วันนี้ (13ม.ค.68) พันตำรวจเอก ทวีสอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์กรณี นายเอกลักษณ์ หรือ จ่าเอ็ม อายุ 41 ปี อดีตทหารนาวิกโยธินของกองทัพเรือ (ปัจจุบันถูกออกจากราชการ) ผู้ต้องหาก่อเหตุยิง นายลิม กิมยา อายุ 73 ปี อดีต สส.ฝ่ายค้านของกัมพูชา นั้น ตอนนี้ทราบว่ายังไม่มีการนำตัวจ่าเอ็มเข้ามาที่เรือนจำ ส่งซึ่งหากส่งมาก็จะมีการนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พันตำรวจเอกทวี ยืนยันว่า ผู้ต้องขังทุกคนเรา มีการดูแลความปลอดภัย ส่วนกรณีของจ่าเอ็มนั้นทางเรือนจำก็ต้องประเมินก่อน แต่สิ่งแรกที่อยากจะให้เห็นในเรื่องของการดูแลความปลอดภัยในเรือนจำ นอกจากมีพัศดีแล้วก็ยังมีอาสาสมัครที่ดูแลเรือนจำ ซึ่งเรียกว่า(อสรจ.) ที่ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี โดยจะดูเรื่องของความเจ็บป่วย ครอบคลุมไปถึง ความปลอดภัยของผู้ต้องขังในเรือนจำ
ซึ่งกรณีของจ่าเอ็ม ก็อาจจะมีการส่งอาสาสมัครไปดูแล และปัจจุบันเราก็มีกล้องวงจรปิดตาม พรบ. การป้องกันและปราบปรามการกระทำให้สูญหาย โดยจะมีการมอนิเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งเรือนจำยังมีระบบการประเมิน เช่นผู้ต้องหามีคู่อริหรือไม่ และผู้ราชทัณฑ์ที่เป็นสัญชาติเดียวกัน ซึ่งได้ กำชับไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และผู้บัญชาการเรือนจำ
เมื่อถามว่าคดีดังกล่าวเหมือนเป็นการจ้างเรือนจำจะมีมาตรการในการป้องกันฆ่าปิดปากอย่างไร พันตำรวจเอกทวีกล่าว และย้ำว่าอย่างที่บอกไปว่าเรามีมาตรการในการป้องกันรวมถึงมาตรการการข่าวในการดูแล ผู้ต้องขังและยืนยันว่าในเรื่องของการดูแลความปลอดภัยทางเรือนจำมีมาตรฐานเป็นสากล
ส่วนความกังวลว่าจะมีการตัดตอน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นภายนอกเรือนจำนั้น พันตำรวจเอกกวีกล่าวว่า ตนต้องขอขอบคุณข้อกังวลต่างๆ ซึ่งหากเป็นเคสในลักษณะอย่างนี้ตำรวจก็จะต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ
Advertisement