สาวฉกกระเป๋านทท.รัสเซีย เกือบ 2 แสน ไหว้ขอโทษหนูผิดไปแล้ว

หนูผิดไปแล้ว! สาวฉกกระเป๋านักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย สูญทรัพย์ เงิน-ทรัพย์สิน เกือบ 2 แสน ตำรวจตามตะครุบ พนมไหว้มือขอโทษ

เมื่อเวลา 23.00 น. ( 23 มกราคม 68 ) พ.ต.ท.กรณ์พงษ์  สุขวิสิฏฐ์  รอง ผกก.สส.สภ.บางละมุง พร้อมชุดชุดสืบสวน นำหมายจับศาลจังหวัดพัทยา เลขที่ 40/2568 ลง 22 ม.ค.2568 เข้าทำการจับกุม น.ส.นิสา หรือผึ้ง กว้างเคน อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 ม.4 ต.ป่าโมง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี  ฐานความผิด “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน”  โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณห้องพัก ย่านบางปู จ.สมุทรปราการ

คอนเทนต์แนะนำ

นายกฯแจ๊ส ส่งรถพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อดักจับฝุ่น PM2.5

"ไทยฮอนด้า" เปิด 3 แผนมอเตอร์สปอร์ต 2025 "ก้อง สมเกียรติ" ลุยโมโตจีพี

จบดรามาผัวพลังม้า ยอมลดเรื่องบนเตียง จากเดือนละ 30 เหลือ 8 วัน

สืบเนื่องมาจากวันที่ 8 ม.ค.2568 เวลา 04.27 น. นายมายแคป มูเซฟ  ( Mr.Mycaeb Musave ) อายุ 37 ปี นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางละมุง  ถูกคนขโมยกระเป๋าสะพายหลัง สีดำภายในมีโทรศัพท์ จำนวน 1 เครื่อง , บัตรธนาคาร ,หนังสือเดินทาง , เงินสดไทย120,000 บาท ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียรายนี้ลืมวางไว้ที่บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ภายในวงศ์อำมาตย์ ( ซอยนาเกลือ 16 ) ม.5 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง  จ.ชลบุรี

ภายหลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวน สภ.บางละมุง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที โดยกล้องหน้าร้านสะดวกซื้อสามารถจับภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน โดยเป็นหญิงไทย รูปร่างท้วมๆ สวมเสื้อสีชมพู เป็นคนหยิบกระเป๋าของนักท่องเที่ยวไป

ตำรวจมีการไล่กล้องวงจรปิด เพื่อแกะรอยเส้นทางที่คนร้ายใข้หลบหนี จนไปพบว่า คนร้ายมีการไปรื้อค้นทรัพย์สินภายในกระเป๋าที่บริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ไกล ก่อนจะมีการเรียกแท็กซี่ ให้มารับไปส่งที่หน้าห้างเซ็นทรัล บีช พัทยา เมื่อตำรวจตรวจสอบข้อมูล พบว่าคนร้ายมีการใช้โทรศัพท์มือถือส่วนตัว เรียกใช้บริการแท็กซี่ ผ่านแอปพลิเคชั่น โดยระบุหมายเลขโทรศัพท์ชัดเจน จนเป็นที่มาของการออกหมายจับ และตามไปจับตัวได้ดังกล่าว

น.ส.ผึ้ง ยอมรับสารภาพว่า เธอเป็นผู้ก่อหตุจริง โดยก่อนเกิดเหตุ เดินมาหาญาติที่พัทยา แต่เข้าคอนโดญาติไม่ได้ จึงมานั่งรอที่ร้านสะดวกซื้อ ระหว่างนั้นเห็นครอบครัวของชาวรัสเซียกำลังนั่งคุยอยู่ ก่อนจะพากันลุกขึ้นไปกันหมด โดยลืมกระเป๋าวางไว้ ด้วยคิดน้อยไปหน่อย จะถือวิสาสะ ไปหยิบกระเป๋าแล้วเดินหนีไป โดยเงินสดยอมรับว่าใช้หมดแล้ว ส่วนพาสปอร์ต กับ สกุลเงินรัสเซีย นำไปทิ้งไว้ที่ สมุทรปรากร เหลือเพียงโทรศัพท์มือถือ ของผู้เสียหายเท่านั้น

ต่อมาตำรวจมีการเชิญตัวผู้เสียหาย มาร่วมสอบปากคำ  ซึ่งผู้ก่อเหตุได้ยกมือไหว้ขอโทษ พร้อมกับพูดว่า ”หนูขอโทษหนูไม่ได้ตั้งใจตั้งแต่แรก“ ซึ่งผู้เสียหายเองก็ยังอยู่ในการเครียดอย่างหนัก เพราะต้องการแค่พาสปอร์ต กับ บัตรธนาคาร คืนเท่านั้น แต่ก็ดีใจที่ตำรวจไทย ช่วยตามจับคนร้ายได้ และจะรวบรวมพยานหลักฐานและหลักฐานส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป