วันที่ 19 ก.พ.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ฉก.อรัญประเทศ กกล.บูรพา (ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศกองกำลังบูรพา) สั่งการให้ พ.อ.เมธี คำเต็ม ผบ.ชค.ทพ.12 (ผู้บังคับการชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12) และร.ท.สาโรจน์โยธา ผบ.ร้อย ทพ.1201 จัดกำลังพลร้อย ทพ.1201 ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.ณภัทร พงศสุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว บูรณาการกำลังร่วมกับนฝด.11 (หน่วยเฝ้าระวังชายแดนที่11กองกำลังบูรพา) ออกลาดตะเวณเข้มป้องกันและสกัดกั้นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ลักลอบเข้า-ออกเมืองโดยผิดกฎหมายตามช่องทางธรรมชาติริมชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่บ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ และ ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตามนโยบายซีลสต็อปเซฟชายแดนของรัฐบาลและกองทัพบก
ต่อมาขณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการร่วมร้อย ทพ.1201 เดินเท้าลาดตะเวณมาถึงบริเวณกำแพงกั้นพรมแดนหลังลานจอดรถข้างจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึกฯ ได้ตรวจพบบุคคลต้องสงสัย 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน กำลังปีนกำแพงคอนกรีตกั้นชายแดนด้านหลังลานจอดรถ แล้วช่วยกันแหวกรั้วลวดหนามหีบเพลงที่เจ้าหน้าที่วางทับซ้อนไว้บนกำแพง เพื่อป้องกันการลักลอบปีนกำแพงจากฝั่งปอยเปตประเทศกัมพูชาลงมาได้
เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังเข้าควบคุมตัวไว้ได้ พบว่าทั้ง 3 คนเป็นคนไทย ประกอบด้วยนายอภิชาติ อายุ 26 ปี ชาวตำบลโพธิ์ไทร อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร , นายชญานนท์ อายุ 22 ปี ชาวตำบลตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว และน.ส.ชลิตา อายุ 41 ปี ชาวตำบลกบินทร์บุรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ตรวจสอบทั้ง 3 คนพบมีพาสปอร์ต 1 คน และบอเดอร์พาส 1 คน แต่ไม่มีรอยตราประทับอนุญาตเข้าประเทศไทย ส่วนอีก 1 คนไม่มีหนังสือเดินทาง จึงควบคุมตัวทั้งหมดมาทำการซักถามที่กองร้อยทหารพรานที่ 1201 จต.อ. 20 ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
ซึ่งจากการซักถามทั้ง 3 คนให้การคล้ายกันว่าได้สมัครงานทางเฟซบุ๊กเมื่อประมาณปลายปี 2567 "อ้างว่าเป็นงานแอดมินรายได้ดีทำงานอยู่ที่ อ.อรัญประเทศฯ แต่เมื่อเดินทางมาถึงชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายจ้างไม่รู้ว่าเป็นใคร ได้ส่งคนมารับ โดย 2 คนที่มีพาสปอร์ตและบอเดอร์พาส คนมารับพาเดินข้ามด่านตม.อรัญประเทศจ.สระแก้ว ออกไปฝั่งกัมพูชาอย่างถูกหมาย ส่วนคนที่ไม่มีหนังสือเดินทาง คนที่มารับพาไปเดินเท้าข้ามชายแดนช่องทางธรรมชาติออกไปฝั่งกัมพูชา จากนั้นทั้ง 3 คนก็ถูกนำไปไว้คนละที่ โดยบังคับให้ทำงานเป็นสแกมเมอร์ฟีลแฟนหลอกให้รักและหลอกให้ร่วมลงทุนเหมือนกัน โดยบอกว่าจะให้เงินเดือนสูง ตั้งแต่เดือนละ 20,000 บาท 32,000 บาทเลยทีเดียว ทำให้พวกตนรู้ว่าถูกหลอกแล้ว จึงเกิดความกลัวแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะกลัวจะถูกทำร้ายร่างกาย แต่ก็พยายามหาวิธีที่จะหลบหนีตลอดเวลา
จนกระทั่งเช้าวันนี้พวกตนได้มีโอกาสหลบหนีออกมาจากสถานที่ทำงาน แล้วติดต่อว่าจ้างชาวเขมรให้พามาลักลอบข้ามพรมแดนช่องธรรมชาติกลับเข้าไทย แต่ได้มาพบกับพวกตนทั้ง 3 คนโดยบังเอิญ จึงได้ชวนกันลอบข้ามแดนกลับเข้าไทย โดยใช้วิธีปีนข้ามกำแพงคอนกรีตกั้นพรมแดนไทย-กัมพูชา หลังลานจอดรถใกล้ด่าน ตม.อรัญประเทศฯ ถึงแม้บนกำแพงคอนกรีตจะมีลวดหนามวางซ้อนไว้บนกำแพงก็ตาม แต่เพื่อต้องการหนีให้พ้นขุมนรกของแก๊งคอลฯในเขมร จึงช่วยกันพยายามแหวกลวดหนามแล้วใช้ตัวมุดลอดออกมา จนสามารถข้ามมาฝั่งไทยได้ แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบจนได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวทั้ง 3 คน ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ดำเนินคดีและสอบสวนขยายผลว่ามีส่วนร่วมในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วยหรือไม่ต่อไป.
Advertisement