พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเปิดเผยกรณี พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 63/2568 ให้ พล.ต.ต.เอกราษฎร์ อินทร์ต๊ะสืบ หรือ ผู้การต๊ะ ผู้บังคับการกองตรวจราชการ 5 รักษาราชการแทน ผู้บังคับการกองตรวจราชการ 6 มาช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมายเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย ภายหลังตกเป็นประเด็นเกี่ยวข้องกรณีข้าราชการตำรวจยศ พลตำรวจตรี มีความเชื่อมโยงกับธุรกิจ "เมียวดีคอมเพล็กซ์" สถานบันเทิงและบ่อนกาสิโน ฝั่งเมียนมา ว่า ตัวเองได้รับมอบหมายจาก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สอบสวนกรณีโซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่ข้อมูลที่เชื่อมโยงตำรวจว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเมียวดีคอมเพล็กซ์ โดยได้มีการตั้งชุดคณะทำงาน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนภายใน 1 เดือน ซึ่งคณะทำงานของตัวเองจะเน้นด้านการสอบสวนพฤติกรรมของ พล.ต.ต.เอกราษฎร์ เพียง 1 ก่อนว่าเกี่ยวข้องกับเมียวดีคอมเพล็กซ์หรือไม่ และเกี่ยวข้องในด้านใด รวมถึงมีบุคคลใกล้ชิดหรือคนในครอบครัวเกี่ยวข้องหรือ ไม่ยืนยันจะสอบสวนในทุกมิติ ซึ่งในชุดทำงานจะประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ปปป., ปอท., ป.ป.ส.
ส่วนการที่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะสั่งให้สอบสวนกรณีดังกล่าวมีมูลเหตุมาจากประเด็นใดนั้นส่วนตัวไม่สามารถตอบได้ และอยากขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงาน เบื้องต้น ยังไม่ได้มีการวางประเด็นว่าจะเอาผิดทางวินัยหรืออาญา หรือ จริยธรรมเพียงแต่ต้องการความชัดเจนว่า นายตำรวจคนดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องจริงหรือไม่และเกี่ยวข้องอย่างไร เพื่อแก้ไขปัญหาภาพลักษณ์ของตำรวจ
เบื้องต้นมีการตั้งโครงสร้างตัวละครที่อาจจะเกี่ยวข้องทั้งผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และผู้มีอำนาจในพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันเพื่อวางแนวทางสืบสวนหารายละเอียด และแม้ว่าก่อนหน้านี้ จเรตำรวจจะได้มีการสอบสวนประเด็นดังกล่าวไปแล้ว แต่ก็เป็นคนละส่วนกัน และจากกรณีที่มีข้อมูลว่ามีบุคคลใกล้ชิดของผู้การต๊ะ รับช่วงต่อดูแลกิจการดังกล่าวนั้น ทางตำรวจมีข้อมูลชุดนี้อยู่แล้ว ยืนยันหากมีข้อมูลเชื่อมโยงไปถึงใครก็จะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น รวมถึงนายตำรวจอีก 5 นาย ในพื้นที่ จ.ตาก ซึ่งปรากฏคำสั่งโยกย้ายเช่นกัน
Advertisement