เปิดโฉมหน้าแก๊งมาเฟียถล่มตลาด ภาพชัดชี้เป้าส่งสมุนบุก สุดเนียน ใช้วัดเป็นจุดรวมพล (คลิป)

จากกรณีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนมาก เข้ารุมทำร้ายคนดูแลตลาดนัดรถไฟ เจริญทรัพย์ จังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 61 ที่ผ่านมา จนทำให้ชุดรักษาความปลอดภัยของตลาดได้รับบาดเจ็บ และกลุ่มคนร้ายทั้งหมดหลบหนีไปนั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้บางส่วนแล้วนั้น (อ่าน : จับแล้ว 10 โจ๋ แก๊งรุมตีกลางตลาดรถไฟ สระบุรี ปมขัดแย้งผลประโยชน์) วันที่ 22 ต.ค. 61 นางวิรณัฏฐ์ ณัฏฐมั่งคั่ง ผู้ถือหุ้นใหญ่ของตลาด ร่วมพูดคุยในรายการ “ต่างคนต่างคิด” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.50 น.

โดย นางวิรณัฏฐ์ เปิดเผยในรายการต่างคนต่างคิดว่า หลังจากตนตัดสินใจหยุดจ่ายส่วย (10 ต.ค. 61) เนื่องจากมติในที่ประชุมของผู้ถือหุ้นของตลาด ซึ่งก่อนหน้านี้มีการจ่ายส่วนให้กับอดีตข้าราชการรายรายหนึ่ง ก็มีเหตุการณ์บุกถล่มตลาดเกิดขึ้นวันที่ 18 ต.ค. 61 ตนจึงคิดว่า สาเหตุที่ถูกบุกตลาด ก็เนื่องจากปมปัญหาดังกล่าว ซึ่งตลาดเจริญทรัพย์ เปิดบริการมากว่า 10 ปี และต้องยอมจ่ายส่วยให้กับคนมีสีในพื้นที่ถึง 2 คน คนแรก 50,000 บาท อีกคน 40,000 บาท ทั้งยังมีค่าใช้จ่ายยิบย่อยอีกเป็นจำนวนมาก

โดยการจ่ายส่วนแต่ละครั้งนี้ จะจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นคนหนึ่งซึ่งเป็นพ่อค้าซีดี เพื่อนำไปให้คนมีสีดังกล่าวอีกต่อหนึ่ง โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ก็มีใบปลิวถูกปล่อยในตลาด เขียนข้อความระบุว่าหุ้นส่วนพ่อค้าซีดีคนดังกล่าวจะเข้ามาดูแลจัดการตลาดแทนตนและน้องชาย

แต่จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเห็นว่า มีการนัดแนะกันมาเป็นอย่างดี ทั้งคนในพื้นที่ คนจากต่างจังหวัด มีการเตรียมใส่เสื้อสีเหมือนกัน หรือใส่หน้ากากอนามัยปิดบังตัว มีผู้นำ เข้าบุกตลาดให้พร้อมเพรียงกัน และมีคนชี้เป้า ตนจึงคิดว่าเรื่องนี้อาจไม่เกี่ยวข้องกับหุ้นส่วนพ่อค้าซีดีคนดังกล่าว เนื่องจากฝ่ายนั้นคงไม่สามารถรวมคนได้มากขนาดนี้ และตนมั่นใจว่าเป็นการสั่งการของคนที่ตนเคยจ่ายส่วยอย่างแน่นอน เนื่องจากเคยเกิดเหตุการณ์กับคนอื่นที่ไม่ยอมจ่ายส่วยเช่นกันมาแล้วหลายกรณี ทั้ง ขู่ว่าจะเผาตลาด วางระเบิด ยิงผู้ที่เกี่ยวข้อง

นางวิรณัฏฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ ตนได้เตรียมหลักฐานเป็นสลิปโอนเงินค่าส่วยและค่าต่าง ๆ ไว้แล้ว เพราะการออกมาเปิดเผยตัวครั้ง ตั้งใจจะสู้ไม่ถอย เพื่อแสดงให้สังคมเห็นว่าตนไม่ได้เพ้อเจ้อ เพราะกว่าตนและหุ้นส่วนคนอื่นจะได้เงินมาแต่ละบาท ต้องทำงานลำบาก ตนไม่ได้รวย ทั้งยังต้องกู้หนี้ยืมสินมาตั้งตัว อีกทั้ง ตนคิดว่าสังคมไทยควรจะพัฒนาเรื่องนี้ได้แล้ว เรื่องการเก็บส่วย ควรจะยกเลิกไปได้แล้ว

ทีมข่าวเดินทางย้อนรอยจุดเกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าคนร้าย มารวมตัวกันก่อนที่จะไปก่อเหตุบริเวณตลาดเจริญทรัพย์ ซึ่งทราบข่าวจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า ในวันดังกล่าว กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดได้นัดรวมตัวกันที่วัดแห่งหนึ่งในตำบลตะกุด โดย พระปริญญา อุปสโม ผู้เห็นเหตุการณ์ พาทีมข่าวดูบริเวณที่พบกลุ่มชายฉกรรจ์ ยืนเปลี่ยนเสื้อผ้าและพูดคุยกัน พร้อมกับบอกว่า ทุกคนมารวมตัวกัน และนำรถส่วนตัวมาจอดประมาณ 6 คัน จากนั้นมีบางส่วนที่เปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว ได้ไปช่วยหลวงพ่อกวาดวัด

