จากกรณีที่เกิดเหตุเด็กหญิงวัย 4 ชวบ ถูกเด็กชาย วัย 14 ปี ซึ่งบ้านอยู่ใกล้เคียงกันถอดกางเกงและใช้มือล่วงละเมิดทางเพศอยู่ เมื่อผู้ปกครองของเด็ก 4 ขวบทราบ จึงเรียกลูกมาสอบถามโดยลูกสาวเล่าให้ฟังว่า ถูกกระทำอย่างนี้มา 4 ครั้ง จากนั้นไปแจ้งทางพ่อแม่ของเด็กชายคนดังกล่าว แต่ถูกซ้ำเติมว่าไม่สามารถเอาผิดอะไรได้ จึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วนั้น (อ่าน :
พ่อเด็กชายวัย 14 เปิดใจ ปัดลูกขืนใจหนูน้อย 4 ขวบ รับแค่หยอกล้อ ลูบคลำ)
ล่าสุด วันที่ 5 พ.ย. 61 พล.ต.ต.สุศักดิ์ ปรักกมะกุล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง เดินทางลงพื้นที่ สภ.บางจัก เพื่อติดตามเร่งรัดดี พร้อมระบุว่า เมื่อวานนี้ (4 พ.ย. 61) สหวิชาชีพ ได้เชิญตัว เด็กหญิงวัย 4 ขวบ มาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมให้คำปรึกษาผู้ปกครองของเด็ก ในเรื่องการเยียวยาค่าเสียหายในคดีอาญา ในส่วนของ เด็กชาย 14 ปี ขณะนี้ยังไม่ได้มีการเรียกมาสอบสวน เนื่องจากเป็นเยาวชนต้องรอสหวิชาชีพ เป็นผู้เข้าร่วมสอบสวน แต่ขณะนี้ต้องรอผลการตรวจสอบร่างกายของเด็กหญิงวัย 4 ขวบ จากแพทย์ก่อน
ขณะเดียวกัน พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้ดำเนินคดีอย่างรัดกุม และให้ความเป็นธรรมกับคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายด้วย
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาสอบถามเพื่อนตำรวจของพ่อเด็กชายวัย 14 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยทราบว่าขณะนี้พ่อของเด็กชายวัย 14 ปี ยังไม่มาที่ สน. เนื่องจากยังไม่ถึงเวลาเข้างานของฝ่ายงานดังกล่าว และครอบครัวนี้ไม่ได้พักอยู่ที่โครงการบ้านพักข้าราชการตำรวจส่วนนี้ ส่วนแม่ของเด็กชาย 14 ปี อยู่ที่บ้าน เป็นแม่บ้าน โดยวันนี้คาดว่าเด็กชายวัย 14 ปี เดินทางไปเรียนตามปกติ
ขณะที่โรงเรียนของเด็กหญิง 4 ขวบ มีนักเรียนทั้งหมดกว่า 2,000 คน ครู 80 คน ซึ่งมีนักเรียนตั้งแต่อนุบาลจนกระทั่งถึง ป.6 ซึ่งเด็กชายวัย 14 ปี เคยศึกษาที่โรงเรียนแห่งนี้ จนจบการศึกษาชั้น ป.6 โดยอดีตคุณครูประจำชั้นเด็กชาย 14 ปี เปิดเผยว่า เมื่อครั้งเด็กชายเรียนที่โรงเรียนนี้ ไม่ได้มี พฤติกรรมเบี่ยงเบน ตุ้งติ้ง หรือมีการแสดงออกทางเพศที่แตกต่างจากเด็กปกติทั่วไป เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน พูดน้อย อีกทั้งไม่ได้มีท่าทางพฤติกรรมโดดเด่นแปลกไปจากคนอื่น ส่วนกลุ่มเพื่อน ก็มีทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงที่เรียนอยู่ภายในห้อง และมักจะวิ่งเล่นด้วยกันตามปกติ ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด
นอกจากนี้ อดีตครูประจำชั้น กล่าวว่า ตกใจกับเรื่องดังกล่าว เพราะไม่คิดว่าเด็กชายจะมีพฤติกรรมลักษณะเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าสามารถเกิดขึ้นได้ เป็นไปได้หมด เพราะช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลง ช่วงที่เด็กย้ายไปโรงเรียนอื่น ปัจจัยสิ่งแวดล้อม หรือสิ่งเร้าภายนอก ย่อมมีผลทำให้พฤติกรรมเด็กเปลี่ยนแปลงไปได้
แพทย์หญิงอนัญญา สินรัชตานันท์ จิตแพทย์เด็ก โรงพยาบาลยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้หากเป็นเรื่องจริง ถือเป็นความผิดปกติทางพฤติกรรมที่เด็กชาย ล่วงละเมิดเด็กหญิงวัยเพียง 4 ขวบ ซึ่งเด็กทั้งคู่ต้องได้รับการการบำบัด สำหรับเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และการเยียวยาสภาพทางจิตใจ ซึ่งผู้ปกครองจะต้องให้กำลังใจ คอยดูแล ทำให้เด็กรู้สึกปลอดภัย เช่น โอบกอด และอธิบายว่าลูกถูกทำร้ายแบบไหน เพื่อประเมินว่าเด็กเข้าใจเหตุการณ์นี้ไปในทิศทางใด ซึ่งเด็กวัยนี้จะไม่แสดงออกมาเป็นคำพูด แต่จะแสดงออกมาทางอารมณ์ และเป็นจุดที่ต้องเฝ้าระวัง
ส่วนเด็กชายวัย 14 ปี ก็ต้องเข้ารับการบำบัด และประเมินจิตใจเช่นเดียวกัน ว่ามีเหตุจูงใจอะไรให้ก่อเหตุ ส่วนทางด้านการเอาผิดเด็กอายุ 14 ปี ถือว่าเข้าข่าย พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก ปี 2546 แต่ทั้งนี้ จะต้องได้รับการประเมินก่อนว่าสภาพจิตใจเป็นอย่างไร สิ่งแวดล้อมทางครอบครัวเป็นอย่างไร รวมถึงมาตรฐานการเลี้ยงดู ซึ่งถ้าต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานการเลี้ยงดูตามกฎหมาย ผู้ปกครองต้องรับโทษ เช่น การแยกลูกออกมาให้ผู้ที่มีความพร้อมดูแลแทน อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์นี้สหวิชาชีพจะมีการสอบเด็กชายวัย 14 ปีเพิ่มเติม