กรณีน้ำจากอ่างเก็บน้ำกุดตาเพชร จ.ลพบุรี ทะลักท่วมหลายหมู่บ้านในพื้นที่ วัดท่าใหญ่ ต.หนองรี อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี ถูกน้ำซัดบ้านพังทั้งหลัง ทำให้ 4 ชีวิตที่อยู่ในบ้านถูกกระแสน้ำพัดไปด้วย แต่ 2 ชีวิต คือ น้องมังกร หรือ ด.ช.ธีรวัฒ อินธิเกต อายุ 1 ขวบ 9 เดือน และนายจันทาทร์ อินธิเกต อายุ 50 ปี ผู้เป็นปู่ สูญหายไปพร้อมกับสายน้ำ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 28 ก.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานว่ากลุ่มชาวบ้านได้ออกค้นหาเบาะแสของน้องมังกร โดยชาวบ้านแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ออกค้นหาตามเส้นทางกระแสน้ำที่ไหลผ่านจากตัวบ้านไปยังเขตพื้นที่อื่น ๆ ในรัศมีเกือบ 1 กิโลเมตร และอีกกลุ่มออกค้นหาเริ่มต้นจากจุดที่พบร่างของนายจันทาทร์
เวลา 11.30 น. ญาติ ๆ เจอร่างน้องมังกรถูกนำซัดไปติดกับกอหญ้าใกล้กับท่อส่งน้ำใต้ถนน โดยจุดที่เจอร่างเด็กห่างจากจุดที่เจอร่างของผู้เป็นปู่ ประมาณ 10 เมตร แต่อยู่คนละฝั่งถนน อีกทั้งจุดที่เจอร่างเด็กอยู่ห่างจากจุดที่ผู้เป็นย่า และแม่ของเด็ก ลอยไปติดกับต้นไม้จนกระทั่งรอดชีวิต ประมาณ 20 เมตร ภายหลังที่น้ำลดระดับแล้วสังเกตว่ามีทั้งรถกระบะของชาวบ้านลอยน้ำมาติดบริเวณดังกล่าวด้วย และยังมีหลังคาสังกะสี โครงไม้ของบ้านเรือนละแวกใกล้เคียงลอยมาตามน้ำด้วย
ส่วนบรรยากาศช่วงที่นำร่างของเด็กขึ้นมาจากน้ำ และเตรียมที่จะนำขึ้นรถกู้ภัยส่งโรงพยาบาล สังเกตว่าแม่ของเด็กอยู่ในอาการเสียใจอย่างหนัก และร้องไห้ตลอดเวลา ซึ่งหลังจากที่นำร่างของเด็กขึ้นรถกู้ภัยแล้ว แม่น้องมังกรได้ตามขึ้นรถเก๋งเพื่อไปที่โรงพยาบาล และเตรียมที่จะรับร่างของลูกชายมาบำเพ็ญกุศลต่อไป
น.ส.พรรณภัทร เกตทิม อายุ 22 ปี ลูกพี่ลูกน้องของพ่อน้องมังกร และเป็นผู้ที่เจอศพคนแรก เปิดเผยว่า หลังจากที่ชาวบ้าน และญาติพี่น้องพากันระดมการค้นหาเบาะแสของน้องมังกร โดยตนเริ่มต้นค้นหาจากจุดที่พบร่างของปู่น้องมังกร และค้นหาในรัศมีใกล้เคียง กระทั่งพบว่าจุดดังกล่าวมีปากท่อใต้ถนน 2 ท่อ ตนจึงข้ามมาดูอีกฝั่งถนน ซึ่งก็พบลักษณะร่างคน เห็นเพียงเสื้อสีขาว ๆ จึงได้สอบถามย่าของน้องมังกร ทราบว่าวันที่น้องหายไปใส่เสื้อสีขาว ตนจึงได้เข้าไปดูใกล้ ๆ เริ่มเห็นลักษณะคล้ายคนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่น้ำกระเพื่อมจะเห็นเส้นผมลอยในน้ำ จึงยืนยันได้ชัดเจนว่าเป็นร่างของเด็ก ก่อนจะเรียกผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านมาช่วยอุ้มร่างของเด็กขึ้นมาจากน้ำ แต่สภาพศพหลังจากที่เสียชีวิตไป 3 วัน มีลักษณะขึ้นอืดและไม่เหลือเค้าโครงเดิมแล้ว
ที่สำคัญจุดที่พบศพของน้องมังกร อยู่ไม่ไกลจากต้นไม้ที่ย่าและแม่ของน้องมังกรลอยคอไปติดอยู่บนต้นไม้ด้วย โดยจุดดังกล่าวก็อยู่ไม่ไกลกับจุดที่พบร่างของปู่น้องมังกร ส่วนตัวก็เชื่อว่าร่างของน้องมังกรข้ามฝั่งถนนมาอยู่อีกฝั่งหนึ่ง เป็นเพราะว่าร่างกายเด็กมีขนาดเล็ก จึงถูกน้ำผัดมาอีกฝั่งไปติดกิ่งไม้และกอหญ้า