พระปริญญา อุปสโม เล่าเหตุการณ์ว่า ในวันดังกล่าวเป็นช่วงเวลาประมาณ 08.00น. ได้พบเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์คล้ายกับจะเข้ามาทำกิจกรรมภายในวัด โดยนัดรวมตัวกันบริเวณใต้ต้นไม้ โดยขับรถกระบะ รถเก๋ง และจักรยานยนต์ เข้ามาที่วัด จากนั้นได้มีการเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อสีน้ำเงิน และยอมรับว่าไม่ทราบว่ากลุ่มคนดังกล่าวเปลี่ยนชุดเพื่อจะไปทำอะไร คาดว่าจะมาทำจิตอาสา เนื่องจากมีกลุ่มชายฉกรรจ์ ประมาณ 3-4 คน ได้ไปช่วยหลวงพ่อกวาดใบไม้ใต้ต้นไม่ใหญ่ กระทั่งมาทราบเรื่องภายหลัง ว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวมาเปลี่ยนชุดบริเวณที่วัด และไปก่อเหตุที่ตลาด ขณะเดียวกันในวันที่กลุ่มชายฉกรรจ์มาเปลี่ยนชุด ไม่พบเห็นสิ่งแปลกปลอม เช่น อาวุธหรือท่อเหล็กที่ใช้ก่อเหตุแต่อย่างใด รวมถึงขณะที่กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้ากัน ก็ไม่ทราบว่ามีการพูดคุยหรือวางแผนกัน และจากการสังเกตใบหน้าของทุกคนก็ไม่คุ้นตา จึงคาดว่าอาจเป็นคนนอกพื้นที่ เพียงแค่อาศัยวัดในการเปลี่ยนชุด และรวมพลกันเท่านั้น

จากนั้น ทีมข่าวลงพื้นที่ตลาดเจริญทรัพย์ พบว่าวันนี้เป็นวันที่ตลาดปิด เนื่องจากตลาดจะเปิดให้บริการทุกเช้าและเย็นของวันพฤหัสบดี และในเย็นของวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ ส่วนวันและเวลาอื่น ๆ ตลาดยังคงปิดเงียบ แผงค้าส่วนใหญ่เปิดโล่ง มีเพียงเต็นท์ที่กลางเอาไว้ รวมถึงโครงเหล็กแผงค้าที่ล็อกติดกับแผงเอาไว้ และจะมีเพียงแม่ค้าประจำบางส่วน ที่มาตั้งร้านขายของสดเท่านั้น

นอกจากนี้ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกพฤติกรรมของชายคนหนึ่งที่มีลักษณะต้องสงสัย ว่าเป็นคนสั่งการและสั่งให้ชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวเข้าไปภายในตลาด โดยกล้องสามารถบันทึกภาพชายคนหนึ่งสวมเสื้อสีน้ำเงิน ขับรถจักรยานยนต์ PCX จอดเทียบด้านข้างตลาด และได้ทำสัญลักษณ์มือเพื่อส่งสัญญาณให้กับกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อยู่ตรงข้ามให้เข้าไปก่อเหตุ โดยใช้ลักษณะเป็นสัญลักษณ์มือ โบกให้เข้าบุกตลาดได้ จากนั้นไม่นาน ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์เดินเข้ามาและไปก่อเหตุทันที

ส่วนภาพอีกมุมหนึ่ง ซึ่งเป็นท้ายตลาด สามารถบันทึกเหตุการณ์ ชายสวมเสื้อสีน้ำตาลสวมหมวกกันน็อก ปิดบังใบหน้า ผ่านเข้าไปภายในตลาดเพื่อสังเกตการณ์และไปจอดรอบริเวณสามแยก จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์เดินตามหลังเข้าไปภายในตลาดเพื่อก่อเหตุ

พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 (สส) เดินทางลงพื้นที่มายังตลาดเปิดท้ายทางรถไฟสระบุรี เพื่อดูพื้นที่และจุดเกิดเหตุ โดย พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เผยว่า ทั้งหมดให้ว่าไปตามกระบวนการทางกฎหมาย เพราะกฎหมายต้องเป็นใหญ่ แล้วในขณะนี้จับผู้ต้องหาคนก่อเหตุได้แล้วประมาณ 14 - 15 คน แต่ย้ำว่าเตรียมที่จะขยายผลเพิ่มเติม จะมีอีกกี่คนก็จับทั้งหมดตามพยานหลักฐาน ส่วนปมเชื่อมโยงความขัดแย้งระหว่างส่วนของตลาดนัดเจริญทรัพย์ หรือตลาดนัดรถไฟนั้น ก็จะเรียกหุ้นส่วนทั้งหมดมาสอบปากคำ จะได้ทราบข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็เชื่อว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับปมความขัดแย้งทางธุรกิจ อาจเป็นเพราะเรื่องของศักดิ์ศรีมากกว่า เช่นการเปลี่ยนถ่ายตำแหน่ง หรือคนดูแลไม่เจอกับหุ้นส่วน และสำหรับ ผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้ทั้ง 15 คน มีบางคนอ้างว่าไม่เกี่ยวข้อง บางคนอ้างว่าถูกหลอกมาขับรถ และแจกใบปลิว ทั้งนี้ ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับหลักฐาน หากผิดและเกี่ยวข้องก็ต้องถูกจับ ส่วนพฤติกรรมการแบ่งเสื้อเป็นกลุ่มสีต่าง ๆ นั้น งานสอบสวนกำลังเร่งหาคำตอบ ว่าจะเป็นลักษณะของทีมงาน หรือการรวมตัวกันแบบใด