จากรณีตำรวจสภ.สามโคก รับแจ้งจากประชาชนว่ามีรถเก๋งชนท้ายรถพ่วงมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในจำนวนหลายราย บนถนนวงแหวนตะวันตก หมายเลข 9 มุ่งหน้าบางปะอิน ตำบลบางกระบือ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยอาสามูลนิธิปอเต็กตึ้งพร้อมอุปกรณ์ตัดถ่าง
ที่เกิดเหตุพบรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกเหล็ก สภาพด้านท้ายกันชนถูกชนได้รับความเสียหาย คนขับคือนายศกล อายุ 32 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บ ด้านหลังรถพ่วง พบรถเก๋ง Honda สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าอัดท้ายรถพ่วงบรรทุกเหล็ก ด้านหลังถูกรถพ่วงบรรทุกปูน พุ่งชนอัดท้ายเสียหายทั้งคัน พบผู้เสียชีวิต 2 ราย คือร.ต.ท.มณี อายุ 55 ปี ตำรองสว.สส.กก.สส.บก.น.1และส.ต.ท.ก้องเกียรติ อายุ 29 ปี ตำแหน่งผบ.หมู่กก.สส.บก.น.1
อีกทั้งยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คนคือด.ต.เฉลิมชน อายุ 40 ปี ผบ.หมู่สส.บก.น.1 และส.ต.ท.เอกชัย อายุ 29 ปี ผบ.หมู.ป.สน.ดุสิต ช่วยราชการกก.สส.บก.น.1
ขณะเดียวกันตำรวจได้ควบคุมตัวนายไกรสิทธิ์ อายุ 48 ปี คนขับขี่รถบรรทุกปูนซีเมนต์ ก่อเหตุชนรถตำรวจไว้
จากการสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุตำรวจทั้ง 4 นาย ได้ปฏิบัติหน้าที่ติดตามรถเป้าหมายคดียาเสพติด จากอ.บางกรวย จ.นนทบุรี มาจนถึงปั๊มน้ำมัน ขณะรถของตำรวจจอดซุ่มดูอยู่บริเวณริมถนน ก่อนถึงปั๊มน้ำมันได้มีบรรทุกปูนซีเมนต์ชนท้ายรถตำรวจ
หลังจากนั้นทีมข่าวได้เดินทางมาที่กองบังคับการสืบนครบาล 1 ซึ่งเป็นที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตทั้ง 2 นาย โดยทางด้านของ พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผู้กำกับการสืบสวนนครบาล 1 เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาหน่วยงานของตนได้รับเบาะแสว่าผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยาเสพติด เดินทางเข้ามายังพื้นที่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี จึงมีการสั่งการให้ทีมสืบสวน ออกไปตรวจสอบ หลังจากนั้นทีมสืบ ได้พากันออกไปโดยใช้รถจำนวน 4 คัน ไปซุ่มดู และติดตามผู้ต้องสงสัยรายนี้ไปจนถึงพื้นที่ อ.สามโคก หลังจากนั้นตัวของผู้ต้องสงสัยได้เลี้ยวเข้าไปภายในปั๊มน้ำมันใกล้กับจุดเกิดเหตุ ทำให้รถที่ผู้เสียชีวิตนั่งมา ได้จอดซุ่มอยู่นอกปั๊ม หลังจากนั้นในขณะที่กำลังจะออกตัวจากจุดที่ซุ่มอยู่รถพ่วงบรรทุกปูนก็ได้พุ่งเข้ามาชน ทำให้ ร.ต.ท.มณี คุ้มกัน อายุ 55 ปี นั่งอยู่บริเวณเบาะหลังคนขับฝั่งซ้าย ส.ต.ท.ก้องเกียรติ เมืองแก้ว อายุ 29 ปี นั่งอยู่บริเวณด้านข้างคนขับ เสียชีวิต ส่วน ด.ต.เฉลิมชน เยาว์รัมย์ อายุ 40 ปี ได้รับบาดเจ็บกระดูกหลังหูแตก และ ส.ต.ท.เอกชัย ทองขันธ์ อายุ 29 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ทีมข่าวจึงได้สอบถามต่อว่าแล้วในตัวของผู้เสียชีวิตทั้งสองคน ปกติแล้วมีนิสัยใจคอเป็นอย่างไรบ้าง ทางด้านของ พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล เผยว่า ส่วนตัวแล้วผู้เสียชีวิตทั้งสองคนเป็นคนขยันทำงาน และทำงานเป็นสืบมานาน และทำงานดีมาโดยตลอด และจากการร่วมงานกันมาตลอด 2 ปี ชุดของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นชุดปราบปรามยาเสพติด เป็นชุดที่ทำผลงานให้กับสืบสวนนครบาล 1 มาตลอดในการจับยาเสพติด ในฐานะผู้บังคับบัญชาตนเองก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะต้องสูญเสียคนทำงานไป และทั้งคู่ก็ถือเป็นมือดีในหน่วยงานของตน
แต่ในส่วนของผู้ใต้บังคับบัญชาของตนที่เหลือ หลังจากเกิดเรื่องทุกคนก็อยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ และไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน และนี่ก็ถือเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของสืบสวนนครบาล 1 ซึ่งในตอนนี้ผู้บังคับบัญชา ที่ร่วมงานกับผู้เสียชีวิต ก็ต่างช่วยกันดำเนินการเรื่องของงานศพของผู้เสียชีวิต แล้วในวันพรุ่งนี้ก็จะมีการไปเชิญวิญญาณ และรับร่างของผู้เสียชีวิต มาประกอบพิธีศพ ที่วัดตรีทศเทพ เป็นเวลา 5 คืน หลังจากนั้นในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ก็จะมีการทำพิธีพระราชทานเพลิงศพ
ซึ่งส่วนตัวขอยืนยันว่าที่ผ่านมาการปฎิบัติงานของทีมงานของตนทุกขั้นตอนมีการเตรียมการเอาไว้ทั้งหมด และการทำงานก็จะเอาความปลอดภัยของลูกน้องเป็นที่ตั้ง แต่เหตุการณ์ในครั้งนี้ถือว่าเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครคาดคิด ซึ่งลูกน้องของตนก็จอดรถเอาไว้ที่ริมฟุตบาท ไม่ได้ขับไปชนใครก่อน แต่พอเหตุการณ์เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นตนเองก็เสียใจ แต่ก็จะดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายต่อ ซึ่งตนเองก็จะมีการดำเนินการเรื่องของเงินเยียวยาต่างๆ ให้กับครอบครัวให้เสร็จสิ้น แต่ในส่วนของทายาทที่จะรับราชการต่อนั้น ก็จะต้องดูกันอีกครั้งหนึ่ง
Advertisement