้ “

ซึ่งอยู่ไปก็ไม่มีปัญหา ไม่ได้มีเรื่องอะไร ตัวลูกชายก็หาเงินส่งให้ครอบครัวพึ่งเข้าได้ 1 เดือน แต่ทางครอบครัวต้องการใช่เงินไปหมุนทำทุนขายของ ใช้หนี้ ลูกชายเองก็ไปขอเบิกมาได้ 8,000 บาท ด้วยความที่ทำงานแค่ 1 เดือนลูกชายก็ไม่กล้าเบิกเยอะได้มา 8,000 ลูกบอกแม่เอาไปจ่ายค่าบ้านค่ารถ แต่ยังไม่ทันได้เกิดเรื่องก่อน

เธอเองมีลางสังหรณ์ใจอยู่ลึก ๆ เพราะช่วงนี้ใกล้เลือกตั้งใหม่ กลัวลูกชายจะมีปัญหา ใจก็อยากให้ถอยออกมา และหางานที่ทำแล้วได้เงิน ลูกชายก็โอเค ยังบอกเธอว่าขออยู่อีก 1 เดือนหาเงินมาช่วยครอบครัวก่อน เธอก็ย้ำกับลูกว่าถ้ามันดูแล้วไม่ไหวให้ออกดีหรือไม่ เพราะเธอเป็นห่วงลูกชายเนื่องจากครอบครัวเธอมีกันแค่ 3 แม่ลูก

ที่เธอรู้สึกดีใจคือลูกชายถามไถ่ตลอด หนี้สินเท่าไหร่ จะได้เบิกมาจ่ายให้ ซึ่งทาง โกทร ก็ช่วยเหลือดีกับลูกชายตลอด ซัพพอร์ตในเรื่องต่างๆ เงินก็ให้มาใช้ ไม่คิดว่าจะมีปัญหาจนกระทั่งหนักขนาดนี้

ก่อนจะเกิดเหตุได้คุยกับลูกชาย ลูกชายก็กลัวว่าเธอจะอยู่ไม่ได้ จนกระทั่งตกผลึกกันได้จะอยู่ต่อ ลูกก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน

ส่วนประเด็นเรื่องที่มีคนมองว่าน้องแนว ลูกชายเธอใช้ปืนข่มขู่ หรือกร่าง เธอยอมรับลูกชายมีเพื่อนเยอะ เพราะเคยเป็นพลทหาร วัยรุ่นเธอไม่เคยปฎิเสธว่าลูก ๆ หลาน ๆ จะดื้อ จะซน

นางแมว เล่าย้อนให้ฟังว่าช่วงที่เธอเปิดร้านอาหารแถวอำเภอเมืองปราจีนบุรี ครอบครัวเธอที่ถูกคุกคามและ ทำร้ายร่างกายด้วยซ้ำ โดนคนรอบตัวลูกชายยิงบาดเจ็บสาหัส เดือนต่อมาโดนยิงตายเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 คาร้านอาหารเธอจนเธอต้องปิดร้าน ถามว่าลูกทุกคนครอบครัวก็คงจะพูดว่า “ ลูกฉันเป็นคนดี” เธอมองว่าก็ถูกต้อง “ ถ้าช่วยเหลือครอบครัว ดูแลครอบครัวดี เธอมองว่าคนเป็นแม่ ก็จะเรียกเหมือนที่เธอ เรียกลูกว่า “ ลูกชั้นเป็นคนดี “ เพราะเรื่องที่ลูกเธอเจอ 2-3 เรื่องที่ถูกกระทำมา ถ้าลูกเธอคิดแค้นจริงคงไปเอาเรื่องแล้วโดนทั้ง ติดคุก เจ็บ ตาย

ส่วนเรื่องที่ลูกกร่าง โชว์ปืน ข่มขู่ สำหรับเธอไม่เคยเห็นพฤติกรรมแบบนี้ แต่ถ้าลูกไปทำกับใครยังไง เธอเองก็คงจะรับรู้แต่เข้าใจวัยรุ่น เด็กบางคนก็โชว์ปืน เธอบอก เธอสอนลูกตลอด ให้แยกตัวออกมา ถ้ามีคนมาทำก็แค่แจ้งความ เธอพยายามอยู่นิ่งๆ มากๆแล้ว ส่วนลูกไปยิง ไปข่มขู่ เธอไม่เคยได้ยินมา

ตอนนี้ห่วงความปลอดภัยของลูกข้างในด้วย ออกมาก็ไม่รู้จะยังไง เธอเองเป็นแม่ ก็รู้แค่ว่าลูกไปทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว แต่พอผลเป็นแบบนี้ ก็รู้สึกผิดว่า ส่งลูกไปทำงานแต่ลูกกลับเจอเหตุการณ์แบบนี้

ส่วนประสบการณ์ที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าน้องอาจจะยิงปืนเป็น เท่าที่เธอรู้เรื่องลูกเข้าไปเป็นพลทหารเพียง 6 เดือนถามว่ามีเรียนอะไรบ้าง เธอก็ไม่รู้ได้แต่ก็คงมีให้จับปืนบ้าง แต่เธอก็บอกไม่ได้ว่าลูกทำหรือไม่ ใจเธอก็ยังเชื่อว่าลูกบริสุทธิ์ใจ