จากกรณีที่เฟซบุ๊ก “กันจอมพลัง ช่วยสู้” โพสต์คลิปพร้อมข้อความระบุว่า มีหญิงหนีจากสงขลามาหาผม เธอเล่าว่า กำลังถูกไล่ล่าตามคลิป ห่วงไม่ปลอดภัย ผมกำลังให้ทีมงานคุยรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้นครับ อีกสักครูหนึ่งน่าจะได้รู้เรื่องราวติดตามกันไว้ครับจะรีบมาอัพเดทให้ทราบ
ล่าสุดวันนี้ (24 มีนาคม 2568) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พาครูสาว วัย 36 ปี เปิดใจกับสื่อกรณีที่ครูสาวนำคลิปไล่ล่าสุดระทึกใกล้กับมัสยิดกลาง จ.สงขลา
โดยครูสาว วัย 36 ปี ผู้เสียหายเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยอดีตผู้อำนวยการวิทยาลัยคนหนึ่ง ที่เป็นอดีตผู้บังคับบัญชาของตนเอง ได้นัดแนะให้ไปร้านกาแฟเพื่อที่จะคุยเรื่องงาน แต่เมื่อตนเองไปพบกับ ผอ.คนดังกล่าว ได้มีเมียอดีตผู้อำนวยการของวิทยาลัย ได้ขับรถกระบะตามมา ก่อนจะมาด่าทอ จนตนเองเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย
ตนจึงตัดสินใจขับรถเก๋ง ออกจากร้านกาแฟ แต่ในระหว่างทางนั้นก็ถูกฝั่งภรรยาอดีต ผอ.ขับรถกระบะไล่ตาม ซึ่งตนก็พยายามขับหนี แต่เนื่องจากรถของตนเป็นรถเก๋ง ทำให้ถูกคู่กรณีไล่ตามมาทัน ก่อนจะขับรถพุ่งชนท้ายอย่างแรง จนได้รับบาดเจ็บ ต้องหยุดรถข้างทาง ก่อนที่หญิงคนดังกล่าวจะเดินลงมาจากรถ พร้อมกับกระชากประตูพยายามจะให้ทางครูลงจากรถพูดคุย
แต่เมื่อตนเองไม่ลงมาจากรถ หญิงสาวคู่กรณีก็ได้เดินไปหักที่ปัดน้ำฝน เอามาทุบรถของตนเองทั้งด้านหน้าและด้านหลังพร้อมกับตะโกนด่าทอข่มขู่ จนกระทั่งอดีตผู้อำนวยการลงมาจากรถ และบอกตนเองว่าให้ลงมาจากรถพูดคุยกัน ซึ่งระหว่างนั้นตนเองได้มีการโทรแจ้งตำรวจไว้แล้ว จึงได้ลงมาจากรถ แต่เมื่อตนเองลงมาจากรถกลับถูกฝ่ายหญิงคู่กรณีเข้ามาจิกหัวและตบตี ตนเองจึงได้มีการป้องกันตัว ทำให้เกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้นตามคลิปที่ปรากฏ จนกระทั่งตำรวจมาและให้ไปไกล่เกลี่ยเคลียร์กันที่โรงพัก
แต่ฝ่ายชายกลับบอกว่าไม่ให้เอาเรื่องของผู้หญิงที่ทำร้ายตนและให้ไกลเกลี่ยกัน ตนเองยอมรับว่าก่อนหน้านี้หนึ่งปีที่ผ่านมา ก็ถูกฝ่ายหญิงคุกคามมาโดยตลอด โดยถึงกับบุกมาทำร้ายร่างกายภายในโรงเรียนเมื่อปี 2566 มาแล้ว และเกิดการข้อพิพาทอ้างว่า ตนเองมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน แต่ตามจริงแล้วตนเองเป็นเพียงแค่เจ้านายและลูกน้องและคุยเรื่องงานเพียงเท่านั้น
ยืนยันว่าตนเองไม่เคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว แต่ยอมรับว่าฝ่ายชาย เคยส่งอิโมจิรูปหัวใจมาให้ตนเอง แต่ตนเองก็ไม่ได้เล่นด้วย จึงอาจจะทำให้ฝ่ายหญิงคู่กรณีเข้าใจผิด
หลังเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ส่วนตัวก็เกิดความกดดัน อีกทั้งครูในโรงเรียนก็มีอาการแปลกๆกับตนเอง จนทำให้ตนเองเกิดอาการเครียด นอกจากนี้ยังถูกฝ่ายหญิง ตามข่มขู่ด้วยการโชว์อาวุธปืนและข่มขู่จะเอาชีวิตพร้อมกับส่งอาวุธปืนมาโชว์ จนทำให้ตนเองหวาดกลัวตำรวจ เพราะแม้แต่ตำรวจยังบอกให้ตนเองยุติเรื่องดังกล่าว และอ้างว่าคู่กรณีเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ถึงแม้จะสู้ไปก็ไม่มีทางชนะ ทำให้ตนจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจาก กัน จอมพลัง
ด้าน กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า เรื่องนี้ตนได้รับการติดต่อจากครูสาวใน จ.สงขลา รายหนึ่ง และส่งคลิปดังกล่าวมาให้ดู พร้อมอธิบายว่าถูกไล่ล่า พอเห็นคลิปดังกล่าว ก็รู้สึกตกใจ จึงสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจนได้ความว่า เมียของ อดีต ผอ.สถาบันอาชีวะศึกษาแห่งหนึ่ง ทางภาคใต้ เข้าใจผิดคิดว่า ครูสาวแอบมีสัมพันธ์กับสามีตัวเอง จึงมีการขับรถไล่ล่าติดตามกันอย่างดุเดือด ต่อเนื่องถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันจนเลือดอาบหน้าครูสาว , เพราะหลังจากที่ขับรถไล่ล่ากันมาแล้ว ครูสาวได้จอดรถข้างทางกะว่าจะได้เคลียร์กันให้รู้เรื่อง แต่เมีย ผอ.ไม่ฟังที่ครูสาวอธิบาย ดึงที่ปัดน้ำฝนทุบกระจกรถของครูสาวจนแตก , พอครูสาวลงมาก็ถูกกระชากจนผมหลุดติดมือและด่าทอด้วยคำหยาบคาย
กัน จอมพลัง บอกว่า ตนเองพยายามสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากครูสาว ซึ่งครูสาว ยืนยันว่า ไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ ผอ.แต่เป็นการเข้าใจผิด เพราะ ผอ.เคยมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับครูสาวคนอื่นๆที่โรงเรียน
ที่น่าตกใจคือ ตอนปี 2566 ครูสาวรายนี้ก็เคยถูกเมีย ผอ.บุกมาตบถึงที่โรงเรียนแล้ว ซึ่ง กัน จอมพลัง ถามย้ำหลายรอบ ครูสาวก็ยังยืนยันคำเดิมว่า ไม่ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ ผอ. แต่ถ้าทางเมีย ผอ.มีหลักฐานอะไร ก็อยากให้เปิดเผยเลย ตนจะได้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งที่ตนเข้ามาช่วยครูสาว เพราะเห็นว่า เป็นเหตุการณ์ที่มีการขับรถไล่ล่า-ชนท้ายเป็นความรุนแรงและ โหดร้าย ที่พีคกว่านั้น ก็คือมีการข่มขู่ถึงขั้นเอาชีวิตกันด้วย และหลังจากเกิดเรื่องตนสอบถามไปที่กระทรวงศึกษาทราบว่า ผอ.คนดังกล่าวยื่นใบลาออกและทางกระทรวงก็เซ็นอนุมัติอย่างรวดเร็ว จนน่าใจหาย
Advertisement