ย้อนดูโทษประหารชีวิตในประเทศไทย ยกเลิกไปหรือยัง?

หาคำตอบไทยยังมีโทษประหารชีวิตหรือไม่ ครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อไหร่   จำนวนนักโทษประหารปัจจุบันมีอยู่เท่าไหร่  รวมถึงย้อนรอยโทษที่หนักที่สุดในคดีอาญา

 

จากกรณีที่มีสมาชิกวุฒิสภาผู้หนึ่งอภิปรายในสภาเสนอให้มีการประหารชีวิตผู้ค้ายาเสพติด และถ่ายทอดสดการประหารชีวิตเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างโดยเชื่อว่าวิธีนี้จะทำให้ปัญหายาเสพติดลดลง

 

เราจะพามาดูว่าจนถึงตอนนี้ไทยยังมีโทษประหารชีวิตหรือไม่ และ วิวัฒนาการของการประหารชีวิตในไทยเป็นอย่างไร

 

109 ประเทศยกเลิกโทษประหารชีวิต

โดยในขณะนี้มีข้อมูลว่ามี 112 ประเทศที่ยกเลิกโทษประหารชีวิตอย่างสิ้นเชิง จากจำนวน 193 ประเทศทั่วโลก

 

แต่ขณะเดียวกันก็มีประเทศอีกเป็นจำนวนมากที่ยังคงโทษประหารชีวิตและมีหลายประเทศที่เป็นประเทศพัฒนาแล้วที่มีบทบาทในเวทีโลก โดยปี 2566  แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้ ระบุว่ามีการประหารชีวิตใน 16 ประเทศ อย่างน้อย 1,153 ครั้ง

 

โดยประเทศที่ประหารชีวิตมากที่สุดคือจีนกว่า 1,000 ครั้ง ขณะที่สหรัฐอเมริกามีการประหาร 24 ครั้ง

 

ขณะที่ญี่ปุ่นเองก็มีการประหารชีวิตไปเมื่อปี 2565

 

โดยการยกเลิกโทษประหารนั้น มีทั้งการยกเลิกแบบสิ้นเชิงและยกเลิกในทางปฏิบัติ กล่าวคือไม่มีการประหารมากว่า 10 ปี

 

ไทยยังไม่ยกเลิก

ขณะที่ไทยเองยังถือว่ามีโทษประหาร เพราะมีนักโทษที่ถูกประหารรายล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2561  โดยผู้ถูกประหารคือ “มิก หรือ ธีรศักดิ์ หลงจิ”  นักโทษคดีฆาตกรรมโดยเจตนา 

 

โดยเป็นนักโทษที่ถูกประหารคนแรกในรอบ 9 ปี โดยก่อนหน้านั้นเป็นการประหารเมื่อปี 2552 ในคดียาเสพติด

 

ทำให้มีการประเมินว่าหากไทยไม่ต้องการให้มีการยกเลิกประหารในทางปฏิบัติ ก็อาจมีการประหารอีกครั้งในช่วงเวลาก่อนจะครบ 10 ปี

 

ขณะที่ข้อมูลจากกรมราชทัณฑ์จนถึงวันที่ 22 ม.ค. 2568  มีนักโทษที่ต้องโทษประหารอยู่ทั้งสิ้น 364 คน

 

โทษประหารไทยในอดีต

 

ประเทศไทยมีการประหารมาเป็นเวลานาน แต่เพิ่งมีการเก็บสถิติ พบว่าตั้งแต่ปี 2478 มีผู้ถูกประหารชีวิต 326 คน แบ่งเป็นการประหารด้วยการยิงเป้า 319 คน  ด้วยการฉีดยาให้ตาย 7 คน

 

ในอดีตการประหารในประเทศไทย มีบันทึกไว้ว่ามีวิธีการต่างๆซึ่งล้วนแล้วแต่ดูโหดเหี้ยมในสายตาชาวโลก เช่นแหวะอก, เชือดเนื้อตัวเองทอดให้นักโทษกินจนกว่าจะตาย  , ให้สุนัขรุมทึ้ง ฯลฯ  แต่วิธีที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีคือ การตัดหัว โดยถูกกำหนดไว้เป็นวิธีการประหาร ในกฎหมายลักษณอาญา สมัย รศ.127 ช่วงที่มีการปฏิรูประบบกฎหมายในรัชกาลที่ 5  ก่อนที่จะเปลี่ยนจากการตัดหัวเป็นการยิงเป้าตั้งแต่ปี 2478 และเปลี่ยนมาเป็นการการฉีดยาให้ตายเมื่อปี 2546