กรณีนายทรงสิทธิ์ โอสถ หรือ เสือ ก่อเหตุใช้มีดแทง น.ส.วราภรณ์ รวมอยู่ หรือ ใหม่ แฟนสาวเสียชีวิต โดยมีนางลำเพย มูลอุ่น แม่ของนายทรงสิทธิ์ ได้นำร่างของนางสาวใหม่ขึ้นท้ายรถกระบะไปส่งที่คลินิก ซึ่งภายหลังครอบครัวผู้ตายติดใจสงสัยว่านางลำเพยทำไมทิ้งร่างนางสาวไว้ที่คลินิก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่าน :
แม่หนุ่มแทงแฟนสาวโต้ลูกซาดิสม์ จับกล้อนผมให้เลิกเที่ยว – พ่อตาฉะไร้สำนึก จี้มอบตัว)
วันที่ 21 ต.ค. 61 ที่วัดพระยาทำวรวิหาร ถนนอรุณอัมรินทร์ แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ บรรดาญาติ และคนสนิทของผู้ตายต่างมาร่วมกันจัดงาน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ตายเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะฌาปนกิจ
ต่อมา เวลา 17.18 น. ผู้ที่มาร่วมงานต่างทยอยขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์ และต่อด้วยครอบครัว พี่น้อง หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่วัดได้เปิดโลงให้ญาติมองน้องใหม่เป็นครั้งสุดท้าย บรรดาญาติต่างร้องไห้ ขณะเดียวกันนายปรีชา ผู้เป็นพ่อขึ้นไปดูหน้าลูกครั้งสุดท้าย ถึงกับเข่าทรุด ญาติและเจ้าหน้าที่ต้องรีบเข้าไปประคอง
นายปรีชา รวมอยู่ หรือ อ้อ อายุ 54 ปี พ่อผู้ตาย กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเรื่อง ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากแม่ผู้ต้องหา หรือครอบครัวของผู้ต้องหา ซึ่งก่อนหน้าที่จะมีปัญหากัน ลูกสาวเคยส่งรูปครอบครัวผู้ต้องหา และตัวผู้ต้องหา ผ่านทางแชตเฟซบุ๊กมาให้ตน และบอกกับตนว่า "พบครอบครัวที่ดีแล้ว" เมื่อตนเห็นหน้าผู้ต้องหา สายตา และท่าทางไม่น่าไว้วางใจ ตนจึงบอกว่าดูให้ดี แต่ลูกสาวตอบกลับมาว่า "อย่าดูคนที่หน้าตา และพ่อเป็นคนสอนหนูเองว่าคนต้องให้โอกาสคน"
นอกจากนี้ ตนอยากจะฝากถึงผู้ต้องหาว่า ชื่อ "เสือ" การที่จะเรียกตัวเองว่าเสือ นั้นต้องรู้ว่าเสือมีเกียรติ แต่กลับฆ่าผู้หญิง และหลบหนี อย่าเรียกตัวเองว่าเสือเลย แบบนี้เค้าเรียกว่า "หน้าตัวเมีย" และอีกอย่างหลังจากเกิดเรื่อง ยอมรับเลยว่าตนไม่มีแรง และท้อแท้ แต่ได้รับกำลังใจจากพี่น้องประชาชน และพี่น้องชาวใต้อย่างล้นหลาม จนตอนนี้ตนลุกขึ้นสู้กับเหตุการณ์นี้ได้แล้ว
ด้าน
นางสาวอลิสา รมย์มนตรี อายุ 36 ปี พี่สาวผู้ตาย กล่าวว่า ตนอยากให้น้องไปสู่สุคติ เพราะต่อไปนี้จะได้ไม่ลำบากและเจ็บปวด ถือว่าสบายแล้ว และสิ่งที่น้องของตนเชื่อว่า ความดีจะเอาชนะใจนายเสือได้นั้น ไม่เป็นความจริง และทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายนี้ขึ้น นอกจากนี้ ตนจะเป็นผู้ดูแลพ่อต่อไปในอนาคตเอง นอกจากนี้ ยากฝากบอกคนร้ายว่า มามอบตัวเถอะ ขอให้มารับผิดชอบในสิ่งที่ทำ และเรื่องคดีความอยากขอความเห็นใจ และขอร้องตำรวจว่า ขอให้เดินเรื่อง และติดตามเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะตนสงสารน้อง
ด้าน
นายบัญชา รวมอยู่ อายุ 33 ปี พี่ชายผู้ตาย กล่าวว่า ต้องการให้แม่ของผู้ต้องหา รีบพาลูกมามอบตัว เพื่อรับผิดในสิ่งที่ทำไว้ และยืนยันว่า ฝ่ายนี้จะไม่ติดต่อไปหาอีกฝ่าย เพราะลูกชายของอีกฝ่ายเป็นผู้กระทำผิด ฝ่ายนั้นจึงต้องเป็นผู้ติดต่อมา เพื่อรับผิดชอบ หรือให้กำลังใจ ไม่ใช่เงียบหายไปแบบนี้ ตามหลักแล้ว ครอบครัวของนายเสือ สมควรมาร่วมฟังสวดอภิธรรมศพตั้งแต่วันแรก หรือแสดงความบริสุทธิ์ใจบ้าง แต่กลับไม่ได้ทำอะไรเลย
ทั้งนี้ ตนจึงอยากจะบอกแม่ผู้ต้องหาว่า ในเมื่อลูกทำผิด อย่ามาปกป้องลูกอีกเลย ทั้งที่น้องตนโดยทำร้ายถึงขั้นเสียชีวิต อยากให้อีกฝ่ายมาขอขมาผู้ตาย เพราะตนต้องการให้ผู้ตายไปอย่างสบายและสงบ โดยครอบครัวของตนจะไม่มีการทำร้ายแน่นอน