เรียกสอบจยย.ซิ่งเลนขวาเสยชาวเกาหลีข้ามทางม้าลาย ตร.แจ้ง 7 ข้อหา
เรียกสอบ จยย.ซิ่งเลนขวาเสยชาวเกาหลีข้ามทางม้าลาย รับขับเร็ว 70 กม. ไม่เห็นไฟแดงทางม้าลาย ตร.แจ้ง 7 ข้อหา
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้เรียกให้นายขวัญชัย อายุ 38 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์ผู้ก่อเหตุพุ่งชน ชายชาวเกาหลีใต้ขณะเดินข้ามถนนบนทางม้าลายหน้าสำนักงานเขตราชเทวี ถนนพญาไท หรือทางม้าลายที่หมอกระต่ายเสียชีวิตเมื่อ 3 ปีก่อน มาสอบปากคำกับพนักงานสอบสวน
คอนเทนต์แนะนำ
โดยนายขวัญชัย เปิดใจกับสื่อมวลชนหลังสอบปากแล้วเสร็จว่า วันนั้นตนมุ่งหน้าจากถนนศรีอยุธยา ฝั่งพระราม 6 ต้องการจะรีบเดินทางไปแถวคลองเตย เพื่อที่จะไปหาลูก ซึ่งปกติแล้วตนจะตรงข้ามสี่แยกพญาไทมุ่งหน้าไปทางประตูน้ำ แต่เนื่องจากในวันนั้นมีสภาพการจราจรที่ค่อนข้างติดขัด ตนเลยตัดสินใจเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นพญาไทที่สี่แยก เพื่อที่จะลัดทางอนุสาวรีย์และออกทางดินแดงทะลุประตูน้ำ
นายขวัญชัย ยอมรับว่าเมื่อเลี้ยวซ้ายขึ้นมา ตนเห็นว่ามีทางม้าลาย แต่ไม่เห็นสัญญาณไฟข้ามถนนและไม่เห็นว่ามีคนข้ามถนนจึงคิดว่าโล่ง เลยขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความเร็ว 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับตรงไปทางเลนขวา แต่ปรากฏว่า รถกระบะที่ขับมาก่อนหน้าตนได้ชะลอรถ จังหวะนั้นตนถึงได้เห็นว่ามีสัญญาณไฟแดงข้ามทางม้าลาย แต่ก็ไม่ทันการเสียแล้ว ตนชะลอไม่ทันจึงพุ่งชนชายชาวเกาหลีผู้เสียหายทันที
หลังเกิดเหตุ ตนรู้ตัวเลยว่าตนทำผิด จึงได้รีบไปช่วยเหลือชายชาวเกาหลีใต้ ซึ่งตอนนั้นเขามีอาการสะลึมสะลือและมึนงง ส่วนตนเองก็มีอาการบาดเจ็บเป็นแผลบริเวณขาเช่นเดียวกัน ทั้งคู่จึงถูกนำส่งโรงพยาบาลไปพักรักษาตัว ก่อนที่จะทราบภายหลังว่าชายชาวเกาหลีใต้ได้กลับประเทศไปแล้วและบาดเจ็บที่ศีรษะเล็กน้อย ส่วนตนเองเมื่อพักรักษาตัวแล้วเสร็จจึงได้เดินทางเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในวันนี้ ซึ่งวันนี้ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาอะไรกับตน โดยจะนัดพูดคุยกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า แต่ไม่ว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาอย่างไรก็ตามตนพร้อมรับผิดและรับสารภาพในสิ่งที่ทำลงไป
ซึ่งนายขวัญชัย ยังได้กล่าวขอโทษกับสังคมกับสิ่งที่ทำลงไป ยอมรับว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมาตนไม่เคยทราบข่าวมาก่อนว่าทางม้าลายนี้คือทางม้าลายที่หมอกระต่ายเสียชีวิตจนเป็นข่าวโด่งดัง รวมทั้งที่ผ่านมาเวลาเจอทางม้าลาย ยอมรับว่าตนไม่ค่อยชะลอ เพราะคิดว่าถนนโล่ง ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นบทเรียนให้กับตนในการขี่รถจักรยานยนต์อย่างระมัดระวังมากขึ้น
ทั้งนี้ ฝั่งผู้เสียหายชาวเกาหลีใต้ไม่ติดใจที่จะเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งใด ๆ เพราะเห็นแก่ความสงสารกับฝั่งตน แต่เรื่องทางกฎหมายก็ให้เป็นไปตามกระบวนการ ส่วนประเด็นที่มีรายงานข่าวว่าฝั่งคู่กรณีเรียกเงินจำนวน 300,000 บาทนั้น นายขวัญชัยกล่าวว่า เป็นการที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยโทรมาแจ้งกับตนอ้างว่า ค่ารักษาพยาบาลฝั่งผู้เสียหายอาจทะลุ 300,000 บาท แต่ก็ไม่ได้มีการพูดคุยอะไรเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.วัชรวีร์ ธรรมเสมา ผกก.สน.พญาไท เปิดเผยว่า ในวันนี้เป็นการเรียกให้นายขวัญชัย ผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ชนชายชาวเกาหลีใต้บาดเจ็บบนทางม้าลายหัวกระต่าย ซึ่งหลังจากนี้ก็จะรอผลการชันสูตรบาดแผลของคู่กรณีทั้งสองฝ่าย แล้วจะเรียกนายขวัญชัยมาแจ้งข้อกล่าวหาโดยรวมประมาณ 7 ข้อหา ได้แก่ ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ,ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร,ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ชิดเลนซ้าย,ขี่รถจักรยานยนต์ที่ขาดการต่อภาษี ,ขับขี่โดยไม่มีใบขับขี่ และข้อหาอื่น ๆ ตาม พ.ร.บ.จราจร
สำหรับเรื่องการพูดคุยเจรจาเยียวยาค่าเสียหายนั้น เบื้องต้นจะให้ตัวแทนของผู้เสียหายมาพูดคุยกับฝั่งผู้ก่อเหตุหลังแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ก่อเหตุแล้วว่าจะดำเนินการอย่างไรในเรื่องของการเยียวยาความเสียหาย ส่วนที่ฝั่งผู้ก่อเหตุอ้างว่าผู้เสียหายไม่ติดใจจะเรียกค่าเสียหายนั้น ก็เป็นส่วนที่ทางผู้ก่อเหตุเป็นผู้กล่าวอ้าง แต่จะดำเนินการอย่างไรต้องมีการพูดคุยกันภายหลัง สำหรับกรณีที่มีข่าวลือว่า ฝั่งผู้เสียหายเรียกเงินจากผู้ก่อเหตุ 300,000 บาทเรื่องนี้ยังไม่ได้รับการรายงานแต่อย่างใด
ทั้งนี้ในฝั่งตำรวจนั้น หลังจากนี้จะต้องหารือกับทางกรุงเทพมหานครในการวางแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดอุบัติเหตุบนทางม้าลายหมอกระต่ายซ้ำซาก โดยจะจัดให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปคอยเฝ้าในจุดที่สุ่มเสี่ยงและเพิ่มความกวดขันมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ต้องฝากถึงผู้ใช้รถใช้ถนนให้มีวินัยจราจร ควรจะต้องชะลอรถเมื่อถึงทางม้าลายไม่ว่าจะมีคนข้ามถนนหรือไม่และมีสัญญาณไฟสำหรับคนข้ามถนนหรือไม่ก็ตาม
ขณะที่นายสิทธิชัย อรัณยกานนท์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้เดินทางมาพูดคุยกับทางตำรวจ สน.พญาไท กล่าวว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการกำชับให้ลงมาแก้ปัญหาเรื่องทางม้าลายแล้วร่วมกับทางตำรวจและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยหลังจากนี้จะจัดเจ้าหน้าที่มาตรวจตราเพื่อเพิ่มความกวดขันให้กับผู้ขับขี่รถยนต์บนท้องถนน รวมทั้งจะเพิ่มมาตรการความปลอดภัยให้กับผู้ที่ข้ามทางม้าลายเพื่อให้รถที่ขับผ่านไปมาหยุดให้คนข้ามถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเน้นให้คนข้างถนนนั้นมีสัญลักษณ์ที่โดดเด่น เช่น การติดตั้งธงนำข้าม หรือการใช้กล้องจับภาพทางม้าลาย ซึ่งหากใครที่ฝ่าฝืน ก็จะส่งใบเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายจราจร รวมไปถึงอาจจะใช้สัญญาณเสียง AI เพื่อส่งสัญญาณเตือนไปยังผู้ที่ขี่ทับทางม้าลายในระหว่างที่มีคนข้าม อีกทั้งจะรับข้อเสนอจากพี่น้องประชาชนที่ต้องการให้เปลี่ยนทางม้าลายหมอกระต่ายเป็นสะพานลอย ซึ่งจะต้องนำเรื่องนี้ไปหารือต่อไป
ส่วน ว่าที่ ร.อ.โกวิท อมาตย์ หัวหน้าฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขตราชเทวี ยอมรับกับสื่อมวลชนว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาหลังจากเหตุการณ์หมอกระต่ายเสียชีวิต ทางสำนักงานเขตไม่ได้รวบรวมสถิติ เนื่องจากเวลาเกิดอุบัติเหตุ ทางสำนักงานเขตไม่ได้รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง แต่หลังจากนี้จะต้องประสานข้อมูลกับทางตำรวจในการรวบรวมสถิติ รวมทั้งจะรณรงค์เพิ่มความกวดขันให้กับผู้ขับขี่รถบนท้องถนนโดยเฉพาะบริเวณ ทางม้าลายดังกล่าว ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่า เห็นว่าก่อนหน้านี้มีธงสำหรับนำข้ามทางม้าลายที่ทางม้าลายดังกล่าว ว่าที่ ร.อ.โกวิท ยอมรับว่า เคยมีธงนำข้ามอยู่จริง แต่ตอนนี้คงได้หายไปแล้ว เพราะเนื่องจากมีคนขโมยไป แต่หลังจากนี้อาจจะต้องทบทวนมาตรการติดตั้งธงนำข้ามใหม่อีกครั้ง
Advertisement
