นักข่าวสาวระทึกรถจมมิดน้ำท่วมคอ แต่รอดเพราะความบังเอิญ (คลิป)

กรณีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ตัวเมือง จ.จันทบุรี โดยเหตุการณ์หนึ่งมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า napalinee sinthong ซึ่งอาศัยอยู่ในหอพัก โพสต์นาทีรถจมน้ำที่ท่วมบนถนนว่า "#น้ำท่วมจันทบุรี ตอนน้ำเข้ารถแล้วติดอยู่ข้างใน กรี๊ดแทบตาย กว่าจะออกจากรถได้ ขับมาไม่คิดว่าจะท่วมสูงเรื่อย ๆ ขนาดนี้ ตอนรถดับ รถถูกพัดลอยไปเรื่อย ๆ น้ำเข้ารถทีละนิด #จนมันมาถึงอก ร้องไห้ไม่ไหว รถจะซ่อมยังไง ของมีค่าในรถจะยังไง ขอบคุณพี่กู้ภัยที่มาช่วย ก่อนที่น้ำจะท่วมจมูกหนู (ตอนนั้นตะโกน ช่วยด้วยยย สุดเสียง) พรุ่งนี้ว่ากัน คืนนี้หาที่นอน เอาของมีค่าออกจากรถให้มากที่สุด"

ล่าสุดวันที่ 14 ต.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ซอยตากสิน 3 เทศบาลเมืองท่าช้าง ห่างจากคลองทรายประมาณ 100 เมตร จุดนี้เป็นถนนคอนกรีตเล็ก ๆ ไม่ใช่เส้นทางหลัก ซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นทางลงเนินพอดีก่อนจะถึงคลองทราย ทำให้มีน้ำท่วมขังและข้างทางมีการขุดร่องน้ำเอาไว้

น.ส.ณภาลินี สินทอง อายุ 25 ปี ผู้ประกาศสาวช่องเคเบิ้ลในจ.จันทบุรี เปิดใจว่า เมื่อตนคุยธุรกิจที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านต.วัดใหม่ หลังพูดคุยเสร็จก็กำลังเดินทางกลับหอพัก แต่เส้นทางในตัวเมืองที่เคยใช้ประจำ พบว่ามีน้ำท่วมขังรถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้

จากนั้นเพื่อน ๆ ให้ข้อมูลว่า เส้นทางที่เกิดเหตุสามารถผ่านได้ แบบที่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่าน้ำจะท่วมสูงอย่างรวดเร็ว โดยเมื่อตนขับรถมาเรื่อย ๆ มองเห็นเป็นพื้นถนนเปียกจากฝนที่ตกลงมาก่อนหน้า ไม่มีท่าทีว่าจะมีน้ำท่วมขัง แต่จุดที่ประสบเหตุ ถนนเป็นทางลงเนิน เมื่อตนขับลงมาก็เจอกับมวลน้ำขัง ตนก็ได้พยายามกดเกียร์ถอย แต่ก็ถอยไม่ทัน เพราะรถตนเป็นรถเก๋งคันเล็ก เมื่อโดนน้ำเครื่องยนต์ก็ดับ จากนั้นตนไม่สามารถควบคุมรถได้ จนรถได้ไหลไปตามแรงน้ำ ก่อนพาพัดตกลงไปข้างถนน จากนั้นระบบไฟฟ้าในรถก็ช็อตไม่สามารถเปิดกระจกออกจากรถได้

ทั้งนี้ในขณะนั้นตนพยายามเอาชีวิตรอด ทั้งการตะโกนเรียกคน ซึ่งในมือถือโทรศัพท์เอาไว้จึงชูขึ้นให้สูงเหนือน้ำที่สุดและพยายามกดโทรศัพท์ไปหาเพื่อนให้มาช่วย ตอนนั้นก็มืดมาก ๆ ส่วนระดับน้ำจากขาก็เริ่มสูงขึ้นถึงคอ ตนอยู่ในน้ำนานกว่า 15 นาที ทั้งใจเสียและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร 

แต่โชคดีมีกู้ภัยเข้ามาช่วยก่อนที่ตนจะรู้ภายหลังว่า ก่อนหน้าที่รถกันจะประสบเหตุนั้น มีรถคันก่อนหน้าประสบเหตุก่อน แต่สามารถเอาตัวออกจากรถได้และขึ้นมายืนรออยู่บนถนนอีกฝั่ง ก่อนที่จะมีการติดต่อกู้ภัย จึงเป็นจังหวะดีที่กู้ภัยมาถึง และสามารถเข้าช่วยเหลือตนได้ทันเวลา 

สำหรับเส้นทางดังกล่าว ตนเคยใช้สัญจรผ่านไปมาไม่กี่ครั้ง แต่มักจะเดินทางช่วงกลางวัน ตนจึงจำไม่ได้ว่าจุดนี้ใกล้คลองหรือเป็นทางลงเนินมีน้ำขัง อีกทั้งตนไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องรถจมน้ำมาก่อน ตนจึงคิดไม่ออกว่าจะใช้อะไรทุบกระจกออกจากรถ

นอกจากนี้ ในวันดังกล่าวตนรู้สึกว่ามีสัญญาณบอกเหตุอะไรบางอย่าง เนื่องจากเป็นเวรอ่านข่าว แต่ช่วงที่อ่านข่าวใจก็ใจหวิว ๆ แต่ไม่ได้คิดว่าจะเกิดเรื่องราวเช่นนี้ คิดว่าคงพักผ่อนน้อย น่าจะเป็นลางสังหรณ์เตือนว่าจะมีเหตุเกิดขึ้นกับตน อีกทั้งตอนนี้ตนอยู่ในช่วงอายุ 25 ปี แต่ก็เลยวันเกิดมาแล้วหลายเดือน เพราะตนเกิดเดือนม.ค. ตนจึงคิดว่าจะพ้นในช่วงนี้แล้วแต่ก็ไม่พ้น และอยู่ในช่วงประกันรถขาด ก็เป็นเคราะห์ซ้ำไปอีก ส่วนรถประเมินค่าเสียหายแล้วประมาณกว่า 50,000 บาท

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ตนโชคดีมาก ๆ ที่มีคนมาช่วยชีวิตได้ทัน อาการเจ็บแค่ฟกช้ำดำเขียวที่ขาเล็กน้อย เพราะเป็นช่วงที่ตนพยายามที่จะเอาชีวิตรอดออกมา จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนอยากบอกผู้หญิงทุกคนว่า ทุกครั้งที่ขับรถคนเดียวเวลากลางคืน หรือเดินทางไกลให้ศึกษาเส้นทางที่จะไป โดยเฉพาะสถานการณ์น้ำท่วมว่า เส้นทางที่จะไปสามารถไปได้หรือไม่ รวมไปถึงการมีความรู้รอบตัวในการช่วยเหลือตัวเองเวลาประสบเหตุหรืออุบัติเหตุต่าง ๆ