จากกรณี วันที่ 4 ต.ค. 64 เวลา 19.00 น. บริเวณถนนสายบ้านสะแม๊ะ-บ้านโกน อ.เมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ รถยนต์อีซุซุ ดีแม็ก แค๊ป สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน กษ 2737 กรุงเทพมหานคร มีนายราเมศ มาด้วง อายุ 47 ปี ขับมาชนเข้ารถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีแดงขาว หมายเลขทเบียน คกก สุรินทร์ 9080 มีนายสมปอง ลุนลา อายุ 29 ปี เป็นคนขับรถ มากับนางสาว ยุวดี พลเยี่ยม อายุ 28 ปี ภรรยา เสียชีวิตทั้งคู่ ส่วนลูกชายอายุ 1 ขวบ และลูกสาวอายุ 3 ขวบ อาการสาหัส
โดยขณะเกิดเหตุคนขับรถกระบะได้พยายามขับรถหลบหนี ด้านใต้ท้องรถกระบะมีศพติดอยู่กับจักรยานยนต์ ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกไว้ได้อย่างชัดเจน บปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายสูงถึง 125 มิลลิกรัม เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
วันที่ 6 ต.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์เดินทางไปยังบ้านจุดเกิดเหตุ ภายในพื้นที่ถนนสายบ้านสะแม๊ะ-บ้านโกน อ.เมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ
ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของนายสมปอง ผู้เสียชีวิต ต.ตาโกน อ.เมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าของคนในครอบครัว และเพื่อนบ้านที่ต่างมาร่วมงานฟังสวดอภิธรรมศพในช่วงเย็น
นางวันทนา รุนรา อายุ 33 ปี พี่สาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิต 2 ราย คือนายสมปอง ลุนลา หรือ ปอง อายุ 29 ปี สภาพศพ ร่างกายเป็นผลถลอก เนื่องจากศพถูกลากไปกับพื้นถนน จนลำไส้ไหลออกมา ส่วนนางสาวยุวดี พลเยี่ยม หรือ เจี๊ยบ อายุ 28 ปี ภรรยา สภาพศพคอหัก เสียชีวิตในเวลาต่อมาที่ รพ.เมืองจันทร์ ศพถูกกระบะชนร่างกระเด็น ไปกระแทกเสาข้างทาง
ผู้บาดเจ็บ 2 รายคือ ด.ช.นีโอ อายุ 1 ขวบ สภาพบาดแผลปอดฉีก กระซี่โครงด้านหลังหลุด เลือดคั่งในสมอง ส่วน ด.ญ.เนเน่ 3 ขวบ สภาพบาดแผลซี่โครงลำตัวหัก 4 ซี่ เลือดคั่งในปอด แผลถลอกตามร่างกาย ต้องพักรักษาอาการอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
เหตุเริ่มจากวันที่ 4 ต.ค.64 ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. น้องชายของตนโทรศัพท์มาที่บ้านว่าหลังเลิกงาน น้องชาย ภรรยาน้องชาย และหลานอีก 2 คน จะขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านของภรรยาน้องชาย เพื่อมานอนที่บ้านของแม่ ที่บ้านตาด หมู่ที่ 6 ต.ตาโกน อ.เมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ
กระทั่งช่วง 19.00 น. ทั้ง 4 คน ก็ได้ขี่รถซ้อนกันออกมาตามทาง จนมาถึงภายในพื้นที่ถนนสายบ้านสะแม๊ะ-บ้านโกน อ.เมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ ถูกนายราเมศ ผู้ก่อเหตุ คนขับรถยนต์ชนด้วยความเร็ว จนร่างของภรรยาน้องชาย และหลาน 2 คน กระเด็นออกหลุดออกจากรถ ส่วนร่างของน้องชายกับรถที่ขับมาถูกคนขับกระบะขับทับอยู่ใต้ท้องรถลากไปไกลกว่า 200 เมตร โดยที่ไม่ยอมลงมาดู หรือให้การช่วยเหลือ แถมพยายามหลบหนี
หลังจากนั้นคนขับ ได้แอบจอดรถบริเวณพิ้นที่นอกหมู่บ้าน เพื่อดึงซากรถจักรยานยนต์ออกจากใต้ท้องรถ ก่อนจะพยายามขับหลบหนีต่อ แต่โชคร้ายระหว่างที่รถยนต์ขับผ่านช่วง ศาลปู่ตาบ้านตาโกน พื้นที่ ต.ตาโกน อ.เมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ ได้เพียง 50 เมตร รถของผู้ก่อเหตุกลับเสียหลัก ตกลงไปในคลองข้างทางที่เป็นทุ่งนา ทำให้พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์และขับรถติดตามจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการจับกุมผู้ก่อเหตุดังกล่าวไปดำเนินคดี
