วันที่ 10 ก.พ. 68 ที่จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่แฝก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลเจดีย์แม่ครัว เข้าตรวจสอบเหตุ ผู้ป่วยเป็นลมหายใจเหนื่อยหอบบริเวณซอย 2 หมู่ 2 บ้านห้วยเเก้ว ต.เเม่เเฝก อ.สันทราย จ.เชียงใหม่
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบผู้ป่วยเพศชายนอนหมดสติ บริเวณใต้โรงรถจึงทำการCPR แต่พอเจ้าหน้าที่ทำการCPR ไปสักพัก ได้สังเกตเห็นเลือดพุ่งออกจากตัว จึงทำการเปิดเสื้อดู เพื่อจะทำการติดเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจ หรือ AED ได้สังเกตเห็นเลือดออกรูบริเวณกลางหน้าอก จึงพบว่ามีร่องรอยการถูกกระสุนปืนยิง และทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายคือ นายประเสริฐ อายุ 65 ปี เป็น สมาชิกสภาเทศบาลตำบลแม่แฝก หรือสท. มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .22 มม. บริเวณหน้าอกทะลุหลัง โดยจากการตรวจสอบภายในรถกระบะที่ใช้ทำสวน พบอาวุธปืนยาวอยู่ภายบริเวณในรถกระบะ
ภรรยาของผู้ตายให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 07.00 น. ที่ผ่านมาตนเห็นสามีเดินรดน้ำอยู่บริเวณหน้าบ้าน ทำตัวตามปกติ แต่หลายวันมานี้สามีบ่นกับตัวเองว่าช่วงนี้นอนไม่ค่อยหลับ รู้สึกร้อนต่อมาเวลา 09.00 น. ทางสามีของตนได้บอกให้ตนออกไปที่สวน เพื่อเอาน้ำเข้าสวน ตนจึงออกไปและกลับมาประมาณเวลา 09.30 น. ตอนแรกเข้ามาที่บ้านก็เห็นว่าบ้านล็อกอยู่ จึงได้เดินตามหาสามี แต่ก็ไม่เจอ จนกระทั่งไปดูข้างรถที่จอดในโรงที่เก็บของ ก็เห็นสามีอยู่ในรถ ปิดประตู และกระจกอยู่ จึงเปิดออกมาพบสามีนั่งอยู่บริเวณฝั่งคนขับ ลักษณะเหมือนคนเป็นลม เรียกไม่ตื่น จึงได้ไปบอกกับทางญาติ และหลานชาย จากนั้นก็รีบช่วยกันอุ้มนายประเสริฐออกจากตัวรถ และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพให้มาช่วยเหลือ
ส่วนอาวุธปืนไทยประดิษฐ์สีเหลืองทองได้ตกอยู่บริเวณหว่างขาของนายประเสริฐ ทางหลายชายจึงได้เก็บอาวุธปืนไว้
นอกจากนี้ภรรยาของผู้ตายยังเจอกับกระดาษA4 สีขาวที่วางอยู่บริเวณเก้าอี้หน้าบ้าน ระบุข้อความสั่งเสียว่า
"พ่อป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ไม่ได้เป็นโรคไต รักษาไม่หาย เหลือปอดข้างเดียว ร้อนตลอดเวลา ไม่บอกให้แม่กลัวตกใจ ฝากดูแลตัวเล็ก รักลูกรักแม่และเพื่อนๆ ทุกคน ท่านนายก และสท.ทุกๆ คน และเพื่อนร่วมงานทุกคนครับ ฝากวัดและบ้านด้วยครับ" โดยเขียนด้วยกัน 2 แผ่น
ต่อมาเจ้าหน้าที่แพทย์เวร โรงพยาบาลสันทราย ร่วมกับร้อยเวรสอบสวน สภ.เเม่เเฝก ได้ทำการชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นไม่พบการต่อสู้แต่อย่างใด จึงได้นำตัวส่งตรวจต่อที่ภาควิชานิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป
Advertisement