จากกรณีญาติร้องขอความเป็นธรรม เหตุนายสักติชาย โสนทอง อายุ 43 ปี เสียชีวิตบนถนนลูกรัง ใกล้กับหนองน้ำ พื้นที่บ้านหัวแรด-นาโพธิ์ ต.ช่างปี่ อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ซึ่งครอบครัวเชื่อว่าเจ้าตัวอาจจะถูกฆาตกรรมนั้น
วันที่ 30 ต.ค. 61 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ จุดเกิดเหตุ บ้านนาโพธิ์ โดย
น.ส.สมบัติ สมานทอง ภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า วันที่ 27 ก.ย. 61 เวลาประมาณ 18.00 น. สามีออกจากบ้าน ทราบว่าไปนั่งดื่มเหล้าที่บ้านนายกฤษณกานต์ เกตุแก้ว ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.9 บ้านหัวแรด ซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 300 เมตร จากนั้นสามีจึงไปดื่มเหล้าต่อที่ร้านค้า ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร โดยขณะนั้นตนให้ลูกชายโทรไปตามกลับบ้าน แต่เจ้าตัวยังไม่กลับ จนเวลาประมาณ 21.00 น. นายสักติชายโทรศัพท์กลับมาบอกลูกว่า จะไปดื่มเหล้าต่อที่วัดในละแวกบ้าน
น.ส.สมบัติ ยอมรับว่า ตนเองไม่ได้เอะใจ จนกระทั่งเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่า ได้โทรศัพท์ไปสอบถาม เพราะเห็นว่าเจ้าตัวยังไม่กลับบ้าน แต่ก็ไม่มีการตอบรับ ตนก็คิดว่าสามีอาจกำลังดื่มเหล้าอยู่ จึงปล่อยไป
จนกระทั่งช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น ชาวบ้านมาบอกว่า พบศพสามีตน โดยบอกว่าเกิดอุบัติเหตุรถล้ม ซึ่งเมื่อไปดู ก็รู้สึกตกใจที่เป็นสามีตัวเองจริง ซึ่งตนไม่เชื่อตั้งแต่ตอนแรกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุ เพราะสภาพศพของสามีนั้น ที่ศีรษะมีเลือดไหลจำนวนมาก ลักษณะคล้ายถูกทุบด้วยของแข็ง และสภาพรถที่ทับตัวผู้เสียชีวิตไม่ได้มีร่องรอยถลอก ประกอบกับกุญแจรถยังปิดอยู่ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าสามีมีศัตรูหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเจ้าตัวไม่เคยเล่าให้ฟัง แต่ตนพอทราบว่าสามีแอบคุยกับผู้หญิงคนอื่น ซึ่งไม่มั่นใจว่ามาจากประเด็นดังกล่าวหรือไม่
นอกจากนี้ เมื่อวานที่ผ่านมา (29 ต.ค.) หลังตนไปร้องที่สถานีตำรวจ ก็มีข้อความส่งมาในโทรศัพท์ของญาติตน โดยพิมพ์แบบสะกดคำผิด ๆ ถูก ๆ ใจความว่า “คงจะนิสัยเหมือนเดิมมั้ง เดี๋ยวก็โดนอีกหรอก ไม่พลาดแน่” ซึ่งตนให้หลานสาวโทรศัพท์กลับไปที่เบอร์ดังกล่าว ปรากฎว่าเป็นผู้หญิงรับสาย และไม่ยอมบอกชื่อ จึงคิดว่าอาจมีการส่งข้อความมาข่มขู่
นอกจากนี้ ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านของ
นายกฤษณกานต์ เกตุแก้ว ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.9 บ้านหัวแรด ต.ช่างปี่ จุดที่ถูกระบุว่า นายสักติชาย มานั่งกินเหล้าเป็นจุดแรกก่อนเสียชีวิต
โดยนายกฤษณกานต์ เล่าว่า เวลาประมาณ 18.00 น. นายสักติชายซื้อเบียร์มานั่งกินที่บ้านตน จำนวน 1 ขวด โดยมีภรรยาและหลานของตนนั่งร่วมวง ส่วนตนเพียงแค่นั่งพูดคุย เพราะไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเจ้าตัวก็พูดคุยกับตนตามปกติ ระหว่างนั้นนายสักติชายบอกว่า จะกลับบ้านแล้ว เพราะแฟนโทรศัพท์ตามให้ไปกินข้าว
หลังจากนั้น เมื่อนายสักติชายออกจากบ้านตนไปได้ไม่นาน ตนก็ขับรถออกไปส่งลูก และเห็นเจ้าตัวนั่งอยู่ที่ร้านค้า ตนจึงเข้าไปนั่งพูดคุยด้วย ซึ่งนายสักติชายนั่งกินเบียร์ โดยมีเจ้าของร้าน นายวีระ และนายสมจิตร นั่งอยู่ด้วยกัน จากนั้นผู้ใหญ่บ้าน โทรศัพท์มาตาม บอกว่าจะไปเก็บรังต่อที่ทุ่งนา ตนไม่อยากไป จึงขอตัวกลับบ้านพร้อมกับนายวีระ
กระทั่งช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น ทราบข่าวว่านายสักติชายเสียชีวิต ตนก็ตกใจมาก โดยตนเข้าไปดูศพ และจำเสื้อกับกางเกงของเจ้าตัวได้ ซึ่งส่วนตัวไม่ทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุหรือฆาตกรรม เพราะไม่เคยทราบเรื่องปมปัญหาของผู้เสียชีวิต
จากนั้นทีมข่าวเดินทางต่อไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นถนนลูกรัง ติดกับหนองน้ำบ้านนาโพธิ์ ต.ช่างปี่ อ.ศรีขรภูมิ จ.สุรินทร์ โดยพบว่าจุดดังกล่าว มีร่องรอยรถ ลักษณะพื้นถนนขรุขระ มีหลุมประมาณ 2-3 จุด