เมื่อวันที่ 5 ต.ค.64 เวลา 12.30 น. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หมู่ 2 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายวีรชัย และ น.ส.นาตยา คู่สามีภรรยา ได้พาน้องเพลง ลูกสาววัย 2 ขวบ ที่บาดเจ็บจากการถูกสุนัขกัดที่เบ้าตาซ้าย เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ หลังเจ้าของสุนัขไม่รับผิดชอบ และเกรงว่าสุนัขตัวดังกล่าวจะเป็นอันตรายต่อเด็กคนอื่น ๆ เนื่องจากที่ผ่านมามีเด็กหลายคนเคยถูกกัดมาแล้ว
นายวีรชัย กล่าวว่า ตนทำงานอยู่โรงปูนแห่งหนึ่งย่านบางเขน ครอบครัวจึงอาศัยอยู่แคมป์คนงานใกล้โรงปูน เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 24 ก.ย.64 ที่ผ่านมา ภรรยาของตนไปทำงาน ส่วนตนเลิกงานกลับมานั่งเล่นกับลูกอยู่ในห้องพัก ก่อนจะลุกไปอาบน้ำ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงลูกร้อง จึงรีบออกมาดูก็พบว่าที่บริเวณหน้าห้องพัก “ไอ้ตูบ” สุนัขพันทางกำลังกัดเข้าที่เบ้าตาซ้ายของน้องเพลง ตนจึงรีบวิ่งเข้าไปไล่สุนัขและอุ้มลูก
จากนั้นตนได้พาลูกไปโรงพยาบาล แพทย์ระบุอาการว่า ท่อน้ำตาและเปลือกตาซ้ายฉีกขาด ก่อนจะทำการผ่าตัดเย็บเปลือกตา และใส่ท่อน้ำตาซิลิโคลน ทำให้น้องเพลง ต้องนอนอยู่ที่โรงพยาบาล จำนวน 3 คืน ขณะที่ภูมิลำเนาตนอยู่ที่จ.สุรินทร์ ลูกจึงมีสิทธิบัตรทองอยู่ที่นั่น แต่ตอนนี้โรงพยาบาลช่วยเหลือรักษาโดยใช้สิทธิบัตรทองกรณีฉุกเฉิน
“หลังเกิดเหตุน้องชายเจ้าของหมา ซึ่งอยู่แคมป์เดียวกัน ได้มาเยี่ยมน้องเพลงแล้วให้เงิน 500 บาท เป็นค่าทำขวัญน้องเพลง แต่ก็ไม่ได้พูดเรื่องที่จะรับผิดชอบอะไร กระทั่งเช้าวันที่ 4 ต.ค.64 เจ้าของไอ้ตูบได้มาหาที่แคมป์แล้วบอกว่า เขาจะไม่รับผิดชอบอะไร เพราะเขาปล่อยทิ้งไอ้ตูบไปนาน 5-6 ปี แล้ว มันจะไปกัดใครเขาก็ไม่เกี่ยว ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงต้องมาขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ” นายวีรชัย กล่าว
นอกจากนี้ นางปวีณา ได้ประสาน พ.ต.อ.อรรถพล มีเสียง ผกก.สน.บางเขน และน.ส.พิสมัย เรืองศิลป์ ผอ.เขตบางเขน เพื่อให้ศูนย์พักพิงสุนัขจรจัดกรุงเทพมหานคร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่แคมป์คนงานโรงปูนย่านบางเขน เพื่อรับตัวสุนัขไปอยู่ในที่เหมาะสม เพื่อความปลอดภัยของคนงาน และลูกหลานที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว
แม่น้องเพลง กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนสงสารลูกสาวจับใจ เพราะอายุเพียงแค่ 2 ขวบ ต้องมาเจอกับเหตุการณ์ แบบนี้ กลัวว่าลูกสาวจะตาบอด เพราะเปลือกตาตกลงมาปิดม่านตา ตาอาจจะไม่ได้รับแสง อาจมองไม่เห็นได้ในอนาคต แล้วก็ไม่อยากให้ลูกสาวเสียโฉม และตอนนี้เด็กอยู่ในอาการผวา ระแวงเวลาที่เจอสุนัข ส่วนตนและ สามี ก็เครียดและอยู่ในภาวะวิตกกังวล ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าของสุนัขยังไม่รับผิดชอบ ไม่มาดูแล และกลับบอกว่าไม่ใช่สุนัขของเขา แต่เป็นสุนัขจรจัด จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดูแล และไม่อยากให้เด็กคนอื่น ๆ ถูกสุนัขกัดเหมือนลูกตนอีก
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่แคมป์โรงโม่ปูนย่านบางเขน กรุงเทพมหานคร เมื่อมาถึงก็พบไอ้ตูบ หมาพันธุ์ทาง สีน้ำตาลแดง อายุประมาณ 6-7 ปี ดำลังตั้งท่ายืนเห่าไล่ใส่ทีมข่าว คนงานในแคมป์ บอกว่าอยู่แคมป์นี้มากกว่า 10 ปีแล้ว และเจ้าตูบตัวนี้อยู่ที่นี่ได้ประมาณ 4-5 ปี โดยมีเจ้าของเป็นคนขับรถโม่ปูน แต่ตอนนี้เจ้าของย้ายไปทำงานที่แคมป์อื่น ถ้าพูดถึงนิสัยของเจ้าตูบ ก็จะมีนิสัยดุร้ายกับเด็กเล็ก เคยกัดเด็กเล็ก ๆ มาแล้ว น้องเพลงเป็นคนที่ 4 แต่กับผู้ใหญ่มักจะกลัวไม่กล้ากัด
คนงานภายในแคมป์ ยังพาทีมข่าวไปดูจุดเกิดเหตุเป็นหน้าบ้านของน้องเพลง ทราบว่าตอนนั้นน้องเพลง กำลังนั่งเล่นอยู่ ช่วงเวลาตอนเย็น ๆ ซึ่งพ่อน้องเพลง เข้าไปอาบน้ำพอดี แล้วก็โดนเจ้าตูบกัดที่บริเวณดวงตา ก่อนจะรีบพากันนำส่งโรงพยาบาล
ทีมข่าวลงพื้นที่ โรงโม่ปูน ย่านรามอินทรา ที่ครอบครัวของน้องเพลง ให้ข้อมูลว่าเจ้าของสุนัขที่กัดลูกสาว ทำงานขับรถโม่ปูน และอาศัยอยู่ที่แคมป์แห่งนี้ แต่เมื่อเดินทางมาถึงที่โรงโม่ปูน ไม่พบเจ้าของสุนัข แต่ได้พบกับภรรยาของเจ้าของสุนัข
นางอรัญใย กล่าวชี้แจงเรื่องว่า ตนและครอบครัวไม่ใช่เจ้าของสุนัข แค่เคยอยู่ในโรงโม่ปูนย่านบางเขน ตั้งแต่ปี 2554 จากนั้นปี 2555 ได้ย้ายมาที่โรงโม่ปูนย่านรามอินทรา และทราบว่ามีคนในแคมป์ให้ข้าวให้อาหาร เพราะฉะนั้นเจ้าตูบเป็นสุนัขไม่มีเจ้าของ อยู่ในแคมป์โรงโม่ปูนมานาน หลายคนก็ให้ข้าวให้น้ำ จะให้ครอบครัวของตนรับผิดชอบ ตนคิดว่าไม่ใช่ เพราะลูกของตนก็เคยถูกหมาในแคมป์คนงานกัดเช่นกัน แต่ไม่ใช่เจ้าตูบตัวนี้ ตนก็ไม่เคยไปเรียกร้องเอาเรื่องกับใคร เพราะถือว่าตนดูแลลูกได้ไม่ดีพอ