กรณีเกิดอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารไม่ประจำทาง 2 ชั้น เดินทางจากเทศบาลตำบลพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ เพื่อศึกษาดูงานที่จังหวัดระยอง ตั้งแต่วันที่ 24-28 ก.พ.68 โดยออกเดินทางจากต้นทางในช่วงเวลา 17.00 น. วันที่ 25 ก.พ.68 และมาถึงที่เกิดเหตุบริเวณหลัก กม.ที่ 210+500 ถนนสาย 304 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ขณะรถกำลังลงเขาซึ่งเป็นทางโค้งคดเคี้ยว รถทัวร์เกิดลมเบรกหมด ไม่สามารถควบคุมรถได้ ทำให้รถเสียหลักชนกบแบริเออร์แล้วพลิกข้ามแบริเออร์ ไปชนกับเนินหินแล้วครูดไปกับเนินหินทำให้รถพัง ผู้โดยสารตกลงจากตัวรถเสียชีวิต รวม 18 ราย และบาดเจ็บ 31 รายนั้น
ซึ่งต่อมาที่สถานีตำรวจภูธรวังขอนแดง มีญาติของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ทยอยเดินทางมาติดต่อขอรับทรัพย์สินคืน ต่อมาเจ้าหน้าที่พบ กระเป๋าเดินทางใบหนึ่ง ซึ่งญาติระบุว่าเป็นของ นางสาวพิมพกานต์ จึงรีบโทรศัพท์แจ้ง ลูกสาวของผู้เสียชีวิต ให้ช่วยยืนยัน เมื่อลูกสาวเห็นกระเป๋าผ่านวิดีโอคอล ก็ยืนยันว่า เป็นของแม่จริง
ลูกสาวของผู้เสียชีวิตระบุว่า กระเป๋าอีกใบที่แม่ใช้สะพายติดตัวเป็นกระเป๋าสีน้ำตาล ซึ่งภายในมี ทองคำน้ำหนักประมาณ 8-10 บาท แหวนเพชร 1 วง เงินสด และโทรศัพท์มือถือ โดยเธอมั่นใจว่า แม่เก็บของมีค่าติดตัวเสมอ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหาให้ด้วย
ล่าสุด พ.ต.อ.คงศักดิ์ บุญสื่อสุวรรณ รอง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ระบุว่า เรื่องทรัพย์สินที่ญาติผู้เสียชีวิตอ้างว่ามีการหายไปและยังตามหาไม่พบนั้น ตอนนี้ทางเราได้ตั้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบว่าการเข้าที่เกิดเหตุ ใครมาก่อนใครมาหลัง และจะติดตามทรัพย์สิน รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดด้วย อยากจะประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนสำหรับใครที่ไม่ได้ตั้งใจ ขอให้นำมาส่งคืนที่สถานีตำรวจภูธรวังขอนแดง แต่ถ้าเรามีการตรวจสอบพบว่ามีการเอาทรัพย์สินไปจริง เราจะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น
โดยเรื่องทรัพย์สินผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บนั้น ทางตำรวจขอตรวจสอบอีกนิดนึง เพราะว่าขณะนี้มีทรัพย์สินบางส่วนยังอยู่ที่บนรถด้วย ทางตำรวจได้กั้นที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการจัดเวรเฝ้าและดูกล้องวงจรปิด และตรวจสอบทรัพย์สินบนรถอีกทีนึงว่ามีอะไรบ้าง ถ้าเกิดได้มาเราก็จะติดต่อไปยังญาติผู้เสียชีวิต และขอให้ญาติผู้เสียชีวิตได้ติดต่อมาที่ สภ. วังขอนแดง เพื่อติดตามทรัพย์ของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บต่อไป.
Advertisement