จากกรณีเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 18 ต.ค. 64 ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.เสริมขวัญ นิมิต รองผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้กำลังตำรวจชุดไล่ล่า สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช นำโดย พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ รามสวัสดิ์ ผกก.สภ.สิชล, พ.ต.ท.บัณฑิต สุขะวิศิษฎ์ รองผกก.ป., พ.ต.ท.ภูรินทร์ เพชรที่วัง สว.สส., นายวีระชัย บุญนิสัย ปลัดอำเภอสิชล, นายสุพจน์ พูลสวัสดิ์ อดีตนายกอบต.สิชล ได้ร่วมกันสนธิกำลังตำรวจชุดสืบสวน และ อส.ฝ่ายปกครอง จำนวนกว่า 20 นาย พร้อมอาวุธปืนครบมือ
ได้บุกขึ้นไปบนยอดภูเขาห้วยโศก หมู่ 11 ต.สี่ขีด อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช เข้าทำการจับกุมนายณัฐกานต์ เกสรสิทธิ์ อายุ 30 ปี แหกคุกขโมยรถกำนันหลบหนี
สืบเนื่องจากเมื่อเช้า 17 ต.ค. 64 ที่ผ่านมา ขณะที่นายณัฐกานต์ หรือ อาย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิชล จับกุม ในข้อหาเสพยาเสพติด และคุมตัวมาคุมขังในห้องขัง สภ.สิชล และขณะที่นายณัฐกานต์ถูกคุมขังในห้องขัง ได้หลอกล่อสิบเวรด้วยการพยายามใช้เสื้อผ้าจะผูกคอตายในห้องขัง ทำให้สิบเวร และตำรวจในโรงพักได้เปิดห้องขังเข้าไปช่วยเหลือห้ามปราม มีการกอดรัดจนชุลมุนห ลังจากตำรวจได้ปลอบโยน นายณัฐกานต์สงบลง เจ้าหน้าที่ตำรวจพากันเดินออกจากห้องขัง แต่เกิดเผลอทำไฟแช็กหล่นในห้องขัง ทำให้นายณัฐกานต์เก็บไว้ได้
จนกระทั่งช่วงเย็น นายณัฐกานต์ได้แผลงฤทธิ์ หลอกล่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง ด้วยการใช้ไฟแช็กจุดกล่องโฟมข้าวในห้องน้ำ จนไฟลุกไหม้กล่องข้าว ควันไฟลุกโชน ทำให้สิบเวร และตำรวจในโรงพักตกใจ รีบไขกุญแจห้องขังเข้าไปดับไฟ นายณัฐกานต์รีบวิ่งหนีออกจากห้องขังออกไปหน้าโรงพัก และวิ่งไปทางหน้า รพ.สิชล พบกับนายพูนสินธ์ พูลสวัสดิ์ กำนัน ต.สิชล ได้ขับรถยนต์กระบะจอดรถติดเครื่องอยู่ แล้วลงไปยืนทำธุระนอกรถ นายณัฐกานต์รีบวิ่งไปเปิดประตูรถยนต์กระบะขับรถของกำนันหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
ขับมุ่งหน้าไปทางขึ้นภูเขาห้วยโศกหมู่ 11 ต.สี่ขีด จากนั้นนายณัฐกานต์ได้ทิ้งรถกระบะไว้เชิงภูเขา เดินเท้าหลบหนีขึ้นไปบนภูเขาหลบหนีไป โดยหยิบอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดของกำนันที่อยู่ในรถติดตัวไปด้วย
หลังเกิดเหตุกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิชล และ อส.ฝ่ายปกครอง กว่า 20 นาย พร้อมอาวุธปืนครบมือได้ติดตามไล่ล่านายณัฐกานต์อย่างกระชั้นชิด ไปถึงจุดที่ทิ้งรถไว้เชิงภูเขา แต่เนื่องจากมืดค่ำและฝนตกหนักตลอดทั้งคืน กำลังเจ้าหน้าที่ได้หยุดการไล่ล่า และปิดล้อมภูเขาลูกดังกล่าวเอาไว้ทั้งคืน
จนกระทั่งรุ่งเช้าบุกขึ้นไปบนภูเขา เดินเท้ากว่า 2 ชม. จนถึงยอดเขา พบนายณัฐกานต์นอนหลับอยู่ในขนำยอด กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงปิดล้อมจู่โจมเข้าชาร์จจับกุมได้ ก่อนคุมตัวลงจากภูเขา ดำเนินคดีที่ สภ.สิชล ต่อไป โดยนายณัฐกานต์ ผู้ต้องหา รับสารภาพสาเหตุที่หลบหนีออกจากห้องขัง เนื่องจาเกิดความเครียด หลังถูกจับกุมแต่ไม่มีญาติมาเยี่ยม จึงวางแผนหลอกล่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหลบหนี
นายพูนสินธ์ พูลสวัสดิ์ กำนันตำบลสิชล เล่าว่า วันที่ 17 ต.ค. 64 ตนเดินทางไปที่โรงพยาบาลสิชล เนื่องจากภรรยาคลอดลูก ซึ่งกำลังจะจอดรถแถวโรงพยาบาล โดยขณะที่กำลังถอยรถจอด เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังชุลมุน ตนจึงลงจากรถไปสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้นโดยที่ไม่ได้ดับเครื่องยนต์ ในจังหวะที่มีการลงรถ ตนก็ไม่ทราบว่าผู้ต้องหาแอบย่องขึ้นรถไปตอนไหน ทราบอีกทีก็คือรถถูกขับหนีออกไปแล้ว
ขณะนั้นตนซ้อนรถจักรยานยนต์ไปกับกู้ภัย ได้ยินเสียงวิทยุรายงานว่าผู้ต้องหามุ่งหน้าไปทาง 4 แยกน้ำตกสี่ขีด สอบถามคนในพื้นที่ พบว่า ผู้ต้องหาบ้านอยู่แถวพื้นที่ดังกล่าว แล้วก็รถกระบะของตนจอดอยู่ข้างทาง สำรวจพบอาวุธปืนและกุญแจรถหายไป จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำอาวุธครบมือเข้าพื้นที่ เพราะผู้ต้องหามีอาวุธ มีการวางกำลังจนถึงเช้าวันนี้ เวลา 11.00 น. ผู้ต้องหายอมให้จับโดยดี ส่วนตัวได้ของคืน และไม่ได้โกรธเคืองหรือเอาโทษ ซึ่งก็รู้สึกตกใจ ไม่คิดว่าจะเกิดปัญหาวุ่นวายแบบนี้
ด้านดาบตำรวจไวยากร ญาติของผู้ต้องหา บอกว่า หลานคนนี้ตอนเด็ก ๆ กำพร้าพ่อแม่ มาอยู่กับศัยอยู่กับย่าเขาและตนเอง ตั้งแต่อายุ 9 ปี หลังจากนั้นเมื่อโตขึ้นก็ไปมีครอบครัว มีภรรยา และเลิกกันไป หลังจากนั้นทราบมีพฤติกรรมติดยาเสพติด จากเดิมมีนิสัยเงียบ ไม่ค่อยพูด คิดว่าน่าจะเป็นซึมเศร้า มีอาการทางจิตร่วมด้วย และมีปมด้อยที่กำพร้าพ่อแม่
ส่วนวันเกิดเหตุตนคิดว่าจะเดินทางไปเยี่ยมหลานในช่วงเย็น แต่ก็มาเกิดเหตุหลานหนีห้องขังไปก่อน หลังจากนี้ก็คงปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย