ภายหลังจากที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดตั้ง ศูนย์ปราบผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง เมื่อ พ.ศ.2546 วันนี้ (6 ก.พ.68) พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้จัดมีการประชุม พร้อมด้วยคณะทำงานฯ จำนวน 50 ท่าน เดินทางมาประชุมจากทั่วประเทศ เพื่อขับเคลื่อน และรับมอบนโยบายพร้อมกำชับแผนปฏิบัติกวดขัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ให้มีพฤติกรรมเป็นไม้ค้ำยันให้กับผู้มีอิทธิพลและให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส และเป็นผู้ช่วยในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้างและผู้ร้ายสำคัญ
ทั้งนี้เพื่อเป็นการรับมือกับอาชญากรรมที่เปลี่ยนไป เราจึงต้องเปลี่ยนแปลงในทุกวินาที เพื่อเป็นหน่วยงานมืออาชีพที่ต้องล้ำหน้าอาชญากรรมและเป็นที่พึ่งพาของประชาชนได้อย่างแท้จริง แม้ในบางครั้งจะพบอุปสรรคทำให้ยากลำบากต้องต่อสู้กับความเหน็ดเหนื่อยทั้งร่างกายและจิตใจ แต่เราไม่เคยท้อถอยหรือหยุดพัก เพราะเรารู้ว่าความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนนั้นรอไม่ได้ทุกวินาทีไม่เคยท้อถอยหรือหยุดพัก เพราะเรารู้ว่าความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนนั้นรอไม่ได้ทุกวินาที
โดย ศูนย์ปราบผู้มีอิทธิพลแลมือปืนรับจ้าง ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ.2546 ด้วยสภาพการณ์ของปัญหาผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้างในอดีตยังคงทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้มีอิทธิพลได้ขยายเครือข่ายอิทธิพลเข้าสู่ชนชั้นทุกระดับของสังคม รวมถึงมือปืนรับจ้างเป็นสมุนของผู้มีอิทธิพล หรือรับจ้างฆ่าคนตามงานที่สั่งของผู้ว่าจ้าง ยังก่ออาชญากรรมเป็นที่สะเทือนขวัญกับประชาชนอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง
ปัญหาอาชญากรรมมือปืนรับจ้างที่มีทีท่าว่าจะเพิ่มจำนวนและความรุนแรงขึ้นทุกวัน ประกอบมีความเกี่ยวพันกับอาชญากรรมหลายประเภท โดยเฉพาะอาชญากรรมที่ประกอบโดยผู้มีอิทธิพลหรือกลุ่มอิทธิพล อาทิ บ่อนการพนัน หวยใต้ดิน การฮั้วประมูลงาน การค้าของเถื่อนหรือหนีภาษี การค้ามนุษหรือค้าทาส ทำให้คดีมือปืนรับจ้างสร้างภยันตรายให้แก่สังคมไทยอย่างมากมาย หากทางราชการสามารถลดคดีมือปืนรับจ้างลงได้ จะทำให้คดีอาญาหลายประเภทลดจำนวนลงไปด้วย
นายกรัฐมนตรี ณ ขนะนั้น เร่งรัดการดำเนินนโยบายการปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่มีเครือข่ายความสลับซับซ้อน ยากแก่การสืบสวนและดำเนินคดีเป็นอย่างยิ่ง ไม่อาจใช้กฎหมายฉบับใดฉบับหนึ่งหรือหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเพียงลำพัง จำเป็นต้องมีเอกภาพในการปฏิบัติและบูรณาการการบังคับใช้กฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้มีการตั้งศูนย์ปราบผู้มีอิทธิพลแลมือปืนรับจ้าง นับตั้งแต่นั้นมา
ในปัจจุบันปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในสังคมไทย มีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนรูปแบบไปตามการดำเนินชีวิตของประชาชนในยุคสมัยใหม่ ทำให้อาชญากรรมมีความหลากหลายซับซ้อนและมีรูปแบบใหม่ๆ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สร้างความเสียหายให้กับประชาชนผู้สุจริตโดยที่ไม่มีหน่วยงานใดก้าวทันอาชญากรรม เพื่อเป็นที่พึ่งพาให้กับประชาชนได้อย่างแท้จริง
ปี 2564 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ได้พิจารณาเห็นว่า พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง นั้นเป็นมือปราบผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง มาโดยตลอด ทั้งนี้เพื่อเป็นการรับมือกับอาชญากรรมที่เปลี่ยนไปและอนาคต จึงต้องเปลี่ยนชื่อศูนย์ใหม่เป็น ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและผู้ร้ายสำคัญ โดยมี พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ช่วยขับเคลื่อนและพร้อมต่อกรกับอาชญากรและผู้มีอิทธิพลทุกรูปแบบ ซึ่งมีผลงานเป็นที่ประจักษ์และเป็นที่ยอมรับความเชื่อมั่นของประชาชนทุกคน กระทั่งปี 2568 สถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไป
จากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หลายเหตุการณ์ก็เป็นเรื่องของความขัดแย้งของผลประโยชน์ทางการเมือง ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เช่น กำนันนก, กราดยิง สจ.โต้ง ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เป็นต้น
นายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายให้ปราบปรามผู้มีอิทธิพลอย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุข พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. จึงได้จัดตั้งศูนย์ปราบผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและผู้ร้ายรายสำคัญ โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. เป็นผู้อำนวยการศูนย์ มี พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ทำหน้าที่รองผู้อำนวยการศูนย์ โดยการคัดเลือกตำรวจมือปราบแถวหน้าของประเทศมาร่วมบูรณาการกำลังเป็นคณะทำงาน เพื่อแก้ปัญหาผู้มีอิทธิพล และมือปืนรับจ้างอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นบ่อเกิดอาชญากรรมทุกประเภทที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และความปลอดภัยของประชาชน
สำหรับ 17 พฤติกรรมที่เข้าข่ายผู้มีอิทธิพลที่สำคัญ อาทิ นายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบ, ผู้มีอิทธิพลในการฮั้วประมูล, ผู้มีอิทธิพลเรียกรับผลประโยชน์จากคิวรถจักรยานยนต์, ผู้มีอิทธิพลลักลอบจัดให้มีบ่อนการพนัน โต๊ะพนันบอล, ผู้มีอิทธิพลมือปืนรับจ้าง, ผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เป็นต้น
Advertisement