เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.เกียรติศักดิ์ บุญทอง สว.กก.6 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายอาแวฯ อายุ 38 ตามหมายจับของศาล “ ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญาธนบุรี ที่ 648/2567 ลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2567
สถานที่จับกุม บริเวณริมถนนใกล้กับ กศน.อำเภอระแงะ ม.7 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและกระทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป ”
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2567 เวลาประมาณ 19.00 น. เหตุเกิดบริเวณริมถนนพระราม2 ใกล้ปั๊มน้ำมัน ปตท.ถนนพระราม2 ขาออก กม.12 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจป้องกันปราบปราม สน.แสมดำ ได้ทำการจับกุม นายยูลลัมฯ พร้อมด้วยของกลาง เสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) จำนวน 201 ก้อน รวมทั้งสิ้นน้ำหนัก 218.320 กิโลกรัม ซุกซ่อนมากับรถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร
จากการสืบสวนสอบถามนายยูลลัม กอตอนีลอฯ ผู้ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ ให้การรับว่านายฮาซันฯ และนายแพนดีฯ ไม่ทราบชื่อสกุล ติดต่อชักชวน นาย อาแวชฯ กับ นายยูลลัมฯ ถูกจับก่อนหน้านี้ ที่เป็นพี่ชาย แฟนเก่า ของนายอาแวฯ ให้ว่าจ้าง ขนยาไอซ์ไปส่งให้ลูกค้า นัดหมายที่บริเวณ ใกล้ปั๊มน้ำมัน ปตท. ริมถนนพระราม 2 ( ขาออก) กม.12 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ จากนั้นจะมีผู้มารับยาไอซ์ โดยซุกซ่อนไว้ในกล่องกระดาษสีน้ำตาลมากับรถยนต์กะบะยี่ห้อ มิตซูบิชิ สีดำ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ที่นายอาแวฯ ผู้ขับขี่ และ นายยูลลัมฯ ขับมาส่งยาไอซ์ตามที่นัดหมาย
เมื่อขับมาถึงบริเวณ ปั๊มน้ำมัน ปตท. ดังกล่าวปรากฏว่า นายอาแวฯ ผู้ขับขี่รถยนต์กะบะที่ขนยาไอซ์ เกิดอาการท้องเสียขอเข้าห้องน้ำ ขณะเดียวกัน นายยูลลัมฯ นั่งข้างคนขับ ได้ขยับมานั่งที่นั่งของ นายอาแวฯ ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.แสมดำ สังเกตเห็นรถยนต์ต้องสงสัย และบุคคลภายในรถยนต์เกิดอาการลุกลี้ลุกลน จึงได้เข้ามาทำการตรวจค้น พบของกลาง ยาไอซ์ จำนวน 201 ก้อน ได้ทำการจับกุม นายยูลลัมฯ ส่วนนายอาแวฯ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุม นายยูลลัม ฯ ที่นั่งอยู่ในรถยนต์คันดังกล่าว ได้โบกรถแท็กซี่หลบหนี
จนต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนขยายผลมาโดยตลอดทราบว่า นายอาแวฯหนึ่งในเครือข่ายขนยาไอซ์ หลังเกิดเหตุได้หลบหนีไปอยู่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนแกะรอย จนทราบว่านาย นายอาแวฯ กำลังจะเดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย และขณะเดินกำลังจะเดินทางไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งนายอาแวฯ โดยสารด้วยรถไฟ ขบวนท้องถิ่น ที่ 447 มุ่งหน้าปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อเดินทางไปถึงพบบุคคลเพศชายมีลักษณะรูปพรรณ ตรงกับบุคคลที่มีหมายจับปรากฏตัวอยู่ที่ บริเวณริมถนนใกล้กับ กศน.อำเภอระแงะ ม.7 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงบัตรประจำตัวเจ้าพนักงาน พร้อมทั้งได้ขอตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน ทราบชื่อคือ นายอาแวฯ ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันตามหมายจับข้างต้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงสำเนาหมายจับให้ นายอาแวฯ ดู และให้อ่านเองจนเป็นที่เข้าใจดีแล้ว นายอาแวฯ ให้การยอมรับว่าตนเองเป็นบุคคลคนเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับฉบับนี้จริง และไม่เคยถูกจับตามหมายจับนี้มาก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัว นายอาแวฯ มาที่ กองกำกับการสืบสวนจังหวัดนราธิวาส อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส เพื่อจัดทำทำบันทึกการจับกุม และได้ควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ กรุงเทพมหานครฯ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คำให้การในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
Advertisement