วันที่ 1 เม.ย. 68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 205 ม.11 บ้านห้วยโจด ต.หนองแดง อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของนายเส็ง โม้เวียง อายุ 62 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และนางภาวนา โม้เสียง อายุ 56 ปี บิดามารดาของนายพีรพล โม้เวียง หรือ เปา อายุ 30 ปี ผู้รอดชีวิตจาก ตึงสตง.ถล่ม ภายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา
ซึ่งคู่สามีภรรยาต่างก็มีสีหน้าสดชื่นดีใจ หลังได้พูดคุยกับลูกชายที่เพิ่งสามารถติดต่อกันได้เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา โดยพ่อนายเปาต่อสายโทรศัพท์หาลูกชายให้ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยสอบถาม ก่อนจะอวยพรให้ลูกโชคดีอยู่รอดปลอดภัย แต่ลูกชายตอบกลับแบบช็อตฟิวส์ว่า ขอเงินหน่อย จนกลายเป็นบรรยากาศสุดชื่นมื่น ซึ่งพ่อรับปากว่าจะโอนเงินไปให้ก่อนจะวางสายไป
นายเส็ง กล่าวว่า ครอบครัวตนมีลูกเพียงคนเดียวคือนายเปา ถือว่าเป็นลูกโทนของพ่อแม่ พอโตเป็นหนุ่มก็ตระเวนทำงานหลายอย่างๆ นานๆ จะกลับบ้านมาหาพ่อแม่สักครั้ง โดยก่อนหน้านี้ลูกชายทำงานกับนายจ้าง และหัวหน้างาน ซึ่งเป็นสองผัวเมียที่ยังสูญหายจากเหตุการณ์เดียวกัน คือนายดำรง ผ่องลุนหิต และน.ส.อรอุมา แก่นเมือง สองสามีภรรยาชาว อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ได้พาไปทำงานเดินสายไฟฟ้าที่อาคาร สตง.โดยการทำงานก็ราบรื่น ไม่มีอุปสรรคแต่อย่างใด
กระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 28 มี.ค. 68 ทราบข่าวว่ามีเหตุแผ่นดินไหว ทำให้อาคารสตง.ถล่ม มีแรงงานสูญหายหลายราย ทำให้ตกใจมาก พยายามติดต่อลูกชาย แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งผ่านมาร่วม 3 วัน ทราบข่าวว่าแม่ของน้องฟา สโดยน้องฟาสเป็นผู้สูญหายอีกคน และเป็นลูกเขยของสองสามีภรรยานายจ้างลูกชายเดินทางไปจุดเกิดเหตุ เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต จึงได้ทำการติดต่อกับมารดาของแรงงานรายดังกล่าว และฝากเบอร์โทรศัพท์ของตนไว้ เผื่อพบลูกชายให้ลูกชายโทรหาพ่อแม่ทางบ้านด้วย จนช่วงเที่ยงวันนี้ลูกชายก็ใช้โทรศัพท์มารดาของผู้สูญหาย ก่อนจะโทรมาหาพ่อแม่ เมื่อได้ยินเสียงลูกชายก็สุดแสนจะดีใจที่ลูกปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายเปา ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวทราบว่า ช่วงพักหัวหน้าชายหญิงให้ลงมาชั้น1 เพื่อเอากระติกน้ำขึ้นไปยังชั้นที่ 27 จึงลงมา โดยมีน้องน้ำตาลลูกสาวของ น.ส.อรอุมาที่เป็นนายจ้างตามลงไปเอาเครื่องมือให้พ่อกับแม่ด้วย ก่อนจะลงลิฟท์มาพร้อมกัน เมื่อถึงชั้นที่1 ก็ได้ยินเสียงปูนจากอาคารแตกร้าว ก่อนจะมีเสียงคนกรีดร้อง พร้อมกับอาคารถล่มลงมาจากทางด้านหลัง จึงพากันวิ่งหนีท่ามกลางฝุ่นละอองจนแทบหายใจไม่ออก และพังรั้วสังกะสีออกมา จนรอดชีวิตทั้งคู่
ซึ่งลูกชายยังบอกอีกว่าคู่ผัวเมียที่เป็นหัวหน้างาน และน้องฟาสที่อยู่ชั้นที่ 27 น่าจะติดอยู่ในซากของตึกที่ถล่มลงมา ซึ่งอาจจะเสียชีวิตทั้งหมดแล้ว แต่ทุกคนก็ยังมีความหวัง หากยังไม่พบร่างของทั้งสามคน หากพบร่างของทั้งสามคนแล้วก็จะพากันเดินทางกลับมาหาครอบครัวที่ขอนแก่นทันที
ขณะที่นางภาวนา มารดาของนายเปา กล่าวว่า ตั้งแต่ลูกชายออกจากบ้านไปทำงานก่อสร้าง ไม่เคยฝันหรือมีสิ่งบอกเหตุว่าเป็นลางร้ายใดๆ เลย เพียงแต่ส่วนตัวจะเข้าวัดทำบุญภาวนาให้คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองลูกชายให้ปลอดภัย จนบ่ายวันที่ 28 มี.ค. ทราบเรื่องแผ่นดินไหว ทำให้ตึกสตง.ถล่ม และลูกชาย ซึ่งทำงานเป็นช่างไฟฟ้าในอาคารหายตัวไปกลางคืน จึงยกมือท่วมหัวบนบานสานกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ลูกชายปลอดภัย ถ้าลูกชายปลอดภัย และกลับมาที่บ้านจะให้บวชแก้บน 7 วัน
และถ้าลูกชายรอด แต่ยังไม่กลับบ้าน จะให้พ่อของน้องเปาบวชแทน จนเวลาผ่านไป 3 วัน ลูกชายจึงโทรศัพท์กลับมาบอกว่า โทรศัพท์วางไว้ที่ทำงานในชั้น27 และพอรู้ว่ารอดชีวิตก็เบลอจำหมายเลขโทรศัพท์ของพ่อแม่ไม่ได้ ยอมรับว่าเมื่อรู้ว่าลูกปลอดภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ตึกถล่มก็ขนลุก และเชื่อว่าน่าจะได้อานิสงส์จากการทำบุญของตัวเองเตรียมแก้บน
Advertisement