บาส มีดคู่ ออกรพ.ร่ำไห้เครียดจนอยากตาย รุดกราบเท้าผู้มีพระคุณ "อนันต์ชัย" มอบ 1 แสน (คลิป)

20 ต.ค. 64

จากกรณีค้นชุมชนบางม่วง ตำรวจสืบสวน สน.เพชรเกษม ร่วมกับตำรวจสืบสวนนครบาล 9 พร้อมด้วยตำรวจ 191 สนธิกำลัง และหมายค้นของศาลอาญาธนบุรี เข้าตรวจค้นบ้านพักในชุมชนวัดม่วงรวม 9 จุด 13 เป้าหมาย หลังจากพบว่ามีการโพสต์ข้อความข่มขู่ในสื่อสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับกรณีนายณัฐวัฒิ พึ่งฤกษ์ดี หรือ บาส ใช้มีดแทงกลุ่มวัยรุ่น 6 คนเสียชีวิต 2 คน บริเวณหน้าบ้านพักในหมู่บ้านสุขสันต์ 6 นั้น

368500

วันที่ 20 ต.ค. 64 เวลา 13.30 น. นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง เดินทางมาที่บ้านของหมอปลา อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี เพื่อเข้ามาพูดคุยกับ นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความสำนักงานไพศาล เรืองฤทธิ์, นายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิตะ รวมถึง หมอปลา มือปราบสัมภเวสี หรือ นายจีรพันธ์ เพชรขาว พร้อมด้วย เสี่ยเปีย หรือ นายสาริต แสงจันทร์ เจ้าของเฟรนไชน์ "หมูปิ้งนมสดอร่อยจุงเบย"

417466

ก่อนที่จะประชุมหารือ เกี่ยวกับเรื่องคดีความ นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความสำนักงานไพศาล เรืองฤทธิ์ ได้นำพวงมาลัยมาให้ นายอนันต์ชัย ไชยเดช เพื่อไหว้ในฐานะครู ซึ่งเป็นทนายความต้นแบบ

483720

ด้านนายอนันต์ชัย ไชยเดช เปิดเผยว่า ตอนแรกที่ตนเห็นข่าว ได้โพสต์ข้อความว่า "ณัฐวุฒิ เสื้อเหลือง ใจน้องได้ เกินร้อย ถ้ามีโอกาส เราจะได้เจอกัน" กระทั่งมีคนติดต่อมาอยากให้ตนช่วยทำคดีนี้ เพราะเห็นว่าตนเคยมีประสบการณ์มาก่อน กรณีของนายณัฐวุฒิ หรือ บาส มือมีดคู่ 6 รุม 1 มีความคล้ายคลึงกับคดีความของ 7 โจ๋ฆ่าคนพิการ หรือ นายสมเกียรติ ศรีจันทร์ ที่ถูกรุมทำร้าย แต่ต่างกันที่ว่านายสมเกียรติเสียชีวิต จึงกลายเป็นผู้เสียหายด้วย

โดยคดีของบาส มีดคู่ ทางทนายไพศาล เป็นทนายความให้อยู่แล้ว ตนจึงมาในฐานะที่ปรึกษา และช่วยชี้แนวทางให้ทนายความ ทั้งนี้ตนไม่ขอพูดถึงรูปของคดีนี้ แต่ขอยกเรื่อง 7 โจ๋มารุมคนพิการมาเป็นยกตัวอย่างเพื่อเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การที่นายบาสพกอาวุธมีดออกไปในขณะที่ถูกท้าทาย มองว่าไม่ใช่การพกพาอาวุธ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เพราะคู่กรณี ฝั่งของผู้ตายไม่มีความชอบธรรมตั้งแต่ยกพวกมาถึงหน้าบ้าน ซึ่งมีความตั้งใจว่าจะรุมทำร้าย ตั้งแต่กล่าวว่าออกมาเลย ๆ โดยหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฝั่งของคู่กรณี หรือคนที่แอบอ้างเป็นฝั่งของคู่กรณีได้มีการข่มขู่ทางเฟซบุ๊ก ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์กับฝั่งของนายบาส เพราะแสดงให้เห็นว่า ถ้าวันนั้นนายบาสไม่ออกไป ในอนาคตนายบาสอาจจะถูกทำร้ายได้ ซึ่งกรณีนี้เป็นสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการออกหมายตรวจค้นบ้าน

521924

หากนายบาสได้รับโทษน่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่บันดาลโทสะ ส่วนเรื่องของการป้องกันนั้นจะชอบด้วยกฎหมาย หรือเกินกว่าเหตุหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องไปตรวจสอบกันอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควรจะไปสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์ให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 สัปดาห์ มิเช่นนั้นพยานจะหายไปหมด เพราะกว่าจะได้ขึ้นศาล น่าจะเป็นช่วงปลายปี 2565-2566 ทั้งนี้ทางคู่กรณี ฝั่งของผู้ตาย มีการทาบทามตนมาจริง แต่ตนได้ปฏิเสธไป เพราะตนมองว่าความชอบธรรมของคุณหมดไปแล้ว ตั้งแต่ตอนที่คุณยกพวกมา

