เต้ มงคลกิตติ์ ลั่นไม่เคยกั๊กหลักฐาน คดีแตงโม ส่งให้ดีเอสไอหมดแล้ว

เต้ มงคลกิตติ์ ลั่นไม่เคยกั๊กหลักฐาน คดีแตงโม ส่งให้ดีเอสไอหมดแล้ว ของขึ้น! ห้ามบ้านพระอาทิตย์ใช้คลิปที่ตัวเองหามา บอกต้องขออนุญาตก่อนทุกครั้ง

วันที่ 6 ก.พ. 68 นาย มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้ไลฟ์สดในเฟซบุ๊กเพจ “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” ตอนหนึ่งถึงกรณีถูกโจมตีว่ากั๊กข้อมูลการเสียชีวิตในคดีแตงโม และนาย อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ระบุว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อมวลชนอาวุโส ประกาศห้ามนายมงคลกิตติ์เข้าบ้านพระอาทิตย์เด็ดขาดนั้นว่า 

คอนเทนต์แนะนำ

อาลัย "ต้าเอส" หรือ "ซันไช่" นางเอก F4 ละครในตำนานเสียชีวิตในวัย 48 ปี

อดีต สว.อุปกิต หนุนตัดไฟ - อินเตอร์เน็ต เมียนมา แก้คอลเซ็นเตอร์เด็ดขาด

"ฝน ธนสุนทร" เผยครั้งหนึ่ง "ขาใหญ่วงการเมือง" เคยติดต่ออยากทานข้าวด้วย

ยืนยันว่าคนอย่างตนไม่มีกั๊กข้อมูล เพราะหลักฐานภาพวงจรปิดทั้งหมดที่เกี่ยวข้องในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ได้ส่งมอบให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอทั้งหมด และใช้เป็นพยานหลักฐานตอนสมัยที่นายอัจฉริยะถูกดำเนินคดี อีกทั้งนายอัจฉริยะมาขอภาพจากกล้องวงจรปิดไปไขคดีแตงโม ตนก็ไม่เคยปฏิเสธ แม้แต่ครั้งเดียว รวมถึงยังส่งลูกน้อง 2 คนไปช่วยตลอด จนลูกน้องถูกดำเนินคดีกับนายอัจฉริยะไปด้วย 1 คน 

นาย มงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า ขออะไรมาตนไม่เคยปฏิเสธ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แต่นายอัจฉริยะไม่เคยขอภาพจากกล้องวงจรปิดมุมอื่น ถามว่า 2 ปีกว่านี้ นายอัจฉริยะไปทำอะไร ทำไมไม่ขอตนทั้งที่ดีเอสไอก็ยังไม่ได้ขอตน ที่ผ่านมานายอัจฉริยะขอตนได้ทุกเรื่อง และตนก็ให้ ทั้งที่ตนไม่เคยขออะไรจากนายอัจฉริยะเลย ดังนั้นเรื่องกั๊กพยานหลักฐานเอาไว้ที่ตัวเอง ถ้ากรณีเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจหน้าที่ต้องการ เราก็ต้องให้เขา ถ้าเราไม่ให้เขาจะแปลว่าเรากั๊กมาเพื่อต่อรองผลประโยชน์ เมื่อตนได้คลิปมาแล้วรู้ว่าสำคัญก็ชี้แจงตอนเย็น รุ่งขึ้นก็เอาไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษทันที ตนไม่ได้กั๊กเพื่อเอาไปต่อรองกับใคร หรือต่อรองกับคนบนเรือให้ได้มาซึ่งเงิน ทั้งที่มันสามารถทำได้  แต่ตนไม่ทำ เพราะมีมโนธรรม และจริยธรรม ตนตั้งใจต้องการให้คดีนี้เป็นไปตามความเป็นจริง 

ส่วนที่นายอัจฉริยะขอภาพรวมทั้งหมดเลย ก็ไม่โทรมาขอกับตนเอง แต่โทรบอกลูกน้อง ถ้าจะขอก็ต้องขอตนโดยตรงว่าจะเอาภาพจากกล้องวงจรปิดตัวไหนบ้าง การถือวิสาสะมาขอกล้องจากทางราชการจากตน ต้องถามว่าเอาไปทำอะไร เอาไปให้ใคร หรือเอาไปต่อรองอะไรกับใครหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนต้องถาม ถ้าเอาไปสู้คดีตนให้ เพื่อให้รอดคดีตนให้ เพราะเป็นหลักฐานทางราชการ สามารถเอาไปใช้ได้ ไม่ได้ตัดต่อ ดังนั้นนายอัจฉริยะอย่าเป็นคนขี้ใจน้อย เพราะสุดท้ายตนเอาให้นายอัจฉริยะก็ต้องไปให้กับดีเอสอาร์อยู่ดี ดังนั้นถามว่าจะเอาไปเร่ทำไม จะให้คนอื่นๆไปเร่ทำไม ตนรู้ว่าทุกคนต้องการแสงในเรื่องนี้ 

