กรณีเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำ มูลนิธิมูลนิธิกุศลสถานตรัง และหน่วยกู้ชีพสว่างภักดีตรัง ได้รับแจ้งเหตุมีบุคคลจมน้ำสูญหาย ภายในลำคลองลำภูรา บริเวณฝายน้ำล้น เขตรอยต่อระหว่าง หมู่ 1 บ้านกลาง กับหมู่ 7 บ้านชายเขา ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หลังรับแจ้งจึงนำกำลังกว่า 20 นาย พร้อมอุปกรณ์ โดยมีกำลังทหารจากค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ ร.15 พัน 4 อีก 10 นาย เข้าบูรณาการร่วมในการค้นหา
โดยที่เกิดเหตุบริเวณฝ่ายน้ำล้น หรือสปิลเวย์ ที่มีความกว้างประมาณ 15 เมตร เจ้าหน้าที่ได้วางแผนจัดแบ่งกำลังออกเป็น 3 ทีม เพื่อลงปฏิบัติการค้นหา โดยไล่ค้นหาตั้งแต่บริเวณหน้าสปิงเวย์ไปจนถึงบริเวณด้านล่าง กว่า 8 ชั่วโมง แต่ยังคงไม่พบร่าง ก่อนที่จะใช้เวลาค้นหากันอยู่กว่า 8 ชั่วโมง กระทั่งเวลา 22.00 น. เจ้าหน้าที่จึงจะทำการยุติการค้น แต่ปรากฏว่าหนึ่งในเจ้าหน้าที่ เท้าไปสะดุดขาของผู้สูญหาย ก่อนที่จะพบเป็นร่างเสียชีวิตอยู่ละแวกเดียวกับที่จมหาย ทั้งที่ค้นหาอย่างต่อเนื่องในจุดดังกล่าวมาโดยตลอด
นายวิทวัส เพชรเล็ก อายุ 22 ปี ชุดปฏิบัติการค้นหาใต้น้ำ เปิดเผยว่า ทีมค้นหาช่วยกันค้นร่างของผู้สูญหายนานถึง 12 ชม. ซึ่งการค้นหาเต็มไปด้วยความยากลำบาก ต้องฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ปริมาณน้ำเยอะเพราะฝนตก รวมถึงมีการเปิดฝายชะลอน้ำ น้ำจึงแรงกว่าเดิม
เมื่อเวลาผ่านไปนาน ทางนักประดาน้ำได้ช่วยกันวางแผนว่าจะค้นหาอีกรอบ และเตรียมยุติการค้นหา เนื่องจากมืดค่ำแล้วลำบากในการค้นหา ระหว่างที่ยืนวางแผนในน้ำนั้น จู่ ๆ มีขาสัมผัสมาที่ขาตน และเพื่อนนักประดาน้ำอีกคน ตนจึงพากันถามว่าขาใคร ทุกคนก็ปฏิเสธ ปรากฎว่าเป็นศพ จึงช่วยกันพาขึ้นมาจากน้ำ ก่อนหน้านี้ 2-3 ปีที่ผ่านมา เคยมีเหตุจมน้ำที่บริเวณดังกล่าวมาแล้ว 3 ศพ ครั้งนี้เป็นศพที่ 4
ล่าสุดวันที่ 30 ก.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ เป็นประตูระบายน้ำ ภายในลำคลองลำภูรา บริเวณฝายน้ำล้น เขตรอยต่อระหว่าง หมู่ 1 บ้านกลาง กับหมู่ 7 บ้านชายเขา ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง จากที่ทีมข่าวได้มีการสังเกตบริเวณโดยรอบ พบว่าประตูระบายน้ำมีการปล่อยน้ำออกมาค่อนข้างแรง ทำให้เกิดกระแสน้ำวน บริเวณสปิลเวย์หน้าประตูระบายน้ำ
ทีมข่าวสอบถามนายธีรวัฒน์ แป้นปุ้ม อายุ 28 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า ตนเป็นพนักงานร้านอาหาร พบเห็นเด็กวัยรุ่น 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาเล่นน้ำในพื้นที่ เวลาประมาณ 12.00 น. โดยเห็นน้องทั้ง 2 คนลงไปเล่นน้ำ สักพักขึ้นมาสั่งข้าวที่ร้านอาหารตามสั่ง ซึ่งตนเป็นคนเอาข้าวไปเสิร์ฟ เห็นว่านายเจนณรงค์ ผู้เสียชีวิต ไม่มีเงาหัว
ทั้งนี้ตนก็ตะโกนว่า "ทำไมไม่เห็นเงา" แต่ว่าผู้เสียชีวิตไม่เชื่อ คิดว่าตนพูดเล่น แต่ตนยืนยันว่าไม่เห็นจริง ๆ ซึ่งหลังจากนั้น นายคณิน เพื่อนผู้เสียชีวิตก็วิ่งมาบอกว่า นายเจนณรงค์ จมน้ำหายตัวไปช่วยไว้ไม่ทัน
ทีมข่าวเข้าไปพูดคุยกับนายคณิน ทับเที่ยง เพื่อนผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตอนแรกตนลงไปเล่นคนเดียว แต่นายเจนณรงค์ ผู้เสียชีวิต ลงมาเล่นด้วย ตอนประมาณ 13.00 น. กระทั่งเวลา 13.30 น. ขึ้นมากินข้าวด้วยกันบนบก ซึ่งพนักงานในร้านอาหารได้เตือนว่า ไม่เห็นเงาหัวนายเจนณรงค์ ซึ่งตนก็เข้าใจว่าพนักงานพูดหยอกเล่น และไม่แน่ใจว่าเจนณรงค์ได้ยินคำทักหรือไม่
เมื่อลงไปเล่นน้ำรอบ 2 ก็ยังเล่นด้วยกันปกติ โดยเป็นการเล่นวิ่งไล่กันและซ่อนหาในน้ำ แต่น้ำใต้ล่างเป็นน้ำวน ค่อนข้างแรง จากนั้นตกกำลังขึ้นฝั่ง แล้วนายเจนณรงค์ ก็กำลังจะขึ้น แต่ขึ้นมาไม่ไหว เพราะคาดว่าจะหมดแรง ตนจึงตัดสินใจกระโดดน้ำลงไปช่วย ทีแรกก็จับตัวนายเจนณรงค์ไว้ได้แล้ว แต่กระแสน้ำวนดึงตัวของนายเจนณรงค์ หลุดออกไปจากตน ซึ่งตนพบเห็นนายเจนณรงค์ โผล่หัวจากน้ำเป็นครั้งสุดท้าย ตะโกนเรียกชื่อตนว่า “คิงส์” แล้วก็หายไปเลย
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้ได้แต่โทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ และรู้สึกเสียใจอย่างมาก ๆ ที่ไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนเอาไว้ได้ มันคงจะเป็นความรู้สึกแย่ ๆ ที่จะติดตัวตนไปจนตาย