กรณีที่สัมคมตั้งคำถามว่าทำไมต้องมาช่วยคนที่ฆ่าคนตาย ตนมองว่าถ้าในทางกลับกันแล้วหากนายบาสตายจะทำอย่างไร แต่กรณีนี้ตรงข้ามกัน นายบาสยังอยู่ แต่คนที่บุกมาหน้าบ้านตายจะทำอย่างไร เพราะถ้าคุณไม่ยกพวกมา แล้วเขาจะไปต่อสู้ได้อย่างไร ซึ่งขนาดนายบาสมีอาวุธ คู่กรณีก็ยังไม่กลัว และยังต่อสู้กลับด้วยอิฐ และอุปกรณ์ที่นำมาจากข้างทาง

สำหรับเงินจำนวน 1 แสนบาท ทางประธานของโรงพยาบาลบางนา สาขา 1 สาขา 2 และสาขา 5 ได้มอบหมายให้ตนนำเงินจำนวนนี้มาให้นายณัฐวุฒิ หรือ บาส ไว้ใช้ส่วนตัว เนื่องจากช่วงนี้อยู่ในระหว่างการรักษาตัว อาจจะไม่สะดวกที่จะไปทำงาน

735123

จากการสอบถาม นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความสำนักงานไพศาล เรืองฤทธิ์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนดีใจมาก เมื่อทราบว่า นายอนันต์ชัยจะเข้ามาให้คำปรึกษาในเรื่องของคดีความ เพราะตนนับถือนายอนันต์ชัยเป็นอาจารย์ และเชื่อว่าคดีนี้จะได้รับความยุติธรรมแน่นอน

นอกจากนี้ ตนอยากจะฝากถึงกลุ่มคนที่โลกสวยว่า อยากจะมองเหตุการณ์ในวันนั้นใหม่ เพราะตนไม่อยากจะให้เหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นในสังคมอีก สำหรับกระแสสังคมที่มีการโพสต์ข่มขู่หรือพาดพิง ตนไม่ได้รู้สึกกดดัน เพราะตอนนี้ตนได้รับกำลังใจจากการทำดี และเชื่อว่า สังคมน่าจะมองเห็นความถูกต้อง

286692

เวลาประมาณ 16.30 น. หมอปลา พี่น้ำฟ้า ภรรยา พร้อมด้วยทีมงาน และ พญ.เกศกาล เปลี่ยนสมัย เจ้าของคลินิกเกศกมลเพชรบุรี รวมถึงแม่ และแฟนของนายณัฐวุฒิ เดินทางไปที่โรงพยาบาลใน จ.เพชรบุรี เพื่อรับตัว

541079

ทั้งนี้ เมื่อนายณัฐวุฒิเดินทางมาถึงบ้านพักของหมอปลาได้นำพวงมาลัยมากราบขอบคุณหมอปลา นายอนันต์ชัย นายไพศาล และเสี่ยเปีย

297166993777

จากนั้น ทนายอนันต์ชัย นำซองบรรจุเงินสด 100,000 บาท จากนายประเสริฐ ทองปลาเค้า ประธานกรรมการโรงพยาบาลบางนามามอบให้นายณัฐวุฒิ บนจดหมายมีข้อความที่เขียนด้วยลายมือ ระบุว่า "สำหรับ คุณณัฐวุฒิ พึ่งฤกษ์ดี เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่จำเป็น จากนายประเสริฐ ทองปลาเค้า ประธานกรรมการ โรงพยาบาลบางนา"

868418

ด้าน ทนายอนันต์ชัย กล่าวกับทุกคนว่า ตอนแรกตนไม่ได้สนใจคดีความเรื่องนี้ แต่พอได้ดูข่าว ซึ่งมีเหตุการณ์คล้ายกับกรณีของนายสมเกียรติ นายประธาน ประเสริฐ ประธานกรรมการ โรงพยาบาลบางนา ซึ่งเคยมอบเงินให้กับผู้เสียหายกรณีเด็กหายในไร่อ้อยได้กล่าวกับตนว่า "ประทับใจเด็กคนนี้ ใจกล้าเหมือนผม" จึงอยากจะให้เงินเป็นค่าใช้จ่ายไว้เลี้ยงตัวเอง ตอนแรกตนได้ติดต่อผ่านทางหนุ่ม กรรชัย เพื่อขอให้ช่วยติดต่อทางหมอปลา จึงได้มีโอกาสพูดคุยกัน และตนได้ยื่นมือเข้ามาช่วยด้วยการให้คำแนะนำกับทางทนายไพศาล ซึ่งตนเชื่อว่าฝีมือไม่ได้ธรรมดา

