เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 16 ม.ค. นายตนุภัทร เลิศทวี หรือ ปอ ตนุภัทร และนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน วิศาพัช พร้อมด้วย นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ หรือ ทนายตุ๋ย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการจำลองเหตุการณ์การเสียชีวิตของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโมนิดา
โดย ปอ ตนุภัทร เปิดเผยว่า ตนเห็นด้วยกับการจำลองการตกเรือของแตงโมนิดา ที่ทำเพื่อให้ประชาชนคนทั้งประเทศได้เห็นภาพที่ไม่ได้มโน แต่ตนมองว่าการจำลองดังกล่าวไม่ตรงกับที่ แซน วิศาพัช เคยให้การในชั้นศาลไว้ เนื่องจากการตกไม่ได้ตกในลักษณะที่แซน วิศาพัชให้การ
โดยแซน วิศาพัช เคยให้การว่า ตอนแตงโม ตกจากเรือรุ่น ในระหว่างที่ปัสสาวะนั้น ก่อนที่จะพลัดตกเรือ แตงโม ได้เกาะเบาะไว้เป็นเวลากว่า 10 วินาที และได้ตกไปบริเวณฝั่งเครื่องยนต์ที่มีใบพัด เมื่อตกแล้วขาจะยื่นมาถึงช่วงใบพัด ตนจึงเชื่อว่าแตงโม ถูกดูดเข้าไปบริเวณดังกล่าว เพราะฉะนั้นการตกจะต้องตกอยู่ข้างๆเครื่องยนต์ ซึ่งการจำลองเหตุการณ์ตกเรือนั้นผู้ที่เป็นคนจำลองระหว่างที่ตก ได้ดีดตัวออกจากเรือ 45 องศา ตนจึงเชื่อว่าเครื่องยนต์จะไม่ดูด
และตนมองว่า การจำลองดังกล่าวไม่ตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ตนรู้สึกขอบคุณผู้จัดการจำลองที่ทำให้เห็นความชัดเจนมากขึ้น แต่ก็อยากถามว่า ”ถ้าท่านจำลอง และจำลองไม่เหมือนเหตุการณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ท่านจะจำลองทำไม ถ้าจะจำลองให้เหมือนถามว่าจะจำลองแบบไหน“
และจากที่ตนได้ไปขอคัดพยานหลักฐานในสำนวน ตนได้ทราบมาว่า ทางเจ้าหน้าที่รัฐหรือตำรวจได้เคยจำลองเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว และได้ทิศทางแล้วว่าตอนที่ตกลงไปวัตถุถูกดูดไปทางไหน และมีการเทน้ำสีแดงเพื่อทดสอบว่าน้ำหมุนไปในทางใด นอกจากนี้ยังมีการทดลองในหลายรูปแบบ ซึ่งผลก็ออกมาในลักษณะเดียวกัน ซึ่งการทดสอบก็จะต้องดูในเรื่องของสปีด เรื่องของช่วงเวลาน้ำขึ้นน้ำลงด้วย
อย่างไรก็ตามถึงแม้ตนอยากจะให้จำลองให้เหมือนจริง แต่ก็ไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำรอย เนื่องจากตนก็ได้สูญเสียเพื่อนไปแล้ว ตนมองว่าเหมือนเป็นการซ้ำเติมผู้เสียชีวิต ไม่อยากให้ผู้ใดนำการสูญเสียนี้มาเป็นกระแสหรือหาผลประโยชน์
ขณะที่ ทนายตุ๋ย กล่าวว่า จากการจำลองเหตุการณ์ดังกล่าวจะต้องมาพิจารณาว่าเป็นการกระทำที่กระทบถึงใครไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือกระทบไปถึงภาครัฐด้วยหรือไม่ และในทางกฎหมาย ตนไม่เคยกังวลใจ เนื่องจากพยานหลักฐานที่มีต้องเป็นพยานหลักฐานใหม่ที่มีอยู่แล้วไม่ได้สร้างขึ้นมา และจะต้องมีการผ่านหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยผ่านกระบวนการสืบสวนสอบสวนอย่างถูกต้อง แต่เหตุการณ์ในวันนี้ตนมองว่าเป็นการสร้างหลักฐานขึ้นมาใหม่เพื่อพิสูจน์ความจริง แต่ก็ต้องมีความใกล้เคียงกับเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นด้วย
ด้าน แซน วิศาพัช กล่าวว่า ตนอยากฝากถึงคุณหมอและคุณอัจฉริยะว่า ก่อนที่จะมาพูดหรือท้าอะไร สมควรที่จะปรึกษากับผู้ที่มีความรู้ความสามารถและความเชี่ยวชาญก่อน จะได้ดูเหมือน มีการกลั่นกรองมาแล้ว ส่วนในเรื่องท้าด้วยจำนวนเงินนั้น ตนไม่ได้เล่นการพนัน แนะนำให้คนที่ท้าหากชอบการพนันให้ไปสนามมวย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สำหรับการการทดสอบวันนี้ (16ม.ค.68) กับเมื่อวานนี้ (15ม.ค.68)เป็นอย่างไรบ้าง แซน วิศาพัช ระบุว่า ตนมองว่าเป็นการละครเรื่องหนึ่งที่ไว้ดูเป็นความบันเทิง เพราะไม่ได้ใกล้เคียงและไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ตนเคยแนะนำไปแล้ว 4 ข้อ เพราะการตกเรือมีรายละเอียดยิบย่อยเล็กๆน้อยๆ ซึ่งตนไม่กังวลใจในเรื่องของคดี ยังยืนยันเหมือนเดิมว่ามั่นใจมาก และรอดูว่าจะมีการเปิดหลักฐานอะไรออกมาอีก และจะใช้ข้อวิชาการหลักวิทยาศาสตร์ข้อใดมาสนับสนุนให้กับสิ่งที่เขากำลังทำ และจะมีเนื้อหาสาระสำคัญอะไรพอที่จะเปลี่ยนสำนวนคดีได้
“เขาเป็นวิศวกรไม่ได้เป็นทนายความ จึงไม่ทราบข้อกฎหมาย จะเอาอะไรมาดึงเข้าสำนวนไม่ได้ ต้องเรียนให้จบเนติก่อน ค่อยมาเล่นบทนี้” แซน วิศาพัช กล่าว
ซึ่งตนไม่ทราบว่าจุดประสงค์หลักของการจำลองเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเป็นอย่างไร แต่ก็ทำให้ตนโดนทำลายชื่อเสียงเป็นอย่างมาก แต่ขณะนี้ตนยังไม่ตัดสินใจจะฟ้องร้องใครแต่อย่างใด เพราะตนขออโหสิกรรมให้ เผื่อเจ้ากรรมนายเวรจะได้หมดสิ้นไปบ้าง และอยากให้ประชาชนพิจารณาดูว่า สิ่งที่ผู้จัดทำมีเจตนาหาข้อเท็จจริงหรือไม่ หรือหาประโยชน์ใดๆให้กับใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ไม่อยากให้ประชาชนได้ยินแล้วมาด่าเลย
“อยากให้เสพข่าวอย่างมีสติ รบกวนด้วยนะคะ ก่อนที่เราจะไปด่าคนอื่นเราต้องเสพข่าวอย่างมีสติ และคิดอย่างหลายมุม ไม่ใช่มุมเราคนเดียว หรือมุมกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง คิดถึงหลักข้อเท็จจริงนะคะ สำคัญค่ะ ถ้าไม่อย่างนั้นประเทศเราจะเป็นประเทศขวัญใจแก๊งคอลเซ็นเตอร์แบบนี้ ถ้าเราไม่คิดกัน“ แซน วิศาพัช กล่าว
ทั้งนี้ ปอ ตนุภัทร กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับประเด็นที่คุณแม่ของแตงโม ได้ออกมาเปิดเผยว่ายังโกรธคนบนเรืออยู่นั้น เรื่องนี้จะต้องไปสอบถามกับตัวคุณแม่เอง แต่ตนยืนยันว่าตนยังรักคุณแม่เหมือนเดิม เพราะที่ผ่านมาก็มีการพูดคุยและอัปเดตข้อมูลกับคุณแม่อยู่ตลอด ตนยังมองว่าคุณแม่เป็นผู้ใหญ่ที่น่ารักสำหรับตน แต่ในเหตุการณ์วันนี้ตนยังไม่ได้มีการสอบถามหรือพูดคุยกับคุณแม่แต่อย่างใด
Advertisement