วันที่ 17 ก.พ.68 พ.ต.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) นำคณะพนักงานสืบสวนจำนวน 25 คน ที่เชี่ยวชาญในด้านการสืบสวนสอบสวน ด้านนิติวิทยาศาสตร์ ด้านแผนที่ภูมิศาสตร์และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ลงพื้นที่ตรวจสถานที่เกิดเหตุ ค้นหาความจริงกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ ‘แตงโม’ โดยเริ่มต้นจากบ้านเรือนเล็กอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
โดยก่อนที่จะลงเรือ พ.ต.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม เปิดเผยว่า วันนี้เราจะแบ่งเป็น 2 ส่วน โดยในช่วงเช้าเราจะเดินเรือไปทางทิศใต้ จะไปตาม GPS ของเรือลำที่เกิดเหตุ โดยจะเช็คจุดสำคัญ ที่ท่าทราย และเราก็จะขึ้นไปที่วัดค้างคาว โดยเราจะสแกนพื้นที่เพื่อจะพิสูจน์ความจริงบางอย่าง
และในช่วงบ่ายเราจะขึ้นไปทางทิศเหนือ จะไปสแกนจุด 4 จุดที่เราสงสัย จนถึงร้านอาหารบ้านครัวตานิด และจุดตรงโรงแรมริเวอร์เดล นี่คือจุดที่คณะพนักงานสอบสวนสงสัย
ซึ่งถ้าเราตรวจที่เกิดเหตุวันนี้แล้ว พบว่ามีจุดที่น่าสงสัย หรือว่ามีสิ่งบอกเหตุต่างๆ เราจะให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์มาร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษม ลงพื้นที่เก็บรายละเอียดอีกครั้งนึง
ซึ่งข้อเท็จจริงที่เราสืบสวนสอบปากคำพยานมา จุดที่สงสัยมากที่สุด ก็คือท่าทรายกับวัดค้างคาว เราจะใช้เครื่องสแกน กับโดรนเก็บภาพถ่ายทางอากาศและสแกนภาพทั้งหมด เพื่อยืนยันว่าตามที่พยานให้การมาว่ามันมีความสอดคล้องหรือขัดแย้งกันอย่างไร ส่วนสำคัญคือเราจะเก็บน้ำในจุดที่น่าสงสัย เพื่อจะพิสูจน์ว่าน้ำตรงกับน้ำที่เข้าไปในปอดของแตงโมหรือไม่ ซึ่งทางนิติวิทยาศาสตร์จะพิสูจน์ได้ ถึงชนิดของน้ำว่าเป็นยังไงบ้าง โดยอันนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่พิสูจน์ได้ว่าจุดที่ตก คือตรงไหน อันนี้คือสิ่งที่เราจะดำเนินการในวันนี้
ด้านนายไกรศรี สว่างศรี ผู้อำนวยการส่วนแผนที่และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ เปิดเผยว่า การตรวจสอบครั้งนี้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการสร้างแบบจำลองพื้นที่เกิดเหตุ โดยใช้อุปกรณ์สำคัญ ได้แก่ โดรนติดเซ็นเซอร์สำหรับสแกนพื้นที่และบันทึกภาพถ่ายทางอากาศ รวมถึงเลเซอร์สแกนที่ติดกับเรือ เพื่อตรวจสอบภูมิประเทศใต้น้ำ ข้อมูลที่ได้จะนำมาสร้างแผนที่ 3 มิติ ซึ่งสามารถใช้วิเคราะห์เส้นทางเดินเรือ กระแสน้ำ และปัจจัยทางฟิสิกส์ต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีเรือสำรวจที่ใช้โซนาร์ในการเก็บข้อมูลใต้น้ำ เพื่อตรวจสอบว่าพื้นที่จุดเกิดเหตุเป็นหิน ดิน หรือทราย
การลงพื้นที่ในวันนี้แบ่งออกเป็นสามกลุ่ม โดยกรมชลประทานจะสแกนพื้นที่ใต้น้ำ ตั้งแต่จุดเกิดเหตุในจังหวัดปทุมธานี จนถึงสะพานพระราม 8 ส่วนอีกกลุ่มจะสแกนภูมิประเทศทั้งหมด รวมถึงการใช้โดรนบันทึกภาพเสมือนจริงที่สามารถสร้างข้อมูลพิกัดเป็นจุด x, y, z ได้เป็นร้อยล้านจุดต่อรอบ นับเป็นครั้งแรกที่เทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้ในการสืบสวนคดีอาชญากรรม.
Advertisement