ด้านนายแก้ว ลุนลา อายุ 56 ปี พ่อนายสมปอ งผู้เสียชีวิต ระบายความในใจสั้น ๆ ทั้งน้ำตาว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นขณะนี้ตนในฐานะผู้เป็นพ่อยังคงทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน อยากวอนขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีเอาผิดผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด
ทีมข่าวเดินทางไปยังงานศพของ น.ส.ยุวดี ภายในพื้นที่ บ้านเขวา ต.ตาโกน อ.เมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าของคนในครอบครัวและเพื่อนบ้านที่ต่างมาร่วมฟังสวดอภิธรรมศพ
นางสาวพลเยี่ยม อายุ 50 ปี แม่ของ น.ส.ยุวดี ผู้เสียชีวิต เผยว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น ตนอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีเอาผิดผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด ฐานเมาแล้วขับ ทำให้ลูกสาวของตนรวมไปถึงหลานชายและหลานสาว ต้องมาได้รับบาดเจ็บสาหัสกับการกระทำของผู้ก่อเหตุในครั้งนี้
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยืนยันได้ว่ามีความต้องการอยากจะให้ทางผู้ที่ก่อเหตุมาชดใช้รับผิดชอบเยียวยาให้กับทางครอบครัวเนื่องจากหลานของตนทั้ง 2 คนต้องมาได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งต้องมากำพร้าทั้งพ่อและแม่ไปพร้อมกัน
น.ส.นัชนีย์ บุตรดาศรี อายุ 20 ปี ชาวบ้านจุดเกิดเหตุที่เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า เหตุเกิดวันที่ 4 ต.ค.64 เวลาประมาณ 19.00 น. ขณะนั้นครอบครัวของผู้เสียชีวิต นายสมปอง ลุนลา อายุ 29 ปี, นางสาว ยุวดี พลเยี่ยม อายุ 28 ปี ภรรยา, ลูกชาย อายุ 1 ขวบ, ลูกสาว อายุ 3 ขวบ รวม 4 คน ได้ขี่รถซ้อนท้ายกันมาตามถนน
เมื่อมาถึงช่วง 4 แยก ภายในหมู่บ้าน นายราเมศ คนขับรถยนต์กระบะ ที่ขับตามหลังรถของผู้เสียชีวิตมาด้วยความเร็ว ก็ได้พุ่งชนรถของผู้เสียชีวิตอย่างแรง เสียงดัง ซึ่งหลังจากผู้ก่อเหตุขับรถชน เจ้าตัวก็ไม่คิดจะลงมาดูเลยสักนิด อีกทั้งยังคงลากรถของผู้เสียชีวิตและร่างของผู้เสียชีวิตที่ติดไปกับใต้ท้องรถ จนเกิดประกายไฟลุกตามคลิปที่ปรากฎ และพยายามจะขับหลบหนี ซึ่งระยะทางจากจุดที่ชนลากศพมาตามถนนระยะทางประมาณ 200 เมตร หลังจากนั้นคนขับ ได้แอบจอดรถบริเวณพิ้นที่นอกหมู่บ้าน เพื่อดึงซากรถจักรยานยนต์ออกจากใต้ท้องรถ ก่อนจะพยายามขับหลบหนีต่อ แต่รถของผู้ก่อเหตุกลับเสียหลัก ตกลงไปในคลองข้างทางจึงถูกจับตัวได้
ด้านนางหนูลักษณ์ มะโนรัตน์ อายุ 69 ปี แม่ยายของผู้ก่อเหตุ เผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานะครอบครัวของผู้ก่อเหตุ ตนก็รู้สึกเสียใจ อยากจะขอโทษทางครอบครัวผู้เสียชีวิตกับการสูญเสียในครั้งนี้ จากการสอบถามลูกเขยทราบว่าขณะเกิดเหตุลูกเขยยอมรับว่ามีการดื่มสุราจริง แต่ไม่ได้มีอาการมึนเมาจนกระทั่งไม่รู้เรื่อง แต่ที่ประสบเหตุดังกล่าวนั้นเป็นเพราะว่าช่วงเกิดเหตุถนนมืด บวกกับลูกชายขับรถมาด้วยความเร็วจึงมองไม่เห็นกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ในส่วนของเรื่องคดีความก็ขอปล่อยเป็นไปตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ตามความเหมาะสม ส่วนเรื่องเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต ตนได้ไปขอขมาศพและร่วมพิธีสวดอภิธรรมศพของผู้เสียชีวิตแล้วในเบื้องต้น