903217

นอกจากนี้ ตนอยากจะขอบคุณหมอปลา เสี่ยเปีย ที่เห็นซึ่งมนุษยธรรม ถ้ามิเช่นนั้นนายบาสอาจจะยังอยู่ในคุก และมืออาจจะพิการ ทั้งนี้ ตนอยากจะทราบว่าตอนที่นายบาสออกมาสู้ ตอนนั้นคิดอะไรอยู่ เพราะถ้าเป็นคนอื่น อาจจะไม่กล้าออกมา อีกทั้งจากที่บาสให้สัมภาษณ์ ตนพิจารณาดูแล้ว เชื่อว่านายบาสน่าจะเป็นคนดี และไม่น่าจะผิดหวัง ส่วนในรูปคดีไม่ขอพูดถึง

301742

นางสาวอั้ม (นามสมมติ) แม่ของนายบาส เปิดเผยว่า ตนรู้สึกดีใจมาก เพราะตอนนี้ได้รับกำลังใจล้นหลาม มีคนยื่นมือเช้ามาช่วย ซึ่งวันแรกที่ถูกจับ ลูกชายของตนเคยคิดจะทำร้ายตัวเองจริง และตนก็พยายามให้กำลังใจพร้อมกับรับปากว่าจะหาวิธีช่วยเหลือ นอกจากนี้ ตนอยากจะขอบคุณสื่อมวลชนที่นำเสนอข้อเท็จจริงให้ ขอบคุณทนายความทุกคนที่เข้ามาช่วยเหลือ

ด้านนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ เปิดเผยว่า ในส่วนของคดีความอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน สำหรับฝั่งของคู่กรณี ตอนแรกได้ยื่นแจ้งความไปทั้ง 6 ข้อหา คือ บุกรก ข่มขู่คุกคาม ดูหมิ่น ทำให้เสียทรัพย์ ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส และซ่องโจร แต่ตอนนี้ถูกแจ้งแค่ 2 ข้อหาเท่านั้น หากยังไม่มีการดำเนินการเพื่อแจ้งข้อหาเพิ่ม ทางทีมทนายความพร้อมที่จะติดตามความเคลื่อนไหว เพื่อที่จะดำเนินการด้วยเช่นกัน

855022

นายณัฐวุฒิ พึ่งฤกษ์ดี หรือ บาส อายุ 21 ปี ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุ ตนถือมีดออกไป เพราะตนต้องการที่จะปกป้องคนที่เรารัก ซึ่งวินาทีนั้นตนยอมรับว่ารู้สึกกลัว และได้พูดให้กำลังใจตัวเอง หลังจากเกิดเหตุจนถึงวันนี้ ตนรู้สึกดีที่ทุกคนยื่นมือเข้ามาช่วย แต่ยอมรับว่ายังรู้สึกกังวลใจ เพราะคู่กรณีมีการโพสต์ข่มขู่ ซึ่งทำให้ตนหวาดระแวง ส่วนอาการบาดเจ็บขณะนี้ดีขึ้นแล้ว แต่ยังต้องเข้ารับการรักษา และติดตามอาการต่อไป

ขณะที่เกิดเหตุตนคิดอย่างเดียวอยากจะปกป้องแฟน เพราะไม่อยากจะให้คนที่เรารักได้รับอันตราย ซึ่งวินาทีนั้น ตนยอมรับว่ากลัวอันตราย แต่ต้องเผชิญหน้าเพราะถ้าเรากลัว คนที่เรารักอาจจะไม่ได้มานั่งอยู่ในตอนนี้ หลังจากเกิดเรื่อง ตนก็ยังกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะกลัวว่าคู่กรณีจะไม่จบ และกลัวว่าจะมาล้างแค้น

133002

ก่อนหน้านี้ ตนคิดจะทำร้ายตัวเอง เพราะรู้สึกท้อแท้กับชีวิต เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วันแรกที่ถูกจับตนยอมรับว่าร้องไห้ด้วยความกังวลใจ ส่วนอาการบาดเจ็บ ตนยังรู้สึกเจ็บแผลอยู่ เพราะแขนหัก และจากนี้ยังต้องไปติดตามอาการที่โรงพยาบาลจนกว่าจะหายดี ส่วนสภาพจิตใจของตน ตอนนี้ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะได้กำลังใจจากทุกฝ่าย สุดท้ายนี้ ทีมข่าวได้สอบถามนายบาสว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะทำอย่างไร นายบาสไม่ได้ตอบคำถาม พร้อมกับร้องไห้ และก้มหน้า

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม