คดีพลิก! ผัวฉุดเมียกลางห้างที่แท้ฝ่ายหญิงเต็มใจไป เขยฉะแม่ยายทำวุ่น (คลิป)

กรณีชมรมทนายความจิตอาสา ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี รับเรื่องร้องทุกข์จาก น.ส.บังอร ทับอ่ำอายุ 38 ปี อาชีพค้าขาย แจ้งว่าน.ส.จิราภรณ์ เหมือนแย้ม หรือ อาย อายุ 21 ปี ถูกคนในครอบครัวลักพาตัวไป โดยมีนายเกียรติคุณ ต้นยางหรือ ทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา รับเรื่องให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น เพื่อติดตามสาวคนดังกล่าว

เบื้องต้นทราบข้อมูลว่า ขณะที่น.ส.จิราภรณ์ กำลังขายน้ำส้มอยู่ในห้างฯ แห่งหนึ่ง อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ถูกนายเต้ อายุ 22 ปี แฟนเก่า ที่เลิกรากันมานานกว่า 10 เดือน ลักพาตัวไปเมื่อวันที่ 4 ต.ค.64 เวลา 10.30 น. จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้

ทั้งนี้ ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพวันที่ 4 ต.ค.64 เวลาประมาณ 10.30 น. พบว่า น.ส.จิราภรณ์ สวมเสื้อสีขาว ส่วนนายเต้ สวมเสื้อคลุมสีดำ ถือหมวกกันน็อก 1 ใบ เดินพูดคุยกัน หลังจากนั้นฝ่ายหญิงพยายามเดินหนี แต่นายเต้ วิ่งตามก่อนกระชากคอเสื้อแล้วล็อกคอเดินออกจากห้างฯ แล้วหลบหนีหายไป

ล่าสุดวันที่ 6 ต.ค.64 นายเต้และน.ส.จิราภรณ์ เดินทางมาถึงที่โรงพัก โดยมีนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา เดินทางมาด้วย ก่อนจะนำตัวไปพูดคุยที่ห้องสอบสวน เพื่อซักถามว่าที่เดินมาโรงพัก ไม่มีใครบังคับใช่หรือไม่ แล้วจะกลับไปคบหาอยู่กินกับนายเต้ จริง ๆ ใช่หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ ผู้เป็นแม่ได้ร้องเรียนว่าลูกสาวถูกลักพาตัว

น.ส.จิราภรณ์ กล่าว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นการลักพาตัวแต่อย่างใด ตนยืนยันว่าจะอยู่กับนายเต้ อยากจะให้โอกาสนายเต้ หลังจากนั้นทนายโป้ง สอบถามอีกว่า ถ้ากลับไปอยู่กับนายเต้ แล้วถูกทำร้ายจะทำอย่างไร เพราะไม่ต้องการให้ทั้ง 2 คนแตกแยกกัน น.ส.จิราภรณ์ ก็ยืนยันคำเดิมว่า "หนูอยากให้โอกาสเต้ และหนูอยากให้ลูกหนูอยู่กันเป็นครอบครัว ที่หนูทำไปก็รู้ว่ามันผิด หนูจะให้โอกาสเต้ เป็นครั้งสุดท้าย"

จากนั้น ทนายโป้ง ก็ได้ให้นายเต้ เข้ามาพูดคุยด้วย โดยมีน.ส.จิราภรณ์ และพี่สาวร่วมพูดคุย โดยทนายโป้ง สอบถามกับนายเต้ว่า หากวันนี้เคลียร์กันลงตัว จะทำร้ายฝ่ายหญิงอีกหรือไม่ แล้วสิ่งที่ทำลงไปจะขอโทษกับพ่อแม่เขาอย่างไร

นายเต้ กล่าวว่า สิ่งที่ตนทำลงไป ตนทำไปเพราะรักภรรยาและลูก ตนต้องการที่จะอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว ส่วนประเด็นที่แม่ยายให้ข่าวไปว่า ตนทำร้ายตบตีฝ่ายหญิง ตนยอมรับว่าทำจริง แต่ตนตนสงสัยว่าทำไมแม่ยายถึงต้องไปแจ้งความและร้องเรียนกับทนายให้เป็นข่าวใหญ่โต เพราะที่ตนเดินทางมาในวันนี้ มันเสียเวลา เอาเวลาที่มานั่งอยู่ที่โรงพัก ไปทำมาหากินเพื่อหาเงินมาเลี้ยงลูกจะดีกว่า ตนเป็นลูกผู้ชายพอ ทำอะไรผิดก็ยอมรับผิด

