มั่นใจ ONE-STOP SERVICE เรื่องยากับเภสัชกรบู๊ทส์ แท็กทีม “หมอตั้ม” ชวนคนไทยมาดูแลสุขภาพดีแบบครบวงจร เผยโรคฮิตคนไทย รู้ทัน-ป้องกัน-ดูแล แบบไกลโรค แนะทิปส์สุขภาพดี Healthy Inside Out ชูจุดเด่น #มั่นใจ ONE-STOP SERVICE เรื่องยากับเภสัชกรบู๊ทส์
บู๊ทส์ ประเทศไทย ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามชั้นนำระดับโลกจัดเวิร์กช็อป “ครบวงจรเรื่องสุขภาพแบบ ONE-STOP SERVICE กับบู๊ทส์” เชิญเฮลท์กูรู หมอตั้ม-นายแพทย์ดิษกุล ประสิทธิ์เรืองสุข หมอหนุ่มสุดหล่อจากรายการ Master Chef Thailand และเจ้าของเพจดูแลสุขภาพชื่อดัง EAT Matters : by หมอตั้ม มาร่วมพูดคุยเคล็ดลับดูแลสุขภาพกับ ภญ.พิพรรษา แววหงษ์ เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญจากบู๊ทส์
โดยมี คุณอรพรรณ พงศ์พานิช Head of Customer Experience บู๊ทส์ รีเทล ประเทศไทย มาแนะนำ New Medicine Service อัปเกรดบริการการให้คำปรึกษาเรื่องยาและเวชภัณฑ์ #มั่นใจ ONE-STOP SERVICE เรื่องยากับเภสัชกรบู๊ทส์ ที่พร้อมดูแลคนไทยให้สุขภาพดีแบบครบวงจร
ผลสำรวจโดยกรมควบคุมโรค* เผยว่า 5 อันดับโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของคนไทยในยุคปัจจุบัน ได้แก่ 1) โรคความดันโลหิตสูง 2) โรคเบาหวาน 3) โรคหลอดเลือดสมอง 4) โรคหลอดเลือดหัวใจ 5) โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ส่วนใหญ่เป็นโรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวันที่ผิดปกติ จนกลายเป็นภัยเงียบและปัญหาเรื้อรัง นอกจากนี้ ยังพบอีกว่าในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา* คนไทยมีการค้นหาเกี่ยวกับโรคหัวใจ อ้วน ไต และซึมเศร้ามากที่สุด สะท้อนได้ว่าในช่วง lockdown คนไทยมีความกังวลใจเรื่องอ้วนและซึมเศร้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากการกักตัวอยู่บ้าน แล้วกินอาหารมากขึ้น กินอาหารไม่เป็นเวลา และมีภาวะเครียดจากโรคภัย เศรษฐกิจ จนเกิดภาวะซึมเศร้าอีกด้วย
ภญ.พิพรรษา แววหงษ์ เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญจากบู๊ทส์ กล่าวว่า “ปัญหาสุขภาพหลัก ๆ ที่คนมาปรึกษากับเภสัชกรบู๊ทส์ ได้แก่ ข้อมูลโรค COVID-19 / คนวัยทำงานกับอาการที่เกี่ยวกับ Office Syndrome หรือ Work From Home Syndrome ความเครียดจากการทำงาน และเรื่องการซื้อยาที่ตัวเองใช้ประจำเพื่อรักษาอาการของโรคเรื้อรัง รวมไปจนถึงปรึกษาเกี่ยวกับยาและเวชภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อให้มีสุขภาพดีห่างไกลจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
จึงควรดูแลตัวเองด้วยการรับประทานอาหารที่มีปริมาณสารอาหารและพลังงานที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน ลดหวาน ลดเค็ม ดูฉลากทางเลือกสุขภาพก่อนเลือกซื้ออาหาร ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 นาทีอย่างต่ำ เพื่อสุขภาพที่ดี สำหรับคนที่เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ให้ทานยาประจำตัวอย่างสม่ำเสมอ ห้ามขาด ห้ามปรับขนาดยาเอง นอกจากนี้ ถึงแม้จะมีการคลายล็อกดาวน์แล้วแต่ควรดูแลสุขภาพและสุขอนามัยอยู่เสมอ
โดยสามารถ เสริมภูมิคุ้มกันช่วง COVID-19 ได้ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และสำหรับคนที่ขาดวิตามินบางตัว อาจรับประทานวิตามินเสริมได้ เช่น วิตามิน C / D / Zinc / Magnesium เป็นต้น โดยควรดูแหล่งผลิตที่ชัดเจน น่าเชื่อถือได้ค่ะ”
หมอตั้ม-นายแพทย์ดิษกุล ประสิทธิ์เรืองสุข กูรูสุขภาพ กล่าวเสริมว่า “แนะนำการดูแลสุขภาพแบบ Healthy Inside Out ป้องกันโรคก่อนเกิด เช่น การคำนวณเเคลอรี่ที่เป็นการดูเเลสุขภาพอย่างยั่งยืน ซึ่งมี 4 ปัจจัยหลัก คือ อายุ เพศ ส่วนสูง เเละกิจกรรมที่แตกต่างกันของแต่ละคน นอกจากนี้ การกินและปรุงอาหารให้เหมาะสมตามโรคที่เราเป็นก็สำคัญ เช่น ความดันก็ต้องลดเค็ม เบาหวานก็แนะนำลดเเป้ง ลดน้ำตาล แต่สำหรับคนที่เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังคือต้องยิ่งต้องระวังการทานเกลือ น้ำมัน น้ำตาล มากยิ่งขึ้น สำหรับทุกวันนี้ที่คนไทยเป็น Office Syndrome หรือ Work From Home Syndrome กันเยอะ ก็จะเน้นเรื่องยืดกล้ามเนื้อเป็นหลัก เเนะนำให้ทำทุก 1-2 ชั่วโมง ควรลุกเดินบ่อย ๆ เพื่อบริหารยืดกล้ามเนื้อไม่ให้เกิดอาการปวด สำหรับคนที่ขาดวิตามินบางตัว ก็อาจจะหาซื้อรับประทานเสริมได้ แต่คนที่เป็นโรคเรื้อรังโดยเฉพาะโรคในกลุ่มไขมัน ควรระวังเวลากินวิตามิน A D E K เพราะถ้ากินเยอะไปก็จะมีการสะสมในร่างกายครับ”
คุณอรพรรณ พงศ์พานิช Head of Customer Experience บู๊ทส์ รีเทล ประเทศไทย เผยว่า “เพื่อดูแลสุขภาพคนไทยแบบครบวงจร บู๊ทส์จึงได้ประกาศปรับ brand value ใหม่สู่การเป็น "Health & Wellness Solutions Provider" อัปเกรดบริการการให้คำปรึกษาเรื่องยาและเวชภัณฑ์ #มั่นใจ ONE-STOP SERVICE เรื่องยากับเภสัชกรบู๊ทส์ ปรึกษาเรื่องสุขภาพฟรี! พร้อมดูแลคุณแบบครบวงจรด้วยสินค้าสุขภาพ ยาและเวชภัณฑ์กว่า 3,000 รายการ ที่ได้มาตรฐาน ครบครันที่สุด ให้ลูกค้าทุกคนอุ่นใจเรื่องยาเพียงปรึกษากับเภสัชกรบู๊ทส์ ที่พร้อมให้คำแนะนำเฉพาะคุณ ทั้งทางหน้าร้านบู๊ทส์ / Boots Mobile App: Talk to Pharmacist / LINE Chat & Shop ปรึกษา-สั่ง-จัดเตรียมสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับสุขภาพ ครบครันทุกช่องทางตอบโจทย์คนไทยยุคใหม่ สะดวกสบายมากขึ้นตามที่ลูกค้าต้องการ ผ่านพาร์ทเนอร์ เช่น Grab และอื่นๆ เพื่อช่วยให้คนไทยเข้าถึงบริการด้านสุขภาพได้อย่างมั่นใจและสะดวกยิ่งขึ้น”