จากกรณีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนมาก เข้ารุมทำร้ายคนดูแลตลาดเปิดท้ายทางรถไฟ จังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 61 จนทำให้ชุดรักษาความปลอดภัยของตลาดได้รับบาดเจ็บ และกลุ่มคนร้ายทั้งหมดหลบหนีนั้น (อ่าน :
คนสนิท ส.ส. เปิดหน้าแจง โต้รับส่วยตลาด ชี้ “ค่าบุญคุณ” คาดชายครึ่งร้อยบุก หุ้นส่วนสั่ง)
วันนี้ 24 ต.ค. 61
นางวิรณัฏฐ์ ณัฏฐ์มั่งคั่ง ผู้ถือหุ้นใหญ่ตลาดนัดรถไฟสระบุรี เปิดเผยว่า กรณี นายเอ (นามสมมติ) หุ้นส่วนกรรมการตลาดชุดเก่า ซึ่งมีตำแหน่งเป็นข้าราชการตำรวจ ออกมายอมรับว่าโกงเงินหุ้นส่วนของตลาดไปนั้น ตนต้องขอขอบคุณที่ออกมายอมรับความจริง และขอให้รับผิดชอบกับเงินที่โกงไปด้วย ส่วนที่ นายเอปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ส่วนตัวไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ แต่สิ่งที่สงสัย คือ ต้องการให้นายตำรวจนายนี้ ทบทวนตัวเองว่ามีความสนิท หรือความสัมพันธ์พิเศษกับใคร ตนอยากถามว่า การยกพวกเข้ามาที่ตลาด ใครเป็นผู้สั่งให้ตำรวจสระบุรีว่า อย่ามาใกล้พื้นที่ตลาด ทั้งที่ตลาดไม่ได้ตั้งอยู่ไกลจากโรงพัก อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวนั้นอาจต้องให้กระบวนการยุติธรรมพิสูจน์ แต่เรื่องหนี้สินกับตลาดที่โกงไป ขอให้เข้ามาเจรจาพูดคุย เพราะอย่างไรก็ต้องชดใช้
ส่วนกรณี นายเทวิณทร์ ศรีพัชรมงคล หรือ เจี๊ยบ คนสนิทนักการเมืองในจังหวัดสระบุรี ออกมาระบุยอมรับว่ารับเงินจากตลาดจำนวน 40,000 บาท ต่อเดือน แต่ปฏิเสธว่า ไม่ใช่การจ่ายส่วย เป็นเพียงเงินทดแทนบุญคุณนั้น ตนยืนยันว่า เงินส่วยก็คือเงินส่วย หากเป็นเงินทดแทนบุญคุณ ก็ควรจะจ่ายเพียงก้อนเดียวเพื่อเป็นการขอบคุณเท่านั้น อย่าใช้คำพูดให้สวยงาม เช่นเดียวกับเวลาน้ำท่วม แต่ใช้คำพูดน้ำรอการระบาย ไม่ต่างกับเงินส่วย แต่เรียกว่าเงินทดแทนบุญคุณ เพราะเมื่อหุ้นส่วนตลาดตกลงไม่จ่ายเงินก้อนนี้ ก็ถูกข่มขู่จากผู้รับส่วยทั้ง 2 คน โดยหาว่าตลาดเนรคุณ ใช้คำด่าทอสารพัด ซึ่งหากไม่เดือดร้อนจากเงินส่วย จะโทรศัพท์มาต่อว่าทำไม ส่วนตัวอยากให้ยอมรับเรื่องดังกล่าว
ที่ผ่านมาตลาดไม่เคยมีปัญหา เฉพาะขณะที่ตนมาร่วมหุ้นได้ราว 3 ปี ก็ไม่เคยเกิดปัญหา แต่หลังรวมตัวกันไม่จ่ายส่วยเพียง 1 สัปดาห์ ก็กลับเกิดเรื่องขึ้นทันที ทั้งนี้ หากผู้รับส่วยที่ถูกพาดพิงไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่เคยรับส่วยจากลูกน้องที่มาเก็บเงินไป ตนก็พร้อมให้เข้ามาชี้แจง แต่ตนมั่นใจว่าตนมีหลักฐานการโอนเงินส่วยทั้งหมด
นางวิรณัฏฐ์ กล่าวต่อว่า จากนี้จะรอดูความยุติธรรมว่าผลทางคดีเป็นอย่างไร ที่ผ่านมายอมรับว่าไม่ได้เข้าประชุมหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา เนื่องจากหุ้นส่วนของตลาดรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และอาจมีการเบี่ยงเบนประเด็น เนื่องจากใช้คำว่า “ประชุมเรื่องหุ้นส่วนในตลาดมีปัญหา” ซึ่งตนยืนยันว่าหุ้นไม่ได้มีปัญหา มีเพียงคนเดียวที่เป็นหุ้นส่วน และรับเงินไปจ่ายส่วย
ทั้งนี้ ตนพร้อมยืนยันว่า เรื่องทั้งหมดคือความจริง ตนไม่ได้หวังจะฮุบตลาด เพียงแค่เข้ามาช่วยน้องชายเท่านั้น ตนไม่ได้มีอาชีพค้าขาย และที่ผ่านมาก็ไม่เคยเข้ามายุ่งในตลาด กระทั่งตลาดมาถึงจุดที่ย่ำแย่ ตนจึงเข้ามาจัดการ ส่วนการจับคนร้าย ตอนนี้ตนเห็นจับได้เพียงไม่กี่คน และผู้ที่ถูกจับมา ก็เป็นใครก็ไม่รู้ ที่หน้าตาไม่ได้ชัดเจนในวงจรปิด แต่ผู้ก่อเหตุที่ใบหน้าชัด กลับยังจับไม่ได้
นางวิรณัฏฐ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตอนนี้รู้สึกไม่ปลอดภัย ชีวิตเหมือนแขวนบนความตาย แต่ยืนยันจะสู้เพื่อความถูกต้อง ขอให้อีกฝ่ายอย่าบิดเบือนและยอมรับความจริง ส่วนวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค. 61) ตนและหุ้นส่วนตลาด จะเดินทางไปประชุมแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ที่ สภ.เมืองสระบุรี เวลา 09.00 น. หลังจากที่หลายครั้งไม่ได้เดินทางไปประชุม เพื่อชี้แจงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น