กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก เจ๊ม้อยv plus โพสต์คลิปสาวรายหนึ่งไปหาหมอที่โรงพยาบาล ก่อนจะร้องเจ็บโอดโอยปวดที่ขา - ปวดศีรษะ และร้องขอยาแก้ปวด พร้อมระบุว่า "#เจ็บจริงหรือเจ็บปลอม! ถ้าเจ็บขนาดนอนลงกับพื้น พยาบาลคงไม่ปล่อยแน่นอนค่ะ ก่อนตรวจก็จะมีการซักประวัติอยู่แล้ว เขาแยกระดับไว้แล้วว่าใครที่อยู่เกณฑ์ไหน"
ล่าสุดวันที่ 3 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ตรวจสอบไปยังต้นคลิปใน TikTok โพสต์คลิปดังกล่าวไว้ 2 คลิป โดยคลิปแรกระบุว่า “สงสารพี่เขาจังครับ ปวดหัวจะระเบิดแล้ว พยาบาลไม่สนใจ แถมด่าพี่เขาอีก” ส่วนคลิป 2 ระบุว่า “สรุปแล้ว แกล้งปวดหัวเพื่อจะลัดคิวคนอื่น จะได้ฉีดยาไว ๆ เอาเป็นว่าแสดงล้วน ๆ ตามคลิป”
ทีมข่าวสืบทราบว่าหญิงดังกล่าวอาศัยอยู่ภายในซอย เพชรเกษม 20 จึงเดินทางลงพื้นที่ ก่อนไปพบกับนายภิชาติ (นามสมมติ) วินจักรยานนนต์รับจ้าง อายุ 50 ปี เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับหญิงคนดังกล่าว ชาวบ้านเรียกกัน ”อีหนูผี” เพราะชอบหลอกชาวบ้าน โดยเฉพาะหลอกนั่งรถโดยสารฟรี อย่างรถแท็กซี่ ช่วงนี้เขาก็ไม่ใส่แมสก์ แท็กซี่ก็จะไม่ค่อยรับ แต่บางคันรับแล้วพอไปส่งปลายทางหญิงคนดังกล่าวก็จะไม่จ่ายเงิน อ้างว่าไม่มีเงิน ส่วนวินเข็ดกันหมด ไม่กล้ารับขึ้นรถมานานกว่า 6 ปีแล้ว
"วันดีคืนดี เดินผ่านบ้านคน จู่ ๆ ก็ล้มลงกับพื้น นอนไปกับพื้นนานกว่า 10 นาที แล้วก็ลุกขึ้นมาเอง ชาวบ้านก็ไม่ทราบสาเหตุ แต่เลือกที่จะไม่เข้าไปยุ่งดีกว่า สำหรับหญิงรายนี้เมื่อก่อนก็ปกติดีนะ แต่ชอบเล่นของ (เสพยาเสพติด) จนตอนนี้ป่วยหนัก ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นอะไรบ้าง" วินจักรยานยนต์ กล่าว
นางประภัทสร (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี สาวที่ปรากฏในคลิป เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตนต้องร้องเสียงดังเพราะว่าปวดมาก ๆ ทั้งขาแล้วก็ศีรษะ จากนั้นพยาบาลพาไปฉีดยาแก้ปวด 2 เข็ม ซึ่งตนร้องขอให้ฉีดเข็มที่ 3 แต่พยาบาลไม่ฉีดให้ และให้ยาแก้ปวดกลับมากิน ตนก็ไม่หายปวดเสียที ทุกครั้งที่เดินออกไปปากซอยก็จะเป็นลมล้มศีรษะกระแทกพื้น หลายครั้งจนมีเลือดคั่งในสมอง และยังคงเป็นแบบนี้ทุกครั้ง บางครั้งล้มไปนอนดากแดดนานมากไม่มีใครช่วย
ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่ได้แกล้งป่วย ไม่มีใครอยากจะทำให้ตัวเองเป็นแบบนั้น และตอนล้มลงนอนกับพื้นตนพยายามตะโกนเรียกพ่อ เพื่อจะให้พ่อช่วยพยุงขึ้น แต่ก็ไม่มีใครเรียกพ่อให้ ตนยืนยันอีกครั้งว่าใครจะไปอยากเป็นแบบนั้น ตนก็อยากให้ลองมาเป็นเหมือนตนบ้าง จะได้รู้ว่าทรมานขนาดไหน สำหรับโรคประจำตัวหลายโรค ได้แก่ หอบหืด ลมชัก หัวใจเต้นผิดจังหวะ และสมองอักเสบ แต่ละเดือนแพทย์จะนัด 6 ครั้ง ตนก็จะเดินออกไปหาหมอตั้งแต่ตี 3 เพื่อไปรอคิว
ส่วนเรื่องเรียกรถแท็กซี่แล้วไม่จ่ายเงินเป็นเรื่องจริง เพราะตนไม่มีเงิน พ่อเกษียณแล้วเงินมีไม่มาก พี่ชายก็ส่งให้เล็กน้อย ตนก็จะบอกแท็กซี่ทุกครั้ง บางคันก็อาสาพาไปส่ง เพราะตนขึ้นเมล์ไม่ได้ กระดูกพุหมดแล้ว ก้าวขาก็ไม่ไหว
น.อ.ประสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 83 ปี พ่อหญิงคนดังกล่าว นำซองยามาให้ดูว่าลูกรักษาอาการทางจิตและกินยาต่อเนื่อง โดยน.อ.ประสิทธิ์ เปิดเผยว่า จริง ๆ แล้วลูกสาวมีโรคประจำตัวหลัก ๆ จำนวน 3 โรค ได้แก่ โรคติดต่อ HIV) วัณโรค และป่วยจิตเวช โดยเมื่อวานนี้ (2 ต.ค.64) จู่ ๆ ลูกบ่นปวดหัว ไม่รู้ปวดจริงหรือไม่ ตนจึงพาไปหาหมอใกล้บ้าน จากนั้นลูกร้องปวด ๆ ก่อนพยาบาลแจ้งว่าให้ตนกลับบ้านก่อน เรื่องที่โรงพยาบาล พยาบาลจะจัดการให้เอง ตนจึงเดินทางกลับ ซึ่งหากรบกวนใครตนก็ขอโทษด้วย
สำหรับลูกสาวมีอาการป่วย เบื้องต้นรักษาตามสิทธิ์ผู้พิการของสถานพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่สถานพยาบาลดังกล่าวอ้างว่าไม่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ จึงส่งตัวมาที่โรงพยาบาลอีกแห่ง พักหลัง ๆ มาแพทย์จ่ายยาไม่ตรงยาเดิม บางครั้งได้รับยาแรง ลูกก็มีอาการไม่ดี
นอกจากนี้ ตนได้พยายามดูแลลูกสาวตลอด แต่บางครั้งเขาก็เดินออกไปข้างนอกเอง ตนจึงอยากชี้แจงว่า ในใจของตนก็อยากให้ลูกได้รับการรักษาที่ถูกจุด จึงพยายามพาไปพบแพทย์ กระทั่งลูกสาวมีอาการป่วยทางจิตเวชหนักมากขึ้น ตอนนี้ก็ห่วงลูกสาวอยากให้ได้รักษาอย่างถูกต้องและถูกวิธี