ทีมข่าวจึงได้เดินทางไปที่วัดใหญ่สามัคคี ต.หนองรี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนายจันทาทร์ อินธิเกต อายุ 50 ปี ปู่ของน้องมังกร โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีการตั้งโลงเย็นเอาไว้กลางศาลา และอยู่ระหว่างการประสานโลงเย็นใบใหม่อีก 1 ใบ เพื่อจะนำมาบรรจุร่างของน้องมังกร สำหรับพิธีบำเพ็ญกุศลศพจะมีไปจนถึงวันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.64) ก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจศพ โดยตามธรรมเนียมแล้วจะต้องเผาศพผู้ที่อายุน้อยกว่าก่อน คาดว่าในวันพรุ่งนี้ช่วงบ่ายจะมีการเผาร่างของน้องมังกร จากนั้นจึงจะเผาร่างของผู้เป็นปู่
นางเรไร คำสระ ย่าของน้องมังกร และเป็นผู้รอดชีวิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า ภาพทุกอย่างยังอยู่ในความทรงจำ และตนจดจำเหตุการณ์ได้เป็นอย่างดี เพราะตอนนั้นทุกคนในครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้า มีการเตรียมข้าวของยกขึ้นที่สูง และสามีของตนก็ได้เตรียมแกลลอนเพื่อที่จะให้ใช้สำหรับเกาะตัวลอยน้ำเวลาที่น้ำท่วมขึ้นสูง โดยเป็นช่วงเดียวกันกับที่แกะและวัวลอยน้ำมา สามีจึงได้ออกไปช่วยจับแกะและวัวไม่ให้ลอยน้ำไป ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันกับน้ำเริ่มสูงขึ้น ตนตะโกนเรียกให้สามีกลับมาบ้าน และเป็นช่วงที่น้ำซัดเข้ามากลางบ้าน กระแสน้ำฉีกบ้านออกเป็น 2 ส่วน พร้อมกับเสียงลั่นของตัวบ้าน
"ตอนนั้นสามีได้เข้ามาช่วยอุ้มหลานชายที่นอนอยู่ได้ทัน แต่ฉันและกับแม่ของน้องมังกร ถูกน้ำซัดออกจากตัวบ้านแล้ว ฉันถูกโครงหลังคารถทับ ส่วนแม่ของน้องมันกรลอยไปตามกระแสน้ำ ตอนนั้นเวลาประมาณตี 2 ได้ยินแต่เสียงตะโกน แม่ช่วยด้วย ๆ ฉันก็ได้แต่ตะโกนบอกว่า เจอกิ่งไม้ให้จับเอาไว้ กระทั่งได้ยินเสียงลูกสาวตะโกนอยู่บนต้นไม้ ฉันจึงกระโดดลงจากหลังคาสังกะสีและขึ้นไปอยู่กับลูกสาว แต่ในขณะนั้นไม่มีวี่แววของทั้ง 2 คน" นางเรไร กล่าว
นอกจากนี้ ตนและแม่ของน้องมังกร ยังติดอยู่บนต้นไม้และรอให้เรือมารับออกไป จึงรอดชีวิตมาได้ แต่ในตอนนั้นยังหาร่างของสามีและน้องมังกรไม่เจอ ตนได้บนบานสานกล่าวในขณะที่กำลังติดอยู่บนต้นไม้ว่า หากสามีหรือน้องมังกรรอดชีวิต ตนจะบวชชี แต่สุดท้ายปาฏิหาริย์ก็ไม่มีอยู่จริง
นางเรไร ยังเผยอีกว่า ขณะนี้ที่บ้านของตนไม่เหลือแม้แต่ทรัพย์สิน หรือข้าวของเครื่องใช้ เพราะบ้านทั้งหลังเหลือเพียงแค่เนินดินสีแดง ส่วนสังกะสีหรือตัวโครงบ้านลอยไปตามน้ำ เมื่อเช้าลูกชายได้เอาภาพถ่ายบ้านมาให้ดู ตนถึงกับสะอึก และร้องไห้ออกมา เพราะไม่คิดว่าสภาพบ้านจะเป็นแบบนี้ แต่หลังเกิดเหตุก็ไม่ได้ย้อนกลับไปดูที่บ้าน ลูกชายจึงถ่ายรูปมาให้ดู สิ่งที่เหลืออยู่มีเพียงแค่กระปุกออมสินสีดำ มีเงินอยู่ในนั้นประมาณ 115 บาท ซึ่งก็เป็นทรัพย์สินเพียงอย่างเดียวที่ตนเหลืออยู่ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลังจากนี้จะไปอยู่ที่ไหน เพราะยังคิดอะไรไม่ออก