พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ คำมูล สารวัตรสอบสวน สภ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบซากช้างป่ามีบาดแผลคล้ายถูกยิงตายอยู่ในสวนยางพารา ซอยทางเข้าสำนักสงฆ์วัดป่าเขาไผ่ หมู่ 9 ต.พวา รอยต่อ หมู่ 8 ต.ขุนซ่อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
หลังรับแจ้งต่อมาได้พร้อมกับ ทหารพรานที่ 13 ,ชุดปฏิบัติการพิเศษ 613 หนองมะค่า , ฝ่ายป้องกันแก่งหางแมว , ชุดผลักดันช้างป่ากองเรือแตก และผู้นำท้องถิ่น เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากถนนประมาณ 200 เมตร พบซากช้างป่าเพศผู้ เป็นช้างพลายหนุ่ม มีงาสองข้างยาวประมาณ 7-8 นิ้ว อายุ 7-10 ปี น้ำหนักประมาณ 1.5 ตัน
จากการตรวจสอบตามตัว พบบาดแผลเป็นรูขนาด 2 เซนติเมตร คล้ายถูกยิงด้วยกระสุนปืน ที่บริเวณใบหูขวาทะลุขมับ 2 แห่ง ที่ขาซ้ายหน้าช่วงข้อพับ 1 แห่ง และที่ขาหลังขวาช่วงส้นเท้าอีก 1 แห่ง นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มิลลิเมตร จำนวน 2 ปลอก ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ถ่ายภาพและตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า สวนยางที่เกิดเหตุเจ้าของอยู่ จ.ระยอง โดยเช้าที่ผ่านมา คนงานกรีดยางชาวลาว เป็นผู้พบซากช้างและแจ้งผู้ใหญ่บ้าน เพื่อให้ประสานตำรวจมาตรวจสอบ
ขณะที่ นายประสิทธิ์ คำรักษ์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อายุ 50 ปี เปิดเผยว่า ช้างที่พบเป็นช้างกระจาย ไม่ใช่ช้างฝูง น่าจะเป็นช้างพลายหนุ่มที่ถูกจ่าฝูงไล่ออกมา ส่วนลักษณะรอยกระสุน คาดว่าเป็นการยิงเพื่อขับไล่หรือป้องกันตัว ทั้งนี้ต้องรอผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่
ด้าน นายมิตร วิรัตน์ อายุ 60 ปี ชาวสวนยางในพื้นที่ เผยว่าได้อาศัยทำกินอยู่ในพื้นที่มาตั้งแต่ปี 2528 ปัจจุบันพบว่ามีประชากรช้างเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และมักบุกรุกเข้ามาหากินพื้นที่เกษตรกรรม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากการถูกช้างทำร้ายหลายราย ขณะเดียวกันช้างป่าก็ถูกมนุษย์ทำร้ายด้วยเช่นกัน แม้จะมีชุดเฝ้าระวัง แต่ยังไม่ทั่วถึง
จึงอยากให้ภาครับหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มมาตรการดูแลและควบคุมประชากรช้างเพื่อลดความสูญเสียทั้งสองฝ่าย
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ประสานรถแบคโฮและรถบรรทุก 6 ล้อ จากเทศบาล ต.พวา เคลื่อนย้ายซากช้างไปยังหน่วยพิทักษ์ป่าคลองคก เพื่อให้ทีมสัตวแพทย์ สบอ.2 ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายและเก็บหัวกระสุน พร้อมทั้งเร่งสืบสวนหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
Advertisement