หลังจากเกิดเหตุเด็กหญิง อายุ 1 ขวบ 6 เดือน ลูกสาวของแม่ค้าขายอาหารของโรงเรียน พลัดตกลงไปในบ่อดักไขมันความลึกประมาณ 2 เมตร เสียชีวิต ขณะวิ่งเล่นในสนามหญ้าหน้าโรงอาหารเมื่อวันที่ 23 ต.ค. 61 (อ่าน :
สลด! แม่หาลูกขวบเศษ 3 ชม. ช็อกเจอเป็นศพพลัดตกบ่อดักไขมัน คาด ฝาพลาสติกแตก)
วันที่ 24 ต.ค. 61
นางสาวดวงแข เพชรเรือนทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เปลี่ยนฝาท่อใหม่ทั้งหมด เนื่องจากมีสภาพชำรุดตามอายุการใช้งานมากว่า 8 ปี สาเหตุเกิดจากอุบัติเหตุ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นสวนหย่อม เด็กนักเรียนจะไม่เดินผ่านสนามหญ้า อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบฝาถังดักไขมันทุกจุด รวมทั้งตะแกรงฝาท่อระบายน้ำที่ชำรุดทุกจุดภายในโรงเรียน ว่าอยู่ในสภาพใช้การได้หรือไม่ หากพบว่าชำรุดก็จะให้เปลี่ยนฝาใหม่
นอกจากนี้ ได้กำชับให้เด็กนักเรียนเดินบนทางเท้า ไม่เดินลัดสนาม ซึ่งนักเรียนก็ปฏิบัติตามมาโดยตลอดเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ส่วนคณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ยินดีที่จะช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่
ด้านพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดกระบี่ ร่วมตรวจสอบเก็บหลักฐานบริเวณที่เด็กหญิงประสบเหตุพลัดตกถังดักไขมัน ขณะวิ่งเล่นอยู่ในสนามหญ้า เพื่อรวบรวมหลักฐานประกอบสำนวนผลการชันสูตรสาเหตุของการเสียชีวิต ซึ่งขณะนี้ญาติได้นำศพกลับไปทำพิธีทางศาสนาที่ จ.สงขลา
ขณะที่
นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นได้ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายการนำศพกลับไปทำพิธีทางศาสนาแล้ว 15,000 บาท ซึ่งหลังจากนี้ จะเรียกประชุมผู้บริหารสถานศึกษา เรื่องมาตรการความปลอดภัยในโรงเรียน รวมทั้งการเยียวยาผู้ที่สูญเสียจากเหตุการณ์
ส่วนความคืบหน้าทางคดี
ร.ต.อ.ไสว ชูแก้ว พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ เปิดเผยว่า ขณะอยู่ระหว่างเตรียมสอบปากคำพ่อและแม่เด็กที่เสียชีวิต ซึ่งต้องรอทำพิธีทางศาสนาให้เสร็จสิ้น จึงจะสามารถเรียกสอบปากคำได้