นาย มงคลกิตติ์ กล่าวว่า ขอชี้แจงนายอัจฉริยะว่า อาจจะเข้าใจตนผิดไปในเรื่องของหลักฐาน เพราะถ้าตนเป็นคนขี้ห่วงหลักฐานต่างๆ ตนคงไม่ให้นายอัจฉริยะเอาไปแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องมีคนตกเรือไม่ตกเรือ มีคน 5 คน หรือ 6 คนบนเรือ เพราะนายอัจฉริยะไม่มีคลิป และถามว่าตนให้คลิปนายอัจฉริยะไปทำไม 3 ปีที่แล้วถ้าตนเป็นคนไม่จริงใจ ตนไม่เคยเอาเงินจากนายอัจฉริยะสักบาท และตนไม่ได้ทำมาหากินเกี่ยวกับเรื่องการเปิดคลิปแล้วไถตังค์ และตนไม่เคยขอโฆษณา ส่วนเรื่องที่ตนดังนั้นตนดังมานานมากแล้ว และดังมากด้วย 

“ผมไม่ใช่คนหิวเงินที่ต้องเอาคลิปไปเร่ต่อรอง ส่วนที่เขาบอกว่าไม่เอาผมนั้น เพราะผมไม่เคยขอเขาเข้าทีมบ้านพระอาทิตย์ ผมเป็นตัวของผมเองมาโดยตลอด และแต่ละเรื่องผมทำสำเร็จทุกเรื่อง ถ้าคุณสนธิพูดจาไม่ดีกับผม ผมก็ให้อภัย เพราะเป็นผู้อาวุโสกว่า และรู้จักกันมา 20 ปี ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับผู้ใหญ่ แต่ขอร้องว่าคลิปวงจรปิดต่างๆ ที่เครือผู้จัดการเอาคลิปของผมไปออก ต้องขออนุญาตผมก่อน เพราะผมคือเจ้าของคลิปต่างๆ ที่ นาย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เอาไปออกก็ของผม และสื่อมวลชนที่ได้คลิปไป ก็ไม่ได้เอาไปจากตำรวจ แต่ได้มาจากผม สส.เต้ พระราม 7 ที่ได้ภาพมาจากอดีต รมช.คมนาคม  เพราะฉะนั้นการเอาพยานหลักฐานทางราชการของผมไปใช้ต้องขออนุญาตผมทุกครั้งด้วย เพราะผมเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ หากเอาไปประชาสัมพันธ์ผมไม่ว่า แต่อย่ามาดิสเครดิตกัน” 

นาย มงคลกิตติ์ กล่าวว่า หลักฐานจาก 34 กล้อง มูลค่าไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท ถ้าตนเป็นคนชั่วถามว่าทำไมตนไม่ไปเอาตังค์ ทำไมต้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ แล้วทำไมต้องให้นายอัจฉริยะเอาไปสู้คดี และเอาไปแถลงคดี ถ้าตนเป็นคนเลว ตนต้องขอตังค์นายอัจฉริยะว่าผมขอค่าคิด 500,000 ถามว่าผมเคยขอไหม อีกทั้งลูกน้องตนก็ไปดูแลคดีให้นายอัจฉริยะตลอด โดนคดีนายอัจฉริยะก็ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่มาบอกว่าค่าคดี 150,000 แล้วถ้าตนบอกว่าค่ากล้องตน ค่าพยานตนคิดกล้องตัวละ 500,000 ถามว่านายอัจฉริยะจ่ายตนได้ไหม และถ้าบ้านพระอาทิตย์ไม่ขอโทษตน ตนจะไม่ให้เปิดคลิปที่ต้นฉบับมาจากตนทั้งหมด และตนจะดำเนินคดีให้เกลี้ยง แต่ถ้าขอโทษตนสามารถมาก๊อปปี้ได้เลยพรุ่งนี้ ตนให้ทุกคลิป 

“ถ้าพี่สนธิไม่ขอโทษผม บ้านพระอาทิตย์ไม่ขอโทษผม ผมไม่เคยขอเข้าร่วมทีม เพราะคนอย่างผมศักดิ์ศรีมี ผมเป็น สส. 4 ปี ที่ไม่ได้ซื้อเสียงมาแม้แต่คะแนนเดียว เพราะฉะนั้นจะด่าอะไรก็ด่าได้แต่อย่ามาด่าตน ภาพจากกล้องวงจรปิด ที่ไปลงโพสต์ในเพจของนายปานเทพ และทุกเครือของผู้จัดการต้องลบออกทั้งหมด และการที่เราทะเลาะกันนั้น คนบนเรือเขาสบายใจ”