ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ กล่าวถึงกรณีที่ "นายพีช" สิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ เขียนจนหมายถึง 2 ลุงป้าคู่กรณีนั้น ส่วนหนึ่งอาจจะรู้สึกผิดและต้องการขอโทษพร้อมกับแสดงความรับผิดชอบก็เป็นได้ แต่ทางกฎหมายการเขียนจดหมายแบบนั้น สามารถใช้ลดหย่อนโทษในคดีได้ เพราะสื่อให้เห็นถึงเจตนาที่จะแสดงความรับผิดชอบ
เรื่องที่เกิดขึ้นตนเองรู้สึกสงสารนายกฯเบี้ยวมาก นายพีช ไม่ควรปล่อยให้พ่อออกมารับหน้าแบบนี้ แต่คืออย่างแรกคนเราต้องรู้จักการให้อภัยการเมตตาธรรมต่อกัน ถ้าเขาสำนึกผิดบาปที่เขาทำ แล้วเขาได้มีการชดใช้เยียวยา เข้ามาขอโทษขอรับผิดชอบทุกอย่าง เราก็ไม่ควรจะไปขัดขวางสิ่งที่เขาจะมาขออภัยกันและกันแบบนั้น ก็ควรจะรับไป แต่ถ้าติดใจตรงไหน ก็ต้องคุยกับเขา ว่ายังติดใจตรงนั้นตรงนี้อยู่ โดยส่วนใหญ่คดีอื่นๆที่เป็นคดีเกี่ยวกับเรื่องของกฎหมายจราจร ที่จะตกลงกันไม่ได้ คือการรับผิดชอบเรื่องจำนวนเงิน ตนไม่ได้ดูถูกใคร แต่ว่าจะเอากี่ล้านก็ควรบอก เมื่อวานตนได้ยินว่าเค้าเตรียมไว้ให้ 6,000,000 หรือไม่ คือถ้าเมื่อวานคุยกันจบเรื่องค่าเสียหาย เขาเตรียมไว้จ่ายอยู่แล้ว เป็นค่าเสียหายซึ่งค่าเสียหายทางแพ่ง
ตอนแรก ตนเห็นแค่พวงมาลัย ก็สัยสัย ว่าทำไมมาแค่ไหว้ขอโทษ ไม่มาเยียวยาอะไร จึงโทรเช็กและทราบเรื่องเตรียมเงินให้ 6 ล้าน
ตนไม่รู้ว่านักกฎหมายคนอื่นมองอย่างไร แต่ก่อนหน้านี้มีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2255 / 2522 เป็นกรณีการขับรถแบบนี้ แล้วมีเรื่องกันมาก่อนขับบนท้องถนน เสร็จปุ๊บมีการเบรกและแซงกันไปประสานงาน รถโดยสารอีกฝั่งตาย ศาลบอกว่าอันนี้คือเจตนาฆ่า เพราะงั้นเราจะเห็นได้ว่าเคสของพีท ในกรณีที่ขับปาดไปปาดมา ก็มันมีเจตนาที่จะทำให้การกระทำความผิดขึ้นแล้ว ตนก็รอดูว่าตำรวจจะตั้งข้อหาแค่ไหน
ส่วนกรณีที่นายพีช เขียนจดหมายนั้น เป็นลดโทษได้ คือถ้าไม่ชดใช้ไม่เยียวยาอะไรเลย ไม่มีเหตุบรรเทาโทษ ถ้าดูในคำที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ก็ไม่ได้ยอมรับผิดและยังสู้ แต่อยากจะฝากเตือนนายพีชว่า ขอโทษแล้วไม่ต้องพูดเยอะ ไม่ต้องอ้าง แล้วก็ไม่ต้องไปกับพ่อ สงสารคนเป็นพ่อ โตแล้ว ต้องรู้จักโตบ้าง ไม่ใช่ไปไหนพึ่งบารมีพ่อ ทุกวันนี้พ่อโดนด่า ตนนี่สงสารนายกเบี้ยว ไปคนเดียวก็พูดได้ ลงสมัครก็ลงได้ ไปลงก็ลงเองได้ ทำไมเวลาจะไปขอโทษจะไปชี้แจงต้องเอาพ่อไปด้วย ถ้าทัวร์จะลง ควรลงที่พีช ไม่ใช่พ่อ
Advertisement