เมื่อเวลา 20.00น. ร.ต.ท.ธีรยุทธ จันทะ รอง สว.สอบสวน สน.ยานนาวา และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู รับแจ้งเหตุ ชายถูกทำร้ายบาดเจ็บ บริเวณ ถนนสาทร แขวงยานนาวา เขตสาทร กทม. เจ้าหน้าที่จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุบริเวณใต้บีทีเอสเซนต์หลุยส์ พบผู้บาดเจ็บ ชื่อ นายยอดหงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี มีบาดแผลถูกกรรไกรแทงเข้าใต้ราวนมซ้าย 1 แผล ไม่สวมเสื้อ กางเกงขายาวสีกรม เป็น รปภ.ของโรงแรมบริเวณที่เกิดเหตุ และบริเวณที่เกิดเหตุมีไส้กรอกอีสานหล่นกระจัดกระจายอยู่กับพื้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ทำ cpr และนำส่งโรงพยาบาลเลิศสินก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ยังที่เกิดเหตุและได้มีโอกาสพูดคุยกับ นายสมบัติ (สงวนนามสกุล) ไรเดอร์คนเห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ผู้ตาย เป็นรปภ.โรงแรมบริเวณที่เกิดเหตุ และมีอาการมึนเมาจะมาขอไส้กรอกอีสานของร้านไส้กรอกอีสานรถเข็นกินฟรี และได้มีปากเสียงกับเจ้าของร้านก่อนจะมีเรื่องชกต่อยกัน ตนขับผ่านมาพอดีจึงได้เข้าไปห้าม แต่ผู้ตายก็ยังยั่วยุโมโหต่อกระทั่งทำร้ายเจ้าของร้านไส้กรอกบาดเจ็บ ประจวบเหมาะกับที่มีอาสาเคลื่อนที่เร็วท่านหนึ่งขับผ่านมาพอดีพร้อมกับอุปกรณ์ปฐมพยาบาลจึงได้ช่วยปฐมพยาบาลคนขายไส้กรอกอีสาน แต่ผู้ตายยังไม่หยุดและพยายามยั่วยุจนกระทั่งหาเรื่องกับอาสาเคลื่อนที่เร็วคนดังกล่าวและพยายามจะไปหยิบกระบองที่ป้อมยามเพื่อที่จะมาทำร้ายพลเมืองดีคนดังกล่าว แต่ผู้ตายหากระบองไม่เจอจึงหยิบไส้กรอกอีสานฟาดไปฟาดมาจนถูกตนและคนอื่น จากนั้นเข้าไปจะทำร้ายพลเมืองดีคนดังกล่าวจึงได้หยิบกรรไกรของร้านไส้กรอกอีสานติดตัวไว้เพื่อที่จะป้องกันตัว กระทั่งเกิดเหตุชุลมุนผู้ตายถูกกรรไกรแทงเข้าไปบริเวณใต้ราวนมและวิ่งหนีนอนจมกองเลือด
ต่อมาเวลาประมาณ 22:50 น. พี่สาวของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจนครบาลและได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนก่อนที่จะเดินทางกลับ โดยได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะที่เกิดเหตุผู้ตายได้ไปดื่มสุรามาซึ่งเป็นงานเลี้ยงปีใหม่ แต่เรื่องราวอย่างอื่นต้นยังไม่ทราบเพราะว่าเห็นในข่าวจึงได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจ ส่วนเรื่องของคดีก็ปล่อยไปตามกฎหมายและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนเรื่องทะเลาะวิวาท หรืออุปนิสัย ตนยังไม่ทราบ เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน
เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุได้เดินทางเข้ามามอบตัวที่สถานีตำรวจนครบาลยานนาวา ทราบชื่อ นายสรพงษ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ส่วนคนขายไส้กรอกได้เข็นรถหนีไป ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำผู้ก่อเหตุเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถาม นายสรพงษ์ (ผู้ก่อเหตุ) เผยว่า ขณะตนกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับหลังจากไปรับลูกสาว ระหว่างทางตนเห็นว่า คนขายไส้กรอกกำลังทะเลาะวิวาทกับทางคนตาย ซี่ง ณ ตอนนั้นคนตายมีอาการเมายาเห็นได้ชัด จากนั้นคนตายได้มีการพุ่งเข้าต่อยที่บริเวณใต้ตาข้างขวาแตกของคนขายไส้กรอกจนเป็นเหตุทำให้ได้รับบาดเจ็บ ด้วยความที่ตนเป็นอาสากู้ภัยจึงได้เข้าช่วยระงับเหตุและปฐมพยาบาลเบื้องต้นกับทางคนขายไส้กรอก ซึ่ง ณ ตอนนั้น ผู้ตายยังคงมีอาการเมาโวยวาย และอ้างว่าเป็นเจ้าที่ตำรวจ สน.ยานนาวา ก่อนที่ผู้ตายจะเดินกลับไปหยิบกระบองรปภ.ออกมา ซึ่งตอนนั้นตนกังวลว่า จะถูกผู้ตายทำร้ายร่างกาย จึงได้หยิบกรรไกรของร้านไส้กรอกอีสานติดตัวไว้ เพื่อที่จะป้องกันตัว
จากนั้นผู้ตายได้เดินกลับมา พร้อมมีการใช้พวงไส้กรอกอีสานกวัดแกว่งฟาดไปฟาดมา และพยามชวนตนทะเลาะวิวาท แต่ตนก็ไม่อยากมีปัญหาจึงพยามรีบปฐมพยาบาลคนเจ็บ ก่อนที่ผู้ตายจะพุ่งเข้ามาหาตนและต่อยเข้าที่บริเวณใต้ตาตนด้านซ้าย ด้วยความตกใจตนจึงพุ่งกรรไกรสวนไป ทำให้กรรไกรแทงเข้าไปที่ใต้ราวนม จนเป็นเหตุทำให้เสียชีวิต
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนยืนยันได้ว่าไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายร่างกายผู้ตายแต่อย่างใด เพียงแค่พกอาวุธกรรไกรไว้เพื่อป้องกันตัวเท่านั้น
Advertisement