ล่าหนุ่มปริศนา ทำร้ายร่างกายพ่อเฒ่าวัย 83 ปี ชิงเงินหมื่น
หนุ่มปริศนาทำร้ายร่างกายพ่อเฒ่าวัย 83 ปี แล้วชิงเงินหมื่นหนีไป เหตุเกิดย่านถนนสุขสวัสดิ์ โอดเก็บของเก่าขายนานหลายปีกว่าจะได้เงินหมื่น
วันที่ 28 มกราคม 2568 พ่อเฒ่าวัย 83 ปี ถูกชายฉกรรจ์ อายุประมาณ 35-40 ปี รูปร่างผอมบาง สูงประมาณ 155 -160 ซม. แต่งกายสวมใส่เสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบ สวมหมวกกันน็อกครึ่งใบสีดำ สวมใส่หน้ากากอนามัยปกปิดใบหน้า ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีม่วง ไม่ทราบทะเบียน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดทำทีมาขอบุหรี่พอหลังจากที่พ่อเฒ่าเผลอก็ได้ลงมือทำร้ายร่างกายพ่อเฒ่าวัย 83 ปี คนดังกล่าวจนล้มตัวลงกับพื้นศีรษะไปฟาดกับขอบปูนทางเดินจนหัวแตกเป็นบาดแผล ยาวประมาณ 5 ซม.ลึกประมาณ 2 ซม. มีเลือดออกเป็นจำนวนมากได้รับบาดเจ็บ แล้วได้ทำการล้วงกระเป๋ากางเกงพ่อเฒ่าชิงกระเป๋าสตางค์ ซึ่งด้านในกระเป๋ามีเงินสดจำนวน 10,500 บาท และบัตรประจำตัวประชาชนของพ่อเฒ่าหลบหนีไปกับความมืด สร้างความตกใจ เจ็บปวดจากบาดแผล และก็เสียใจที่เงินของตนที่อุตส่าห์เก็บหอมรอมริดมาด้วยความยากลำบาก ต้องถูกคนร้ายคนดังกล่าวนำไปด้วย พ่อเฒ่าจึงได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยเร่งติดตามตัวคนร้ายดังกล่าวมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด
คอนเทนต์แนะนำ
และวันนี้ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงของเรื่องราวดังกล่าวทันที และเมื่อผู้สื่อข่าวไปถึงที่เกิดเหตุ บริเวณด้านหน้า ถนนสุขสวัสดิ์ บนฟุตบาทใกล้ทางขึ้นสะพานลอย ปากซอย สุขสวัสดิ์ 29 ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหาคร และได้พบกับผู้เสียหายทราบชื่อต่อมาชื่อ นายเจริญ อายุ 83 ปี มีอาชีพเก็บของเก่าขาย
ผู้สื่อข่าวยังสังเกตเห็นว่าที่บริเวณศีรษะข้างขวามีบาดแผลลักษณะเป็นบาดแผลแตกซึ่งได้มีการปฐมพยาบาลแล้ว 1 แผล และเมื่อเดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ ยังพบกับรอยเลือดแห้งเกลอะกลังอยู่บริเวณขอบปูนทางเดินก่อนเข้าบ้านของพ่อเฒ่า ซึ่งมองด้วยตาเปล่าก็ยังจะเห็นเด่นชัดอยู่
จากการพูดคุยกับพ่อเฒ่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก็ได้ความว่า เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 27 มกราคม 2568 เหตุเกิดเวลาประมาณ 01.50 น. ขณะนั้นตนได้เก็บของเก่าอยู่บริเวณทางขึ้นสะพานลอยใกล้ปากซอย สุขสวัสดิ์ 29 ได้มีชายฉกรรจ์ ขับขี่รถจักรยานยนต์ ในลักษณะย้อนศรมาจอด และเดินเข้ามาถามว่ากำลังทำอะไรอยู่ขอยาสูบหน่อย ตนก็บอกว่าไม่ได้เอาออกมาจากบ้านแล้วเขาก็ถามตนว่าบ้านอยู่ไหน ตนก็ตอบว่าบ้านอยู่ตรงนี้ เขาลงมาจากรถเขาก็พูดว่าเอาตังค์มาเอาตังค์มา และจากนั้นชายคนดังกล่าวก็ได้เดินเข้ามาล้วงกระเป๋ากางเกงของตน แล้วตนก็พยายามขัดขืน คนร้ายก็เลยทำร้ายตนจนล้มลงกับพื้นหัวก็ไปกระแทกกับขอบปูนจนได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นเขาก็ล้วงกระเป๋ากางเกงของตนแล้วก็เอากระเป๋าสตางค์ไป ซึ่งด่านในกระเป๋ามีเงินสดอยู่ 10,500 บาท และบัตรประชาชน แล้วเขาก็ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วนตนก็ได้แต่ยืนมองว่าเขาไปทางไหนแล้วก็ค่อยๆเดินกลับไปที่บ้านพอรุ่งเช้าลูกกับหลานถึงจะพาไปหาหมอที่โรงพยาบาลเจริญกรุง แล้วก็ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ โดยมี ร้อยตำรวจเอก อธิคม แสวงจิตต์ รอง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ รับเเจ้งความและจัดคำร้องทุกข์เอาไว้แล้ว
ตอนนี้อาการบาดเจ็บก็ไม่รู้สึกอะไรเลย บาดแผลที่เกิดขึ้นเกิดจากการถูกเขาผลักจนล้มกระแทกพื้นเป็นบาดเเผลแตก ยาวเลยกระแทกกับขอบปูน คืนนั้นพอเกิดเหตุก็ยังไม่ไปโรงพยาบาลรอจนเช้าถึงจะไป ลูกหลานพาไป จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกเฉยๆแต่ก็มีอาการตกใจอยู่บ้างใจหายเลย เขาต้องมีข้อมูล ต้องมีการนัดแนะกันมา เพราะดูจากการจอดรถแล้วมันเจาะจงเกินไป
แล้วนาย เจริญ ยังกล่าวต่ออีกว่า ตนทำงานเก็บของเก่าขายได้ทีละ 100 -200 บาท ค่อยๆสะสมมาสองปีกว่าจะได้ขนาดนี้ ก็รู้สึกเสียดาย และก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ส่วนทางด้าน พ.ต.ท.ธนพรหม ธนาอาภากร รอง ผกก.สส.สน.ราษฎร์บูรณะ ได้ลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและได้เข้าเยี่ยม นายเจริญ และได้กล่าวว่าตอนนี้ได้ข้อมูลของผู้ก่อเหตุแล้ว และอยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมคนร้ายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่นานต้องได้ตัวผู้ก่อเหตุอย่างแนนอน ขอให้มั่นใจได้เลยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไมได้นิ่งนอนใจและไมได้ปล่อยปละละเลย ทุกเรื่องราวความเดือนร้อนของพี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่ดูแลใส่ใจตลอดขอให้พี่น้องประชาชนหายห่วงได้เลย แต่ทั้งนี้ต้องให้เวลาการทำงานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้ความคืบหน้าไปถึง 80% แล้วเหลืออีกนิดเดียวก็คงจะใช้เวลาอีกไม่นานแล้วต้องได้ตัวคนร้ายแน่ๆ
Advertisement
