เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 16 ม.ค. 68 ที่ โรงแรมริเวอร์ไรน์เพลส โฮเทล แอนด์เรสซิเดนซ์ นาย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต พร้อมด้วย พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า นาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม นาย ณวัฒน์ อิสรไกรศีล หรือ บอส ณวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และเจ้าของลิขสิทธิ์มิสแกรนด์ไทยแลนด์
และผู้สาธิตแสดงเป็น แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ 5 คน ตกน้ำคนละ 1 ครั้ง ได้แก่ "น้องปอย" มิสแกรนด์นครพนม "น้องเฟริน" มิสแกรนด์นครสววรค์ "น้องฟ้าบาร์บี้" มิสแกรนด์เชียงใหม่ "น้องนิวหยก" มิสแกรนด์ชุมพร และ "ครูลิต้า" ครูว่ายน้ำสอนนางเงือก ขณะที่ผู้สาธิตแสดงเป็น "แซน" ได้แก่ "น้องหนูวรรณ" มิสแกรนด์ฉะเชิงเทรา ได้แถลงข่าวกำหนดการจำลองเหตุการณ์ตกเรือของ แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาว ที่เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 หรือ 3 ปีก่อน
นาย ปานเทพ บอกว่า วันนี้จะมีการจำลองเป็น แตงโมตกน้ำที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ถึง 7 ครั้ง คนที่ 1 คือ น้องปอย คนที่ 2 คือ น้องฟ้าบาร์บี้ คนที่ 3 คือ น้องแฟริน คนที่ 4 คือ น้องนิวหยก โดยขณะที่ทั้ง 4 คนนี้จำลองเป็น แตงโม จะมี น้องหนูวรรณ แสดงเป็น แซน
และเนื่องจากตัวของ น้องหนูวรรณ ที่เดิมทีจำลองเป็นเพียงแค่ แซน แต่วันนี้จะร่วมจำลองเป็น แตงโม ตกน้ำด้วย จึงจะจำลองเป็น แตงโม ในลำดับที่ 5 โดยในช่วง น้องหนูวรรณ ตกน้ำ จะให้ ครูลิต้า รับบทเป็น แซน ชั่วคราว แล้วหลังจากนั้น ครูลิต้าจะเป็นคนที่ 6 ในการสวมบทบาทเป็น แตงโม ตกน้ำ
ซึ่งเส้นทางในการจำลองใน 6 ครั้งแรก จะเป็นตามกำหนดการเดิมคือนั่งเรือจากท่าเรือโรงแรมริเวอร์ไรน์ เพลส โดยให้นักแสดงนั่งที่ท้ายเรือแล้วจับขา แซน ซึ่งแสดงโดย น้องหนูวรรณ เป็นหลัก ตามคำให้การของ แซน ซึ่งเรือจะวิ่งด้วยความเร็ว 8 นอต สลับกับความเร็วปกติ แต่เมื่อไปถึงท่าเรือพิบูลสงคราม1 จะให้เรือวิ่งด้วยความเร็ว 8 นอต และให้นักแสดงที่เป็น แตงโม จำลองการตกเรือตรงนั้น แล้วจะมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปรับโดยเจทสกีทันทีเพื่อพากลับมายังท่าเรือริเวอร์ไรน์ เพลส เพื่อทำความสะอาดร่างกาย ฆ่าเชื้อและเปลี่ยนชุด เนื่องจากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีเชื้อแบคทีเรียเยอะมาก
ส่วนคนที่ 7 หรือสุดท้ายคือ หมอธวัชชัย ซึ่งเส้นทางการนั่งเรือเดียวกัน จำลองเหมือนกัน แต่เมื่อตกน้ำที่ท่าเรือพิบูลสงครามแล้ว จะไม่มีการรับกลับมาที่ท่าเรือโรงแรมริเวอร์ไรน์ เพลสอีก เพราะอาจจะมีการจำลองเหตุการณ์อื่นๆเพิ่มเติมที่ท่าเรือพิบูลสงครามด้วย
แต่ก่อนจะลงไปจำลอง จะเริ่มต้นด้วยการไปไหว้ขอขมาพระแม่คงคาเพื่อเป็นขวัญกำลังใจก่อน แล้วจะให้อาสาสมัครทั้งหมดนั่งเรือดูกระแสน้ำ 1 รอบ จากนั้นค่อยเริ่มการจำลองจนครบ 7 ครั้ง
นายอัจฉริยะ บอกว่า วันนี้จะมีการเก็บตัวอย่างดิน เพื่อส่งให้ตำรวจกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยจุดแรกจะเป็นจุดที่แตงโมตกเรือ จุดที่สองจะเป็นจุดที่เรือกระชาก 3.3-10 น็อต จุดที่สามคือห่างจากท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ที่มีท่าทรายตรงประตูน้ำ ซึ่งจะมีโคลนทรายและใบไม้อยู่ ความลึกตรงจุดดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 4.3 เมตรจะเก็บโดยใช้แท่งพีวีซีในการเก็บชั้นดิน 60 ซม. จะมีอาจารย์จากกู้ภัยทางน้ำจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องกล้องถ่ายภาพใต้น้ำและเก็บตัวอย่างดิน ส่วนทีมของพี่ “ไทด์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์” จะรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยสูสุดด้วยการใช้ระบบเรือยาง แล้วจะมีเจ็ตสกีในกรณีฉุกเฉิน
นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ บอกว่าตัวเองมั่นใจมาโดยตลอดว่าการเสียชีวิตของแตงโม ไม่ได้เกิดจากความประมาท ไม่ได้พลักตกท้ายเรือ บาดแผลไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือและเส้นผม 3 เส้นเชื่อว่าเป็นพยานงอกที่มีคนสร้างขึ้นมา ไม่ได้เกิดจากแตงโม ไปตกที่ท้ายเรือแล้วเส้นผมไปติดอยู่ตรงกาบเรือ ด้านซ้ายและด้านขวาหรือข้างเบาะที่แซนนั่ง ซึ่งวันนี้ทุกคนจะได้เห็นจากหลักฐานที่ตนเปิดให้ดูตอนบ่าย 2 ว่าแซนไม่ได้นั่งท้ายเรือตามที่ตำรวจกล่าวอ้าง โดยหลักฐานชิ้นนี้จะเป็นภาพที่คมชัด ซึ่งตำรวจก็มีภาพนี้เช่นเดียวกัน แต่ดันมั่วว่ามีคนบนเรือ 6 คน แต่ที่ตนวิเคราะห์และดูกันแล้วยืนยันว่าบนเรือมีแค่ 5 คนเพราะแตงโมหายไปนานแล้ว
วันนี้ตนยอมเสี่ยงที่จะให้ตำรวจฟ้อง เพราะมีหนทางเดียวที่ตนจะสามารถเอาหลักฐานที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาอยู่บนดินได้ โดยใช้อำนาจของศาลอาญา ตนยอมโดนฟ้อง 6 คดี และถ้าตนแพ้คดีจะต้องถูกจำคุกมากกว่า 100 ปี และต้องเสียเงินชดใช้ค่าเสียหายให้กับตำรวจทั้งหมดมากกว่า 100,000,000 บาท และตนยอมเสียค่าทนายในครั้งนี้ประมาณ 600,000 บาทในการถูกตำรวจฟ้อง แต่ตนเห็นว่านี่มันเป็นเรื่องของความยุติธรรม ที่บิดเบี้ยวตั้งแต่กระบวนการในต้นทาง กลางทางและอาจจะบิดเบี้ยวไปจนถึงปลายทางด้วยซ้ำไป แต่ตนเชื่อว่านี่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า และตนก็ตั้งใจว่าจะทำคดีนี้ให้เหมือนกับคดีของ “บอส อยู่วิทยา”
สิ่งที่ตนวางกลยุทธ์ไว้ 3 ปีคือ 1. ตราบใดที่ศาลจังหวัดนนทบุรียังไม่มีการพิพากษาคดีชั้นต้นของแซนกับพวก อำนาจการแก้ไขคำฟ้องเป็นอำนาจของอัยการสูงสุด ซึ่งขณะนี้ได้รับความเมตตาจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนพิเศษ มาร่วมสังเกตการณ์และตรวจสอบสำนวนคำฟ้องของอัยการจังหวัดนนทบุรี เพื่อจะได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดยื่นต่ออัยการสูงสุด และยื่นให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม 2. พรุ่งนี้จะมีการร้องให้มีการสืบสวนสอบสวนข้อหาใหม่กับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นอดีตผบ.ตร อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจกองภาค 1 หรือพนักงานสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี หมอนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ รวมถึงเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานบางท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งคนบนเรือทั้ง 5 คนในฐานะผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการในข้อหาร่วมกันปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือร่วมกันทุจริตและร่วมกันช่วยเหลือคนบนเรือให้พ้นผิดหรือรับโทษน้อยลง โดยมีคนบนเรือทั้ง 5 คนให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่ต้องส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ซึ่งคนเหล่านี้ อาจจะเปลี่ยนคำนำหน้านามเป็น นช.
