จากกรณีเครื่องบิน สายการบิน Jeju Air บรรทุกผู้โดยสารจำนวน 175 คน และลูกเรือ 6 คน ออกเดินทางจากประเทศไทย ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติเมือง Muan ของเกาหลีใต้ เกิดเหตุล้อไม่กาง ทำให้เครื่องบินเสียหลักไถลไปชนรั้ว ก่อนเครื่องจะระเบิด และไฟไหม้ในเวลาต่อมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเกือบยกลำ โดยมีคนไทย 2 คน รวมอยู่ด้วย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 30 ธ.ค. 67 ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.บุญสิตา ดวงมณี หรือ นาง อายุ 18 ปี หลานสาวของ น.ส.จงลักษ์ ดวงมณี อายุ 45 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็น 1 ในผู้เสียชีวิต ที่ น.ส.จงลักษ์รักเหมือนลูก
โดย น.ส.บุญสิตา กล่าวว่า ตัวเองก็รัก น.ส.จงลักษ์ ซึ่งเป็นมีศักดิ์เป็นอาเหมือนแม่แท้ๆ เพราะอาคนนี้ได้ส่งเสียเลี้ยงดูตัวเองมาตลอด ตนเองกับอาโทรศัพท์พูดคุยกันทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่อยู่เกาหลี หรือช่วงที่กลับมาไทย ขณะที่เมื่อคืนนี้ก่อนที่อาจะขึ้นเครื่องบินได้แชตมาหาตอน 5 ทุ่ม 50 นาที ถามว่า “นอนรึยัง แม่กลับก่อนเด้อ” ซึ่งตัวเองได้อวยพรให้ “เดินทางปลอดภัย”
หลังมีข่าวเครื่องบินเกิดอุบัติเหตุ ตนเองได้ทักหาอาทันทีถามว่าถึงรึยัง เพราะมีข่าวเครื่องบินระเบิด แต่อีกฝ่ายไม่ตอบ จึงตัดสินใจโทรไปหา แต่ปรากฎว่าติดต่อไม่ได้
น.ส.บุญสิตา กล่าวว่า ตนเองเสียใจมากที่อาต้องมาเสียใจชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ ซึ่งไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีข่าวร้าย แต่ก็ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ มีลางสังหรณ์หลายอย่าง เริ่มตั้งแต่อาเดินทางกลับมาจากเกาหลี พร้อมกับสามีชาวเกาหลีก็ได้ไปเที่ยวที่จ.เชียงใหม่ จากนั้นได้ถ่ายรูปใส่กรอบ แล้วนำกลับมาไว้ที่บ้านที่ จ.อุดรธานี ซึ่งอาไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน นอกจากนี้ก่อนจะเกิดเหตุอายังเคยมาบอกกับตนเองด้วยว่า เดือนนี้จะส่งเงินให้พ่อของอาเดือนสุดท้ายแล้ว และจะไม่ส่งเงินให้อีก ทั้งยังบอกว่า จะอยู่เกาหลียาวๆ ไม่กลับไทยแล้ว
Advertisement