เมื่อเวลา 06.15น.วันที่ 6 มีนาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรผักไห่ รับแจ้งมีผู้ถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย บริเวณริมถนนทางเข้าหมู่บ้าน พื้นที่หมู่ 4 ตำบลบ้านใหญ่ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบร่องรอยการต่อสู้และรอยเลือดบริเวณใต้ต้นก้ามปูจำนวนมาก ส่วนผู้บาดเจ็บเจ้าหน้าที่อาสาสมัครได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลผักไห่ให้การรักษาไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือนางสาววราภรณ์ อายุ 39 ปี มีบาดแผลจากการถูกแทงจำนวน 18 แผล ทั้งลำตัวและคอ
สอบถามนางสาวจุรีพร (พี่สาว)ของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุคือนายบุญมา หรือ ต้อม มั่งมี อายุ 40 ปี (อดีตสามีของตนเอง
พ.ต.อ.ดุษฎี หิรัญรัตน์ ผกก.สภ.ผักไห่พร้อมด้วย พ.ต.ท.อดิศักดิ์ สินสืบผล รองผกก.สส.สภ.ผักไห่,ร.ต.อ.ปิยะ หัทยา รองสว.สส.สภ.ผักไห่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ผักไห่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เร่งนำกำลังชุดสืบสวนลงพื้นที่ยังจุดเกิดเหตุและตามข้อมูลเพื่อเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุทันที
จนไปพบแม่และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจนทราบเส้นทางการหลบหนีไปบนถนนทางหลวงชนบท ในพื้นที่ตำบลน้ำเต้า อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยใช้รถจักรยานยนต์ในการหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงเร่งติดตามตัวจนไปพบนายบุญมา หรือ ต้อม กำลังนั่งคร่อมรถอยู่ จึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม พร้อมนำตัวมายังสถานีตำรวจภูธรผักไห่
ผู้ต้องหาให้การว่า ตนเองเคยคบหากับนางสาวจุรีพร (พี่สาวผู้เสียชีวิต) ต่อมาตนเองถูกจับติดคุกไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว พอพ้นโทษมาได้ 4 เดือนก็พยายามทักแชตหานางสาวจุรีพร แต่กลับไม่ยอมคุย บอกเพียงว่ามีแฟนใหม่แล้ว และยังเห็นโพสต์เฟซบุ๊กกับแฟนใหม่ ทำให้เกิดความไม่พอใจ เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาจึงจะมาเพื่อดักคุย เพราะรู้ว่าอดีตภรรยาจะต้องไปทำงานในตอนเช้า โดยเดินมารอรถรับ-ส่งพนักงานหน้าปากซอยบ้าน
เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเห็น นางสาววราภรณ์ (น้องสาวอดีตภรรยา) ตนเองเกิดความเข้าใจผิดนึกว่าเป็นนางสาวจุรีพร (อดีตภรรยา) จึงใช้กรรไกรที่พกมาด้วยลงมือแทงเข้าไปที่ตามร่างกาย แต่ไม่รู้ว่าแทงตรงไหนบ้าง และจำไม่ได้ว่าแทงไปกี่ครั้ง ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งตอนนั้นตนเองคิดว่าได้แทงอดีตภรรยา จนมาทราบจากแม่ว่าแทงน้องสาวภรรยาจนมาถูกจับกุมได้ในที่สุด
ตำรวจสถานีตำรวจภูธรผักไห่ คุมตัวนายบุญมาชี้จุดเกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ โดยมีชาวบ้านรวมถึงครอบครัวผู้เสียชีวิตมาค่อยดู จากนั้นก็พาตัวนายบุญมา กลับมาที่ สภ.ผักไห่ ฝ่าวงล้อมความโกรธแค้น ท่ามกลางเสียงสาปแช่งจากครอบครัวและญาติผู้เสียชีวิต
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,พกพาอาวุธ(กรรไกร)ไปในเมืองชุมชนหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนพร้อมของกลางส่งพนักสอบสวน สภ.ผักไห่ เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการตามกฎหมายต่อไป
Advertisement