นายอัจฉริยะ บอกว่า หากวันนี้ขณะที่ตนทำคดีนี้คนบ้ายิงตนตาย ก็ไม่มีความหมาย เพราะยังมี “อาจารย์ปานเทพ” , “หมอธวัชชัย” และทีมงานรวมถึงครอบครัวของตนที่สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษตามอาญาแผ่นดินได้ แต่ที่ตนห่วงมากที่สุดนั่นคือคนบนเรือโดยเฉพาะ ความปลอดภัยของคนบนเรือที่ออกมาพูดเยอะ เผลอๆอาจจะหายไปก็ได้ ขอเตือนให้ระมัดระวัง
ซึ่ง นายอัจฉริยะ บอกว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ เพราะแตงโมใส่ชุดบอดี้สูท มีความล่อแหลมและมีการดื่มสุรา มันจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าเจตนาคือการต้องการล่วงละเมิดทางเพศ แต่บังเอิญว่าแตงโมมีประจำเดือน ก่อนจะทิ้งท้ายว่าตำรวจไทยสามารถทำได้หมด ไม่ว่าเป็นคดีไหนก็ตาม แต่ขึ้นอยู่กับว่าคดีนั้นเกี่ยวข้องกับใคร เกี่ยวข้องกับคนมีเงินหรือผู้มีอิทธิพลหรือไม่แค่นั้นเอง
ด้าน หมอธวัชชัย บอกว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่เคยมีความคิดที่จะกระโดดน้ำ แต่พอเห็นทีมมิสแกรนด์และครูลิต้าแสดงเจตจำนง ตนก็เลยรู้สึกว่าควรสร้างความเชื่อมั่นและแสดงความจริงใจ ให้กับทีมมิสแกรนด์และครูลิต้า ซึ่งที่ตนสัมผัสยืนยันว่าน้องๆไม่ได้หิวแสงและทำงานอย่างจริงจัง แค่ทุกคนอยากสร้างความจริง ส่วนคำถามของสังคมที่เห็นการทดลองตกเรือของตนและบอกว่าเป็นการเอนไปข้างหลัง สปริงตัวก่อนตกน้ำจึงทำให้ไม่โดนใบพัด ”หมอธวัชชัย“ บอกว่า ตนก็ทำตามคำให้การของคนบนเรือ แต่ถ้ามีข้อมูลว่าคนบนเรือให้การมากกว่านี้ ตนก็ยินดีที่จะทดสอบในรูปแบบอื่นๆให้ดู จะให้เอนไปข้างหน้า เอนไปข้างๆหรือเอนไปหลัง ก็สามารถทดลองดูได้
นายณวัฒน์ กล่าวว่า การต่อสู้ในครั้งนี้เป็นภารกิจสำคัญที่ได้รับการสนับสนุนจากบุคคลสำคัญทั้งสาม คือ คุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์, อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ ซึ่งเข้ามาร่วมมือเพื่อค้นหาความจริง
แตงโมเคยเป็นแฟนคลับมิสแกรนด์และเข้าร่วมชมการประกวดทุกปี การจากไปของแตงโมเป็นเรื่องสะเทือนใจ ซึ่งก่อนหน้านี้แม้มีการเคลื่อนไหวเรื่องคดี แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า จนกระทั่งคุณอัจฉริยะได้รับการถอนฟ้อง คดีนี้จึงกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง
เรามีมิสแกรนด์ 77 จังหวัด และการที่เราร่วมมือกันในครั้งนี้ ทำให้ข้อมูลข่าวสารกระจายตัวได้เร็วขึ้น แต่สิ่งที่เราอยากเน้นย้ำคือ ปัญหาของระบบกฎหมายไทยที่ไม่ยุติธรรม ไม่โปร่งใส คนไทยกว่า 90% เชื่อว่าแตงโมไม่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ
ยืนยันว่า มิสแกรนด์ไม่ได้เป็นเพียงเวทีความงาม แต่เป็นองค์กรที่พร้อมขับเคลื่อนทุกประเด็น ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม หรือการเมือง เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การเรียกร้องความยุติธรรมให้แตงโมคนเดียว เพราะแตงโมจากไปแล้ว แต่สิ่งสำคัญคือ เราต้องการความยุติธรรมในระบบกฎหมาย ไม่ให้ใครใช้อำนาจหรือกฎหมายในมือเอาเปรียบประชาชน
มั่นใจ 100% ว่าแตงโมถูกฆาตกรรม และย้ำถึงความสำคัญของสื่อมวลชนในการช่วยผลักดันประเด็นนี้ พร้อมกล่าวว่า หากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ไม่รับเรื่อง พวกเขาจะนำตัวแทนมิสแกรนด์ทั้ง 77 จังหวัดไปยื่นเรื่องถึง DSI ภายใน 10 วัน
การจำลองวันนี้ถ้ามันเป็นอุบัติเหตุจริง ก็ให้มันจบไป ทุกคนจะได้หายสงสัย แต่ถ้ามันคือการฆาตกรรม คนไทยต้องรู้ความจริง กฎหมายหรือผู้มีอำนาจจะไม่ได้อยู่เหนือความยุติธรรม เพราะเราในฐานะประชาชนที่เสียภาษีมีสิทธิ์เรียกร้องความจริง
นายณวัฒน์ กล่าวย้ำว่า การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่การหิวแสง เพราะมิสแกรนด์มีแสงอยู่แล้ว เราแค่แบ่งแสง เพื่อดันความจริงให้สังคมได้รับรู้ เพราะเราไม่เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับแตงโมเป็นพฤติกรรมปกติของมนุษย์
พร้อมฝากถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษว่า คดีนี้เป็นเรื่องที่ควรได้รับการตรวจสอบอย่างเหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือการฆาตกรรม เพราะนี่คือเสียงของประชาชนที่ต้องการความยุติธรรมและความโปร่งใสในสังคม
Advertisement