พระสมปองร่ำไห้สงสารแม่ ถูกคนไล่ให้สึก ขอปรับปรุงตน เดินหน้าช่วยสังคมต่อ (คลิป)

กรณีนายนพดล พรหมภาสิต รองประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย และผู้ร่วมก่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก กล่าวถึงพระมหาสมปอง ว่าทำไมถึงเปิดรับบริจาคเงินช่วยน้ำท่วม โดยใช้หมายเลขพร้อมเพย์เดียวกับบัญชีที่เเจ้งให้คนโอนทำบุญ พร้อมกับเผยแพร่สลิปการโอนบริจาคเข้าบัญชีของพระมหาสมปอง และระบุข้อความตั้งข้อสงสัยว่า "อย่างเราโอนบริจาคให้ พส.จะรู้ได้ไงว่าเงินไหนบริจาคช่วยน้ำท่วม เงินไหนจ่ายค่าดูตลกออนไลน์? ไม่มั่วเหรอ?#เจริญพวง #สภาพ"

ล่าสุดวันที่ 10 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังวัดสร้อยทอง พระอารามหลวง จึงได้พบกับพระมหาสมปอง เเละพระมหาไพรวัลย์ กำลังต้อนรับญาติโยมภายในเจดีย์ของวัด ตั้งเเต่ช่วงเช้า ส่วนช่วงบ่ายมีการต้อนรับญาติโยมที่กุฏิ

สำหรับบรรยากาศภายในวัดสร้อยทอง พบว่ามีญาติโยมและลูกศิษย์ เดินทางมาทำบุญอย่างไม่ขาดสาย จากการสังเกตพบว่ามีทุกเพศทุกวัย ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ทราบว่าเป็นเเฟนคลับของพระมหาสมปอง เเละพระมหาไพรวัลย์ เดินทางมาเพื่อถวายภัตาหารเเละสังฆทาน จากการสอบถามผู้ที่มาทำบุญ ส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจดราม่าเรื่องเงินบริจาค เพราะถือว่าเป็นการทำบุญด้วยใจ 

พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต กล่าวถึงกรณีการไลฟ์ซึ่งมีช่วงหนึ่งได้พูดถึงความรู้สึกถูกกดดัน ถูกด่าด้วยคำหยาบคาย และถูกจ้องจับสึก จนร้องไห้ออกมา รวมถึงขณะนั้นเป็นห่วงความรู้สึกของโยมแม่ที่ป่วยติดเตียง กระทั่งชาวทวิตเตอร์ได้ทวีตข้อความให้กำลังใจ พร้อมติดเเฮชเเท็ก #saveพระมหาสมปอง

พระมหาสมปอง กล่าวว่า อาตมาไม่ได้พาดพิงถึงมหาเถรสมาคม หรือพระเถระชั้นผู้ใหญ่เเต่อย่างใด เเต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าขณะนี้มีบางองค์กร ซึ่งอาตมาไม่ขอเอ่ยนาม กำลังจ้องจับผิด เเละหาช่องเพื่อจะจับอาตมาสึกให้ได้ เเละเมื่อมีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวดังกล่าว ก็ทำให้เเม่ของอาตมาที่ป่วยติดเตียงเเละอายุมากเเล้ว ทำให้เกิดความเครียดเเละไม่สบายใจ จึงทำให้อาตมารู้สึกเป็นห่วงครอบครัว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้จะทำอะไรก็ถูกจับจ้องไปหมด หากถามเรื่องพระธรรมวินัย อาตมาทำได้หมด เเต่บางครั้งก็อยากช่วยเหลือญาติโยมบ้าง ซึ่งอาตมาเป็นเพียงพระเล็ก ๆ รูปหนึ่ง ไม่ได้ต้องการจะขัดขาใคร เเต่เมื่อเจอเรื่องต่าง ๆ โถมเข้ามาก็ทำให้อึดอัด เเละที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีหน่วยงานใดให้ความปกป้องหรือชี้เเนะอาตมา

ในขณะเดียวกัน ตอนนี้มีผู้เเสดงความคิดเห็นหลากหลาย บางส่วนมองว่าอาตมาทำถูก เเต่บางส่วนก็มองว่าอาตมาทำผิด เเละบางคนถึงขั้นเเสดงความคิดเห็นไล่ให้ไปสึก ซึ่งอาตมาขอยืนยันว่า การที่ครองสมณเพศเป็นพระอยู่ในขณะนี้ เพราะเห็นว่าตัวเองยังทำประโยชน์ให้เเก่พระพุทธศาสนาได้ ยังมีญาติโยมนิมนต์ไปเทศน์ เเต่หากวันใดไม่มีคนฟังเทศน์จากอาตมา หรือตัวอาตมาไม่สามารถทำประโยชน์ให้พระพุทธศาสนาได้ อาตมาก็จะไปเอง

ส่วนกรณีบัญชีรับบริจาคน้ำท่วม อาตมายอมรับว่าผิดพลาด เนื่องจากขณะนั้นต้องการช่วยเหลือญาติโยมที่กำลังประสบภัยน้ำท่วม จึงขอรับบริจาคโดยที่ไม่ทราบว่าการรับบริจาคดังกล่าว จะต้องมีขั้นตอนต่าง ๆ มากมาย เเละมีกฎหมายรองรับ ดังนั้น หลังจากที่ได้ปรึกษากับลูกศิษย์ เเละทนายความที่เป็นห่วงเเละหวังดี ได้ให้คำเเนะนำว่าจะต้องเปิดเป็นมูลนิธิ เเต่อาตมามองว่าส่วนตัวยังไม่พร้อม เบื้องต้นจึงเเก้ไขโดยการปรับเปลี่ยนวิธีการรับบริจาค โดยยกเลิกคำว่าช่วยเหลือน้ำท่วม เเต่เปลี่ยนเป็นบัญชีรวมเเบบเดิม ที่จะนำเงินไปช่วยเหลือหลายส่วน ทั้งพระภิกษุ-สามเณร ผู้ประสบภัย เเละช่วยเหลือชาวบ้านในด้านอื่น ๆ ตามสมควร เเทน

พระมหาสมปอง กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีคนโทรศัพท์หาสำนักงานพระพุทธศาสนา เพื่อรายงานว่าการไลฟ์สดที่ผ่านมาของอาตมา อาจจะดูไม่เหมาะสม ซึ่งทางสำนักพุทธศาสนาก็มีหนังสือข้อความส่งถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เเละหน่วยงานดังกล่าวก็ได้ส่งหนังสือมาถึงรักษาการเจ้าอาวาสวัดสร้อยทอง ซึ่งอาตมาก็น้อมรับ เเละนำมาปรับปรุงเเก้ไข ทั้งนี้ อาตมายืนยันว่าหลังจากนี้จะยังคงไลฟ์สดต่อไป เพราะไม่สามารถทอดทิ้งลูกเพจกว่า 1 ล้านคนที่สนับสนุนได้ เเต่จะมีการระมัดระวังมากขึ้น รวมถึงตอนนี้ลูกศิษย์ก็กำลังศึกษาข้อมูลทางด้านกฎหมายมากขึ้น เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำ