จากกรณีเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 3 ต.ค. 64 พ.ต.อ.อภิชนัน วัฒนวรางกูล ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ รับแจ้งเหตุมีคนถูกอาวุธมีดแทงเสียชีวิต เหตุเกิดที่บ้าน ม.3 ต.ห้วยใหญ่ อ.บาละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย ร.ต.อ.สุภชาติ วสุสกุลเจริญ รอง สว.สอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ ทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน รวมถึงเจ้าหน้าที่สว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยานำกำลังรีบไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุมีชาวบ้านมุงดูเป็นจำนวนมาก พบร่างนายประชุม วงษ์วัตร อายุ 79 ปี ถูกอาวุธมีดแทงเข้าราวนมซ้าย นอนเสียชีวิตจมกองเลือด มีนางรุ่งพร น้อยฉิม อายุ 50 ปี ลูกสาวอยู่ในอาการร้องไห้อย่างหนัก มีกลุ่มญาติปลอบใจ
ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายติ่ง มั่งมี อายุ 46 ปี เป็นลูกเขยของคนตาย เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ตรวจสอบที่เกิดเหตุยังพบอาวุธมีดพร้า มีคราบเลือดตกอยู่บนพื้น จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายติ่งที่อยู่ในอาการมึนเมาสุราอย่างหนัก ไปสอบสวนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งนายติ่งให้การรับสารภาพ อ้างว่าเป็นการป้องกันตัว
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าคนตายโดยเจตนา เพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป ส่วนศพผู้ตายอยู่ระหว่างประสานกับทางโรงพยาบาลเพื่อนำศพออกมาบำเพ็ญกุศลที่วัดห้วยใหญ่ จากนั้น ช่วงเย็นทางโรงพยาบาลบางละมุงได้ส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลตำรวจ
ล่าสุด วันที่ 4 ต.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุ ม.3 ต.ห้วยใหญ่ อ.บาละมุง จ.ชลบุรี น.ส.ทรงพร โพธิสัตว์ อายุ 68 ปี ภรรยาของผู้ตาย บอกว่า วันเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ เนื่องจากลูกสาว ลูกเขย และผู้ตาย อาศัยอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุกัน 3 คน
ตอนเกิดเหตุช่วงประมาณ 1 ทุ่มกว่า ๆ ลูกสาววิ่งมากอด แล้วก็บอกว่าสามีแทงพ่อตายอยู่ในบ้าน ตนเองจึงเดินไปดูในที่เกิดเหตุ ปรากฏว่าไปเจอลูกเขยเดินถือมีดอยู่ภายในบ้าน ส่วนผู้ตายนอนจมกองเลือดอยู่ในบ้าน ขณะนั้นยอมรับว่าไม่กล้าเข้าไปในบ้านเพราะว่ากลัวลูกเขยจะทำร้าย หลังจากนั้น ก็ไม่รู้ใครโทรไปแจ้งตำรวจให้มาจับตัวลูกเขย
ที่ผ่านมาลูกเขยคนนี้จะทะเลาะกับลูกสาวตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ทะเลาะกันทีไร ผู้ตายที่เข้าไปห้ามทุกครั้ง เพราะว่าผู้ตายรักลูกสาวคนนี้มาก และผู้ตายก็ไม่เคยมีเรื่องกับลูกเขยมาก่อน
นางแจง (นามสมมติ) หลานสาวผู้ตาย บอกว่า ตอนนี้นางรุ่งพรอยู่ในอาการเสียสติ พูดจาไม่รู้เรื่อง เพราะคนที่ตายคือพ่อ ส่วนคนก่อเหตุก็คือสามี ที่ผ่านมารู้แต่ว่าตัวนายติ่งผู้ก่อเหตุไม่ทำการทำงาน วัน ๆ กินแต่เหล้า นาน ๆ จะออกไปทำงานรับจ้างทั่วไป เวลาไม่มีเงิน ตัวนายติ่งเองเป็นคน จ.บุรีรัมย์ ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ประมาณ 10 กว่าปีแล้ว
ส่วนนายประชุม ผู้ตาย ไม่เคยเห็นว่าเคยมีเรื่องกับนายติ่งเลยสักครั้ง แต่จะมีส่วนเกี่ยวข้องเวลาลูกเขยกับลูกสาวทะเลาะกันก็ไปห้ามปราม เมื่อคืนมาเห็นสภาพนายประชุมในที่เกิดเหตุ ยอมรับว่ารับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่านายติ่งจะกล้าทำร้ายนายประชุม ถึงขนาดนี้
ด้านนายวสันต์ เสมามิ่ง เจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เข้าไปช่วยชีวิตผู้ตาย บอกว่า เมื่อวานนี้ได้รับแจ้งเหตุตอนประมาณ 2 ทุ่ม ตนก็ได้ไปในที่เกิดเหตุ พอไปถึงเห็นสภาพนายประชุมนอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่ภายในบ้าน จับนายประชุมหงายหน้าขึ้น และทำการ CPR ช่วยชีวิต แต่นายประชุมมีบาดถูกแทงเป็นแผลฉกรรจ์ที่ชายโครงด้านซ้าย พอปั๊มหัวใจเลือดก็ไหลไม่หยุด ชีพจรก็ไม่มีแล้ว และนายประชุมก็ได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ส่วนผู้ก่อเหตุก็อยู่ในอาการมึนเมาพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง เอาแต่พูดว่าไม่ได้ตั้งใจแทงนายประชุม จริง ๆ จะแทงนางรุ่งนภา แต่นายประชุมเดินเข้ามาขวาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้ก่อเหตุไปสอบสวนต่อที่โรงพัก
สำหรับนางรุ่งนภา ก็พูดจาไม่รู้เรื่องเช่นเดียวกัน แต่ไม่มีอาการมึนเมา ขณะนั้นคาดว่าอยู่ในระหว่างยังตกใจอยู่ ญาติก็ปลอบใจและพาตัวนางรุ่งนภาไปให้ตำรวจสอบสวนที่โรงพัก