"ทนายเดชา" เชื่อ ผู้กำกับโจ้ ถูกกดดันบังคับให้ตาย เพราะมีความลับเยอะ
"ทนายเดชา" เชื่อ ผู้กำกับโจ้ ถูกกดดัน บังคับให้ตาย เพราะมีความลับเยอะ ถามมีจดหมายลาตายหรือไม่ เพราะปกติคนคิดสั้นต้องบอกลาก่อน
จากกรณีที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อายุ 43 ปี อดีตผู้กำกับ สภ.นครสวรรค์ จำเลยคดีคลุมถุงดำ ฆ่าตัวตายด้วยการแขวนคอ ภายในห้องขังหมายเลข 50 ตึกนอนแดน 5 เรือนจำกลางคลองเปรม ช่วงค่ำวันที่ 7 มี.ค. 68
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ต่อมาวันที่ 8 มี.ค. 68 นาย เดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ให้สัมภาษณ์กับ “ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี” ถึงเรื่องดังกล่าวว่า หากย้อนกลับไปตั้งแต่มีคดีเรื่องถุงดำ ในตอนนั้นมีตำรวจมาให้ข้อมูลตัวเองว่า มีผู้กำกับคนหนึ่งสอบสวนผู้ต้องหาคดียาเสพติด และมีการใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาเสียชีวิต
ซึ่งตำรวจผู้ที่มาให้ข้อมูลกับตนนำเรื่องไปร้องเรียน แต่ว่าปรากฏว่าเรื่องเงียบ ในตอนนั้นตนเองจึงนำเรื่องดังกล่าวเปิดเผยทางเฟซบุ๊ก และแจ้งไปยังสื่อมวลชน จากนั้นทนายตั้มได้เปิดคลิปหลักฐาน จนเป็นกระแสเป็นข่าวใหญ่ จนสุดท้ายก็มีการออกหมายจับ ผู้กำกับโจ้พร้อมพวก จนศาลพิพากษาให้ประหารชีวิต และลดโทษให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต
ส่วนตัวจึงเชื่อว่า หลังจากที่ผู้กำกับโจ้ถูกดำเนินคดี ได้รับแรงกดดันจากผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะสมัยที่ทำหน้าที่เป็นผู้กำกับ เจ้าตัวรู้จักกับผู้ใหญ่หลายคน และทำงานเกี่ยวกับธุรกิจให้ ถือว่าเป็นคนมีความลับของผู้ใหญ่หลายคน แต่พอมีเรื่องก็ถูกถีบหัวส่งไม่มีคนช่วย
หลังจากนั้นก็ไม่ได้ตามติด ผู้กำกับโจ้เท่าไหร่ แต่พอรู้มาว่าเปลี่ยนทนายหลายชุดจนกระทั่งล่าสุดให้ทนายไปแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น เรื่องถูกกลั่นแกล้งในคุกแจ้งความ 1 ที่ แต่ก็ไปร้องเรียนหลายหน่วยงานเพราะคดีไม่คืบหน้า แจ้งความแล้วตำรวจเข้าเรือนจำไม่ได้ แถมมีใบรับรองแพทว่าถูกทำร้ายร่างกายอีกประเด็นพวกนี้ตนก็ทราบมา
ส่วนเรื่องการใช้ชีวิตในคุก ผู้กำกับโจ้มีเงินอาจจะถูกคนในคุกมองว่าสบาย และหาเรื่องหรือไม่ ตนเองมองว่าอยู่ในคุกไม่ได้สบายเสมอไป จริงอยู่มีเงินอาจจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ อาจจะสะดวกสบายขึ้นบ้าง แต่คงไม่ถึงขนาดกินเหล้ากินเบียร์ได้
ส่วนการย้ายแดน หากนักโทษมีความกระด้างกระเดื่อง ผู้คุมสามารถทำเรื่องย้ายแดนได้ เป็นอำนวจของผู้คุมของแต่ละแดน แต่นัยยะคำว่า กระด้างกระเดื่องไม่รู้ว่าหมายถึงยังไง ในเรือนจำไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นใครจะเป็นพยานให้ได้ไม่มีใครกล้า
ส่วนประเด็นเรื่องกรมราชทัณฑ์แถลงชี้แจง ผู้กำกับโจ้ขอขังเดี่ยว แต่ทางทนายความของ ผู้กำกับโจ้แจ้งไม่ได้มีลงบันทึก หรือการขอขังเดี่ยวจากผู้กำกับโจ้ ตนเองมองว่าข้อเท็จจริงอยู่ที่ทั้งสองฝ่ายสามารถตัดสินได้ แต่สำหรับตนแล้วประสบการณ์ที่เคยมีลูกความเกี่ยวกับคดียาเสพติดไม่มีใครอยากจะขังเดี่ยวหรือเข้าซอย มันทรมาน ไม่แน่ใจ ผู้กำกับโจ้อยากจะขังเดี่ยวหรือป่าว
เป็นไปไม่ได้ระดับ ผู้กำกับโจ้จะมีคนมาทำร้าย เชื่อว่าคงไม่อยากขังเดี่ยว จากข้างวงในก็เชื่อว่า ผู้กำกับโจ้ฆ่าตัวตายแน่นอน แต่ก็ต้องหาสาเหตุการตายต่อไป แต่ถ้าปัญหาที่ต้องฆ่าตัวตายเกิดจากการบีบคั้นหรือไม่นั้น ถ้าเกิดในลักษณะนั้นจริงก็ไม่ได้สมัครที่จะฆ่าตัวตาย แต่เป็นการจนมุม ไม่มีทางเลือก
อีกประเด็นการฆ่าตัวตาย ถ้าให้มองประกอบกับลูกความของตัวเอง เคยทำคดีมาแล้ว คนที่ต้องการที่จะฆ่าตัวตาย หรือปลิดชีพตนเอง จะเขียนจดหมายลาตายหรือส่งเสียญาติก่อนที่จะลงมือจบชีวิตตัวเอง เพราะการตายโดยไม่สั่งลามันไม่มีหรอก ยกเว้นถูกบังคับให้ตาย
ซึ่งหลักฐานพยานสำคัญของการเสียชีวิตคือกล้องวงจรปิด เพราะตามที่ปรากฏตามข่าวว่าเรือนจำมีกล้องวงจรปิดต้องมีการนำมาชี้แจงต่อสังคมให้เกิดความชัดเจน ตรวจสอบช่วงที่เจอศพจนกระทั่งแจ้งญาติออกเจ้าหน้าที่มีใครเข้าออกเอาอะไรไปจากห้องขังหรือไม่ และไม่สอดคล้องกันถ้าอ้างว่าเป็นจิตเวชยิ่งไม่ควรให้อยู่คนเดียวต้องดูแลเป็นพิเศษ ไม่มีใครประสงค์อยู่คนเดียวเหงาจะตาย
Advertisement