หลังจากนายเต้ พูดคุยกับทนายโป้งเสร็จแล้ว ทนายโป้ง ก็ให้น.ส.จิราภรณ์ พูดคุยกับ น.ส.บังอร ผู้เป็นแม่ โดยน.ส.บังอร พยายามจะสอบถามลูกสาวว่า "คิดดี ๆ นะว่าเรื่องราวที่ผ่านมามันเป็นยังไง เต้มันทำร้ายอายยังไงบ้าง ไหนรับปากกับแม่แล้วไงว่าจะไม่กลับไปอยู่กับเต้ เพราะกลัวเต้ทำร้ายจนถึงชีวิต แล้ววันเกิดเหตุ ทำไมไม่บอกกับแม่ตรง ๆ ในกล้องวงจรปิด แม่ก็เห็นว่าเต้มันกระชากหัวอายออกไป ทำไมอายถึงบอกว่าไม่ได้เป็นการลักพาตัว แม่ยืนยันนะว่าจะเอาเรื่องเต้ให้ถึงที่สุด"

ขณะที่น.ส.จิราภรณ์ กลับตอบว่า "วันเกิดเหตุเต้ มันไม่ได้กระชากหัวหนู มันแค่ดึงออกไปคุยข้างนอกเฉย ๆ แม่ เพราะคนในห้างมันเยอะ"

นายเต้และน้องอาย คบหากันตั้งแต่สมัยเรียน ผูกข้อไม้ข้อมืออยู่กินกันอย่างถูกต้อง 2 ปีแล้ว ปัจจุบันมีบุตรชาย 2 คน ชื่อว่า ด.ช.คอปเตอร์ อายุ 1 ปี 7 เดือน และด.ช.อาตอม อายุ 8 เดือน กระทั่งเลิกลากันไปตั้งแต่ เดือนธ.ค.63 และกลับมาเริ่มพูดคุยคืนดีกันเมื่อต้นเดือนก.ย.64

นายพีรดนย์ แสงจรัส อายุ 22 ปี และน.ส.จิราภรณ์ เหมือนแย้ม อายุ 21 ปี เปิดใจว่า ตนทั้ง 2 คนไม่ได้มีการลักพาตัวกันไปอย่างที่ น.ส.บังอร ไปร้องเรียนกับทนายความ ตามกล้องวงจรปิดที่ปรากฏ แต่ตนพากันออกมาจากห้างฯ โดยความสมัครใจ ไม่ได้มีการทำร้ายหรือตบตีอะไรกัน

"ในวันนี้ที่ผมพาน้องอาย มาที่โรงพัก ก็เพื่อจะมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ว่าไม่ได้ลักพาตัวน้องอาย ที่หายตัวไปทั้งคู่ ไปเช่าโรงแรมนอนกันในตัวเมืองนนทบุรี เพราะกลัวว่าแม่ของน้องอาย จะมาตามที่บ้าน ที่ผ่านมายอมรับว่าทำร้ายน้องอายจริง แต่ผมทะเลาะกันตามภาษาผัวเมีย ผมมีลูกด้วยกัน ผมก็อยากจะอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว ยอมรับว่าผิดที่พาน้องอายไปโดยไม่บอกแม่ของน้องอาย อย่างไรก็ตาม ผมก็ต้องขอโทษพ่อแม่ของน้องอายด้วย" นายพีรดนย์ กล่าว

"หนูเต็มใจไปกับเต้ แอบคุยกับเต้เพื่อจะคืนดีกันได้ประมาณเดือนกว่า ๆ แล้ว เพราะว่าอยากจะมีชีวิตอยู่กับเต้เป็นครอบครัว แต่กลัวแม่ไม่เข้าใจ ก็เลยไม่ได้บอกแม่ สิ่งที่ทำลงไปก็ขอโทษพ่อและแม่ผ่ด้วย และขอยืนยันไม่เอาเรื่อง เพราะหนูเต็มใจไปกับเต้" น.ส.จิราภรณ์ กล่าว