ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ภายใต้การอำนวยการของ นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ร่วมกับ นายพิเชษฐ์ ทองพันธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน นำทีมชุดเฉพาะกิจ “ไตรเทพพิทักษ์” ของกระทรวงแรงงาน ได้รับการสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 200 นาย เข้าปฏิบัติการตรวจสอบสถานประกอบการ ที่มีแรงงานต่างด้าวจำนวนมากคล้าย เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร
ซึ่งด้านในมีการลักลอบเปิดให้บริการอำนวยความสะดวกให้แก่แรงงานต่างด้าวแบบตบตาเจ้าหน้าที่ ทั้งผับบาร์ คาราโอเกะห้องVIP สามารถอัพยาเสพติดได้ เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นพบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่ในเก้าอี้โซฟา ซอกอาคาร ห้องพักต่างๆ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบอาวุธสงคราม พร้อมลูกกระสุนอยู่ภายในอาคารดังกล่าว จึงนำไปตรวจสอบต่อไป และพบผู้ครอบครองยาเสพติดประเภทยาบ้า (เมทแอมเฟตามีน) ซึ่งยอมรับว่าเป็นของตนเองอีกจำนวนมาก
สำหรับปฏิบัติการในครั้งนี้เกิดขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทางทหาร และภาคประชาชนร่วมกันสืบสวนมานานร่วมหลายเดือน ก่อนจะเข้าตรวจค้นจากการตรวจสอบพบว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ดังกล่าวบริหารงานโดยชายชาวเมียนมา มีผู้อาศัยอยู่ภายในประมาณ 150 คน และตรวจพบการกระทำผิดหลายประการ อาทิ การลักลอบเปิดให้มีการเล่นการพนันบางประเภท (สนุกเกอร์) อย่างผิดกฎหมาย เปิดให้เป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติด รวมถึงการครอบครองอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดของกลางหลายรายการ พร้อมควบคุมตัวผู้เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
การปฏิบัติการครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการกวาดล้างเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ในพื้นที่การจัดระเบียบสังคมของ จ.สมุทรสาคร โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และ ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ให้ความสำคัญกับการจัดระเบียบสังคม โดยนำนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทยมาปรับใช้ เพื่อให้ประชาชนได้อยู่ในสังคมที่ความสงบสุขปลอดภัยดำเนินกิจการอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ให้สถานประกอบการต่างๆ เป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ปลอดจากยาเสพติด
นายพิเชษฐ์ เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน โดย รมว.แรงงานได้มีการจัดตั้งชุดไตรเทพพิทักษ์ขึ้นมา เพื่อเป็นช่องทางในการแจ้งเรื่องร้องเรียน ผ่านทาง1506 ต่อ 2 และที่เพจของไตรเทพพิทักษ์ ซึ่งก็มีการ้องเรียนเข้าไปตามช่องทางดังกล่าวว่า พื้นที่ตรงนี้มีการจ้างแรงงานต่างด้าว และเป็นแหล่งมั่วสุมของการจ้างแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นในวันนี้จึงได้มีการบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนประชุม เพื่อวางแนวทางดำเนินการจับกุม โดยส่งสายข่าวเข้ามาแฝงตัวในพื้นที่นี้นานนับเดือนจนนำมาสู่การวางแผน เพื่อเข้าปฏิบัติการในครั้งนี้
ซึ่งก็พบทั้งการเปิดร้านคาราโอเกะ การดื่มน้ำกระท่อม แต่โดยหลักของกระทรวงแรงงานที่เข้าตรวจเป็นหลั กคือการทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต ตามที่สืบทราบว่าภายในแห่งนี้มีทั้งร้านอาหาร มีโต๊ะสนุ๊ก มีการจ้างแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย แต่ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้นกับกลุ่มคนที่เข้ามาทานอาหารในร้านอาหารก็พบว่ามีใบอนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ยังคงเหลือบุคคลที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ภายในแห่งนี้ที่ยังอยู่ระหว่างรอการตรวจสอบอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็ได้มอบหมายให้ ตม.สมุทรสาครเป็นผู้ดำเนินการต่อไปตามกระบวนการทางกฎหมาย
ด้านนายนริศ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า จากการบูรณาการร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการเข้าตรวจสถานที่แห่งนี้ เบื้องต้นพบความผิดคือเปิดดำเนินกิจการในลักษณะที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งก็จะมีการดำเนินการตรวจสอบเอกสารจากทางท้องถิ่นอีกครั้งหนึ่ง ทั้งเรื่องของการขออนุญาตให้ใช้อาคารสถานที่ การเปิดร้านจำหน่ายอาหาร การเปิดให้บริการในลักษณะคล้ายกับผับบาร์คาราโอเกะ ตลอดจนป้ายโฆษณาที่มีอยู่นั้นมีจุดมุ่งหมาย คือการให้บริการกับพี่น้องแรงงานชาวเมียนมา โดยไม่ได้รับอนุญาต และการจำหน่ายสุราเหล่านี้จะต้องดำเนินการตรวจสอบความชัดเจนทุกอย่างโดยละเอียด ส่วนโต๊ะสนุ๊กและอุปกรณ์อื่นๆ ที่อาจจะเข้าข่ายในเรื่องของการพนันนั้นก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มข้นต่อไป
นายนริศ กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ตรงนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาครตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางฝ่ายปกครองได้ร่วมกับตำรวจภูธร ตม.จัดหางานจังหวัดและ กอ.รมน.จังหวัดได้ลงพื้นที่ตรวจอย่างถี่ถ้วน แต่ด้วยลักษณะทำเลของสถานที่แห่งนี้ หากมองจากภายนอกแล้วจะคล้ายกับโกดังให้เช่า มีประตูรั้วรอบขอบชิด ไม่มีลักษณะของการเปิดให้บริการสถานบริการแต่อย่างใดทั้งสิ้น
กระทั่งวันนี้ที่ได้มีปฏิบัติการเข้าตรวจนั้น ก็พบว่ามีการลักลอบกระทำความผิดอย่างชัดเจน จึงต้องถูกดำเนินการตามกฎหมายในทุกๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นสถานที่อาคารผู้ดูแลผู้เช่าชาวพม่า และคนไทยที่ให้เช่าสถานที่ เป็นต้น ขณะที่ในส่วนของยาเสพติดที่ค้นเจอซุกซ่อนอยู่ในห้องคาราโอเกะนั้น ชี้ให้เห็นว่าสถานที่แห่งนี้ นอกจากจะมีการมั่วสุมเสพยาเสพติดแล้ว ยังเชื่อมโยงไปถึงการจำหน่ายด้วยนั้น ก็จะมีคำสั่งปิดสถานที่แห่งนี้ตามกฎหมาย และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีต่อไป
Advertisement